img


7 เทคนิคเลือกเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี กรองอากาศได้อย่างเห็นผล

เดิมที “เครื่องฟอกอากาศ” เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้เท่านั้น แต่เมื่อระดับของมลภาวะทางอากาศในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่นับวันยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับทุกบ้านไปโดยปริยาย เพราะฝุ่น PM2.5 ที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน สามารถเล็ดลอดเข้าไปในบ้านของคุณได้ทุกเมื่อ แม้คุณจะปิดประตูหน้าต่าง หรือทำความสะอาดบ้านอยู่เป็นประจำก็ตาม



และจากที่เราได้เห็นเครื่องฟอกอากาศบนท้องตลาดในขณะนี้ พบได้ว่ามีเครื่องฟอกอากาศให้เลือกซื้อกันเยอะมากมายเลยทีเดียว “เครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี? เครื่องฟอกอากาศกรอง PM2.5 ได้มากแค่ไหน?” จึงเป็นคำถามยอดฮิตที่ใครๆ ก็อยากรู้กัน ซึ่งทาง Global House ก็ไม่รอช้า ขอจัด Checklist สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนซื้อเครื่องฟอกอากาศให้เช็กทันที! พร้อมอธิบายว่าเครื่องฟอกอากาศมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ควรค่าแก่การซื้อมาใช้งานจริงไหม และเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดีที่สุดในตอนนี้!


หัวข้อไฮไลท์

  • 7 เทคนิคเลือกเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี ในปี 2567
  • เครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี? ดีไซน์สวยและทันสมัย
  • สรุปบทความ


7 เทคนิคเลือกเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี ในปี 2567


เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนอากาศทั่วไป ให้กลายเป็นอากาศบริสุทธิ์เหมาะแก่การสูดเข้าร่างกาย เนื่องจากอากาศทั่วไปมักจะมีเชื้อโรค ฝุ่นละออง และกลิ่นปะปนอยู่ด้วย หากสูดเข้าไปในร่างกายมากๆ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อปอดและสุขภาพร่างกายได้ ดังนั้น ก่อนที่จะได้อากาศบริสุทธิ์ออกมา อากาศจะผ่านขั้นตอนการคัดกรองและดักจับสิ่งปะปนเหล่านี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จะบอกว่าเครื่องฟอกอากาศเป็นสิ่งพื้นฐาน ที่ควรมีอยู่ในที่พักอาศัยก็ว่าได้ อย่างห้องนอนก็เป็นห้องที่นิยมวางเครื่องฟอกอากาศไว้มากที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้รับอากาศที่สะอาดและเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในระหว่างการพักผ่อน นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศยังได้รับความนิยมในสถานที่ที่มีคนเยอะๆ อย่างสถานที่ทำงาน ออฟฟิศด้วยเช่นกัน

แต่เครื่องฟอกอากาศก็ไม่ได้มีเพียงข้อดีเท่านั้น ยังมีข้อเสียที่คุณต้องพิจารณาเช่นกัน คือ สามารถกำจัดฝุ่นและฟอกอากาศได้ในพื้นที่ที่จำกัดเท่านั้น ตามระยะที่กำหนดในเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่น ไม่สามารถกำจัดฝุ่นได้ทุกพื้นที่ภายในบ้าน เพื่อประสิทธิภาพในการกรองอากาศที่ดีที่สุด ซึ่งถ้าบ้านของคุณมีห้องแยกออกไปหลายห้อง แนะนำให้ใช้ห้องละ 1 เครื่องเลยจะเป็นการดีที่สุด หรือสามารถใช้เครื่องดูดฝุ่น หรือแอร์ที่มีระบบกรองอากาศควบคู่กัน และนี่คือ 7 เทคนิคในการเลือกเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี ฉบับอัปเดตข้อมูลล่าสุดปี 2567



