ตู้เย็นเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราใช้งานทุกวัน เก็บทั้งอาหารสด อาหารแช่แข็ง และอาหารปรุงสุก แต่หากละเลยการทำความสะอาด อาจเกิดปัญหา “ตู้เย็นมีกลิ่น” ได้ง่าย ซึ่งกลิ่นเหล่านี้ไม่เพียงสร้างความรำคาญ แต่ยังอาจปนเปื้อนไปสู่อาหารชนิดอื่น ๆ และส่งผลต่อสุขภาพ
ก่อนจะแก้ปัญหา เรามาดูว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็นเกิดจากอะไร
อาหารเน่าเสียหรือหมดอายุ
เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรืออาหารปรุงสุกที่เก็บไว้นานเกินไปจะเริ่มเน่าเสียและปล่อยกลิ่นเหม็นออกมา ซึ่งกลิ่นสามารถซึมไปยังอาหารอื่น ๆ ได้
น้ำหกหรือเศษอาหารตกค้าง
น้ำจากเนื้อสัตว์ น้ำซุป หรือซอสต่าง ๆ อาจหยดลงบนชั้นวางและหมักหมมจนเกิดเชื้อราและกลิ่นเหม็น
ภาชนะปิดไม่สนิท
อาหารดอง เครื่องแกง หรืออาหารที่มีกลิ่นแรง หากปิดฝาไม่แน่น จะกระจายกลิ่นทั่วตู้เย็น
ไม่ได้ทำความสะอาดเป็นเวลานาน
คราบอาหารและฝุ่นที่สะสมในมุมต่าง ๆ ของตู้เย็น เช่น ซีลยาง ลิ้นชัก หรือหลังตู้ ทำให้กลิ่นสะสมเรื่อย ๆ
ช่องระบายอากาศอุดตัน
ช่องหมุนเวียนอากาศในตู้เย็น หากมีเศษอาหารไปปิดกั้น จะทำให้อากาศไม่ถ่ายเทและเกิดความอับ
นำอาหารที่หมดอายุหรือเน่าเสียออกทันที
ตรวจสอบอาหารในตู้เย็นทุกสัปดาห์ คัดทิ้งของที่เน่าเสียหรือเริ่มมีกลิ่น เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นลามไปยังอาหารอื่น
ทำความสะอาดตู้เย็นอย่างละเอียด
ปิดปลั๊กตู้เย็น เพื่อความปลอดภัย
นำชั้นวาง ลิ้นชัก และถาดน้ำออกมาล้าง
ใช้น้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดาเช็ดให้ทั่วทั้งในและนอกตู้ เบกกิ้งโซาช่วยขจัดคราบและดูดซับกลิ่นได้ดี
เช็ดให้แห้งสนิทก่อนประกอบกลับ
ใช้เบกกิ้งโซาดับกลิ่น
ใส่เบกกิ้งโซาลงในถ้วยเล็ก ๆ หรือภาชนะเปิดฝา แล้ววางไว้ในตู้เย็น จะช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ยาวนาน 1–2 เดือน
ใช้ถ่านไม้หรือถ่านกัมมันต์
ถ่านมีคุณสมบัติดูดกลิ่นและความชื้น วางไว้ตามมุมตู้เย็นเพื่อดักจับกลิ่นและยืดอายุความสดของอาหาร
ใช้มะนาวสดหรือผงกาแฟคั่ว
มะนาว: ผ่าครึ่งแล้ววางในถ้วยเล็ก ๆ ช่วยให้กลิ่นภายในสดชื่นขึ้น
กาแฟคั่ว: กลิ่นหอมของกาแฟจะช่วยกลบกลิ่นอับในตู้เย็นได้ดี
ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมช่วยยืดอายุอาหารและลดโอกาสเกิดกลิ่นได้
ช่องแช่เย็น: 2–4°C
ช่องแช่แข็ง: -18°C
เช็ดให้แห้งสนิทก่อนประกอบกลับ
ทำความสะอาดยางขอบประตู
ซีลยางเป็นจุดที่มักเก็บคราบอาหารและเชื้อรา ควรเช็ดด้วยน้ำผสมเบกกิ้งโซาหรือแอลกอฮอล์เพื่อกำจัดเชื้อโรคและกลิ่น
เก็บอาหารใน ภาชนะปิดสนิท หรือถุงซิปล็อก
เช็ดคราบทันทีเมื่อมีน้ำหรืออาหารหก
จัดอาหารให้เป็นระเบียบ เลี่ยงการวางจนบังช่องลม
ตรวจสอบและเคลียร์อาหารที่ไม่ได้ใช้ทุกสัปดาห์
ทำความสะอาดตู้เย็นอย่างน้อยเดือนละครั้ง
แนะนำตู้เย็นแบรนด์ CHiQ
CHiQ ตู้เย็นมินิบาร์ ขนาด 1.60 Q รุ่น CSR46DB สีดำ
จุดเด่นสินค้า
เก็บความสดใหม่ของอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่จำกัด ด้วยความจุที่ลงตัว 46 ลิตร
ดีไซน์ทันสมัย สีดำหรูหรา เหมาะสำหรับทุกการตกแต่ง
เสียงรบกวนต่ำเพียง 35 เดซิเบล ทำให้ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
ประหยัดพลังงานด้วยการใช้ไฟเพียง 150 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี
ขนาดกะทัดรัด 470*447*496 มม. เหมาะสำหรับห้องนอน สำนักงาน หรือห้องพัก
CHiQ ตู้เย็นมินิบาร์ ขนาด 3Q รุ่น CSR92DS สีเงิน
จุดเด่นสินค้า
เก็บความสดใหม่ของอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่จำกัด ด้วยความจุที่ลงตัว 46 ลิตร
ดีไซน์ทันสมัย สีดำหรูหรา เหมาะสำหรับทุกการตกแต่ง
เสียงรบกวนต่ำเพียง 35 เดซิเบล ทำให้ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
ประหยัดพลังงานด้วยการใช้ไฟเพียง 150 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี
ขนาดกะทัดรัด 470*447*496 มม. เหมาะสำหรับห้องนอน สำนักงาน หรือห้องพัก
CHiQ ตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 4.9 คิว รุ่น CTM138LS สีเทา
จุดเด่นสินค้า
สัมผัสประสบการณ์การเก็บรักษาอาหารที่ยอดเยี่ยมด้วยตู้เย็น CHiQ สองประตู ขนาด 4.9 คิว รุ่น CTM138LS สีเทา
ความจุ 138 ลิตร เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด
การออกแบบที่ทันสมัย สีเทาสวยงาม
ประหยัดพลังงานด้วยการใช้ไฟฟ้าต่ำ
เสียงเงียบกวนใจน้อย ทำให้คุณไม่ต้องรำคาญ
เพียง 60 วัตต์ เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกบ้าน
การแก้ปัญหา ตู้เย็นมีกลิ่น ไม่ได้ซับซ้อน เพียงเริ่มจากการกำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่น ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี และใช้ตัวช่วยจากธรรมชาติ เช่น เบกกิ้งโซดา มะนาว ถ่านไม้ ก็สามารถทำให้ตู้เย็นกลับมาหอม สดชื่น ปลอดภัยต่อการเก็บอาหารได้
เนื้อหาที่คล้ายกัน