1. สิ่งแวดล้อมภายในห้อง

อย่างแรกเลยคุณต้องเช็กสภาพแวดล้อมภายในห้องของคุณเสียก่อน ทั้งสมาชิกที่อาศัยอยู่ (จำนวนคนและสัตว์เลี้ยง), กลิ่นต่างๆ (กลิ่นควัน กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอาหาร กลิ่นมูลสัตว์ กลิ่นสัตว์ ฯลฯ), โรคประจำตัวของสมาชิกภายในบ้าน (โรคภูมิแพ้ หอบหืด) และรวมไปถึงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่ด้วย ว่ามีค่าของฝุ่นสูงในระดับที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ จะทำให้คุณได้เครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับการใช้งานจริง รวมถึงกรองอากาศได้มีประสิทธิภาพและเหมาะกับห้องของคุณมากที่สุดด้วย


2. ขนาดของห้อง

เครื่องฟอกอากาศมีอยู่หลายขนาด ซึ่งขนาดดังกล่าวไม่ใช่ขนาดความใหญ่ของตัวเครื่อง แต่เป็นขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ของห้องแต่ละห้อง ก่อนตัดสินใจว่าจะซื้อเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี คุณต้องรู้ขนาดห้องของตัวเองเสียก่อน และเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ห้องของคุณประมาณ 20-40% จะเป็นการดีที่สุด เพราะถ้าห้องของคุณใหญ่เกินไป เครื่องฟอกอากาศจะไม่สามารถกำจัดฝุ่นได้อย่างทั่วถึง ทำให้อากาศภายในห้องไม่บริสุทธิ์ 100% ด้วยเหตุนี้ การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดสัมพันธ์กันกับขนาดของห้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรนำมาพิจารณา


3. ฟังก์ชันการใช้งาน

อย่างที่เราทราบกันดีกว่าเครื่องฟอกอากาศทุกเครื่อง มีคุณสมบัติในการฟอกอากาศเหมือนกัน ซึ่งสิ่งที่จะทำให้เครื่องฟอกอากาศแต่ละเครื่องแตกต่างกัน หนึ่งในนั้นก็คือฟังก์ชันการใช้งานนั่นเอง หากเครื่องฟอกอากาศที่คุณซื้อมามันไม่มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณ ก็อาจทำให้คุณรู้สึกว่าใช้งานได้ไม่คุ้มค่าคุ้มราคาก็เป็นได้ ตัวอย่างฟังก์ชันที่คุณควรนำมาพิจารณา มีดังนี้

  • กรองฝุ่นได้มากแค่ไหน กรองฝุ่นขนาดไหนได้บ้าง เช่น PM2.5, PM1.0, PM0.3 ฯลฯ
  • รองรับการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi / การสั่งการและควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
  • เซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละอองแบบ Real-Time
  • การแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรองหรือแผ่นกรองอากาศ
  • ฟังก์ชันในการปล่อยกลิ่นหอมสดชื่นออกมาพร้อมอากาศบริสุทธิ์
  • การส่งเสียงเงียบและเบา ไม่รบกวนการพักผ่อนตลอดทั้งคืน
  • หน้าจอแสดงผล LED บอกรายละเอียดเกี่ยวกับค่าต่างๆ


4. แผ่นกรองเครื่องฟอกอากาศ

คุณภาพของแผ่นกรองเครื่องฟอกอากาศก็เป็นเรื่องที่คุณต้องเช็ก เพราะมันส่งผลต่อคุณภาพของอากาศที่คุณจะได้รับด้วย ถ้าบ้านของคุณเลี้ยงสัตว์และมีขนสัตว์ลอยอยู่ทั่วทั้งบ้าน แต่คุณดันเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรองแบบธรรมดาทั่วไป ที่ไม่ได้มีคุณสมบัติในการกรองขนสัตว์ ก็จะทำให้อากาศไม่ได้สะอาดแบบ 100%

แนะนำให้เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีการกรองแบบ 3 ขั้นตอนขึ้นไป, มีแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter (สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ กำจัด PM2.5 ได้ กรองละออง เชื้อรา และขนสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ), มี Activated Carbon Filter (ใช้ในการดูดซับกลิ่นไม่ถึงประสงค์ อย่างกลิ่นอาหาร ควัน สารเคมี หรือแก๊ส) และแผ่นกรองต้องมีอายุการใช้งานนาน 6 เดือนขึ้นไป หรืออย่างน้อย 3 เดือน



5. ดูแลทำความสะอาดง่าย

เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด อาจสกปรกหรือเสื่อมสภาพได้ หากมีการใช้งานไประยะหนึ่ง ซึ่งเครื่องฟอกอากาศก็เช่นเดียวกัน คุณจะต้องคอยเช็กถู ทำความสะอาด และเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ จึงแนะนำให้คุณเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีดีไซน์เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และสามารถถอดเปลี่ยนแผ่นกรองได้ง่ายๆ เพื่อประหยัดเวลาและลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น


6. เสียงของเครื่องฟอกอากาศ

เสียงการทำงานของเครื่องฟอกอากาศเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนมักจะละเลย ในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี จนทำให้เกิดปัญหาเรื่องเสียงรบกวนตามมาในระหว่างการทำงาน หรือการนอนหลับพักผ่อน สำหรับใครที่จะติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ในห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องเด็กเล็ก แนะนำให้เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีการทำงานแบบเงียบๆ (ไม่เกิน 30-50 เดซิเบล)


7. ชื่อเสียงของแบรนด์

อย่างสุดท้ายที่คุณควรนำมาพิจารณาว่าจะชื้อเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดีหรือยี่ไหนห้อดี คงไม่พ้นเรื่องของการเลือกแบรนด์ ซึ่งแบรนด์ดังๆ หรือแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง อย่าง Xiaomi, MAZUMA, SHARP, HAIER, SAMSUNG, LG หรือ CAMARCIO จะทำให้คุณอุ่นใจได้ว่าเครื่องฟอกอากาศที่ซื้อมานั้น มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และสามารถกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน ไม่แนะนำให้ซื้อแบรนด์ที่ไม่รู้จักมาใช้งาน เพราะสินค้าอาจไม่มีคุณภาพ ไม่มีการรับประกัน พังเร็ว ซ่อมยาก และอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของคุณได้อีกด้วย


เครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี? ดีไซน์สวยและทันสมัย


เครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี? ยี่ห้อไหนปัง? Global House คัดสินค้าดีมีคุณภาพมาให้เลือกกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีทั้งเครื่องฟอกอากาศและแผ่นกรองอากาศจากหลายๆ แบรนด์ให้เลือกสรรกัน อาทิ Xiaomi, SHARP, HAIER, MAZUMA, LG, SAMSUNG, CAMARCIO และอื่นๆ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลย


เครื่องฟอกอากาศ SHARP


เริ่มต้นกันด้วยเครื่องฟอกอากาศ SHARP รุ่น FP-J30TA-B ใช้แผ่นกรองอากาศ HEPA Filter มีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ความเข้มข้นสูง พ่นอนุภาคบวกและลบ สามารถฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อภูมิแพ้ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไข้หวัดในอากาศได้ พร้อมกำจัดกลิ่นอับชื้น รวมถึงสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นได้อย่างหมดจด สามารถตั้งเวลาใช้งานได้ (4 หรือ 8 ชั่วโมง)


เครื่องฟอกอากาศ MAZUMA


MAZUMA NANO CARE WiFi สีขาว เครื่องฟอกอากาศที่มาพร้อมเทคโนโลยี Wi-Fi ใช้ในการควบคุมและตรวจสอบเครื่องจากระยะไกล มีระบบกรองอากาศ 3 ขั้นตอน คือ Activated Carbon Filter, HEPA 13 Filter และ Antibacterial Cloth Filter มีเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับฝุ่นละอองแบบเรียลไทม์ และสามารถดูดซับสารเคมีที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เครื่องฟอกอากาศ HAIER
เครื่องฟอกอากาศ HAIER รุ่น KJF400KBAA สีขาว มีระบบการกรองหลายขั้นตอนด้วย Haier Ultra Purifier Plus ที่สามารถปล่อยไอออนประจุลบออกมาดักจับอนุภาคขนาดเล็ก รวมถึง PM2.5 ให้คุณมั่นใจได้ว่าอากาศจะสะอาดบริสุทธิ์ และปราศจากไรฝุ่นทุกมุมห้องอย่างแน่นอน


เครื่องฟอกอากาศ SAMSUNG


เครื่องฟอกอากาศ SAMSUNG รุ่น AX53A9370GE/ST สีขาว ขนาด 53 ตารางเมตร ราคา 29,990 บาท (*ราคาอาจแตกต่างกันในแต่ละสาขา) มาพร้อมระบบกรองอากาศ 3 ขั้นตอน 360 Air Purification  สามารถดูดอากาศได้ 5 ทิศทาง และกระจายอากาศออกได้ 3 ทิศทาง แม้จะอยู่ในพื้นที่กว้างก็สามารถฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ขจัด PM0.3 ได้ดีกว่า 99.9% พร้อมรองรับการสั่งงานระยะไกลผ่าน Wi-Fi


เครื่องฟอกอากาศ CAMERCIO


CAMARCIO เครื่องฟอกอากาศ Camarcio Airy 25 สีขาว ราคา 5,990 บาท (*ราคาอาจแตกต่างกันในแต่ละสาขา) ผลิตจากวัสดุ ABS และ Polypropylene มีระบบการกรองอากาศ 3 ชั้น คือ Pre-Filter, HEPA-Filter และ Activated Carbon Filter พร้อมการทำงานแบบ 4 ขั้นตอน เหมาะสำหรับห้องขนาด 25 ตารางเมตร


ไส้กรองเครื่องฟอกอากาศ XIAOMI


XIAOMI ไส้กรองเครื่องฟอกอากาศ XiaoMi Mi Air Purifier Filter สีม่วง ราคา 990 บาท (*ราคาอาจแตกต่างกันในแต่ละสาขา) มีระบบกรองอากาศแบบ 3 ชั้น คือ Pre-Filter, HEPA-Filter และ Activated Carbon Filter แผ่นกรองมีขนาด 24 x 24 x 30 เซนติเมตร สามารถใช้งานได้ 6 เดือน เหมาะกับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ หรือที่บ้านมีสัตว์เลี้ยง


เครื่องลดความชื้น LG


เครื่องลดความชื้น LG PuriCare Dehumidifier 19 รุ่น MD19GQGA1.ATH ขนาด 19 ลิตร Dual Inverter Compressor มาพร้อมโหมดการทำงานที่หลากหลาย สามารถปรับได้ตามความต้องการ (Smart, Jet, Silent, Spot Dry, Laundry) มีล้อสำหรับเคลื่อนที่ ใช้งานง่าย จับถนัดมือ และสามารถสั่งการผ่านแอปพลิเคชัน ThinQ บนสมาร์ตโฟนได้ทุกเมื่อ


บทสรุป

ยิ่งเราอยู่ในยุคที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เชื้อโรค และมีมลภาวะทางอากาศมากมายขนาดนี้ เครื่องฟอกอากาศถือว่าเป็นไอเท็มสำคัญที่คุณไม่ควรพลาดเลย และก่อนที่คุณจะตกลงปลงใจว่าจะซื้อเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนดี อย่าลืมพิจารณาจาก 7 เทคนิคที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ก่อน ทั้งนี้ คุณสามารถเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศและแผ่นกรองอากาศ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านทุกประเภทได้ที่ Global House ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือสั่งซื้อออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ https://globalhouse.co.th ได้ทุกที่ทุกเวลา!

เครื่องใช้ไฟฟ้า

เครื่องฟอกอากาศ

บริการติดตั้ง-ล้างเครื่องใช้ไฟฟ้า


Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว

เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่

    • Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์

    • Line Official: @globalhouse

    • App: Click&Collect


บริการช่างดี

    • App ช่างดี

    • Web ช่างดีบริการติดตั้ง

    • Facebook: ChangDeeService

    • Line Official: @Changdee




เนื้อหาที่คล้ายกัน