img


เรื่องต้องรู้กับโหมดแอร์ ใช้ยังไง? โหมดไหนเย็น เรามีคำตอบ

เคยสงสัยกันมั้ยว่าเวลาเปิดแอร์แต่ละครั้ง ทำไมแอร์ไม่เย็นทั้งที่ปรับอุณหภูมิเย็นสุด ทำไมโหมดแอร์จึงต้องมีหลายโหมด แล้วแต่ละโหมดมีการทำงานแตกต่างยังไงกันแน่ เพราะเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยคลายร้อนให้กับทุกคนในครอบครัว ต้องเปิดใช้งานอยู่เป็นประจำทุกวัน ถ้าเรารู้ว่ามีโหมดไหน และเข้าใจหลักการ หรือกลไกการทำงานแต่ละโหมดแอร์ จะทำให้คุณใช้งานแอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยยืดอายุของแอร์ได้อีกด้วย วันนี้ Global House ขออาสาที่จะมาบอกเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับโหมดแอร์ว่ามีกี่แบบ มีหลักการทำงานอย่างไร และสัญลักษณ์ของโหมดแอร์มีความหมายอย่างไรบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้


ทำความรู้จักกับโหมดแอร์ทั้ง 5 โหมด

เครื่องปรับอากาศแต่ละรุ่นจะมี โหมดแอร์ ที่แตกต่างกันออกไป ถ้าเราจะใช้งานควรเริ่มจากการทำความเข้าใจการทำงานของแต่ละโหมดก่อน โดยวันนี้เราจะมาบอกรายละเอียดทั้งหมด 5 โหมดด้วยกัน คือ


1. Auto Mode (โหมดอัตโนมัติ)


Auto Mode หรือ โหมดอัตโนมัติ เป็นโหมดที่สะดวกต่อการใช้งาน ไม่ต้องปรับให้ยุ่งยาก โดยเป็นการปรับอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมภายในห้องย สะดวกต่อการใช้งาน ไม่ต้องปรับแอร์บ่อยๆ ซึ่งเหมาะกับห้องที่มีคนอยู่หลายคนและมีการเดินเข้าเดินออกห้อง เพียงแค่กดสวิตช์เปิด-ปิด อากาศภายในห้องก็เย็นสบาย


กระบวนการทำงาน

การทำงานของ โหมด Auto จะเป็นการปรับระดับทั้งตัวคอมเพรสเซอร์ และตัวพัดลม เมื่ออุณหภูมิไปถึงในจุดที่กำหนดไว้ พูดง่ายๆ คือ เมื่อเราเปิดแอร์แล้ว พัดลมแอร์จะทำหน้าที่หมุนเร็วๆ เพื่อที่จะให้ห้องของเรานั้นเย็นกำลังพอเหมาะ เมื่อห้องเย็นแล้วก็จะปรับไปที่ โหมด Cool หรือ Dry โดยอัตโนมัติ โดยตัวระบบจะเป็นฝ่ายกำหนดอุณหภูมิ และความเร็วพัดลมให้เอง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิห้องที่เซนเซอร์ตรวจพบได้ในตอนนั้น


ควรใช้ตอนไหนให้ถูกวิธี

โดยทั่วไปแอร์ส่วนใหญ่ถูกตั้งเป็นโหมดอัตโนมัติเป็นค่าเริ่มต้นอยู่แล้ว เราไม่ต้องไปตั้งค่าหรือปรับอะไรมากมายเลย ใช้งานได้ง่าย เพียงแค่กดปุ่มสวิตช์เปิด - ปิด  ทิ้งเอาไว้สัก 20 นาที ห้องเราก็จะมีอากาศที่เย็นสบาย 


2. Cool Mode (โหมดทำความเย็น)


Cool Mode หรือ โหมดทำความเย็น เป็นโหมดการทำงานที่เรานิยมใช้กันมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถปรับระดับความเร็วพัดลมได้อีกด้วย โหมดแอร์นี้เหมาะสำหรับคนขี้ร้อน ที่อยากได้ห้องที่แอร์เย็นฉ่ำได้แบบทันใจ หรือสำหรับคนที่ไม่ชอบอากาศหนาวๆ ต้องการปรับให้ห้องอุ่นสบายกำลังดีก็ได้หมด


กระบวนการทำงาน

การทำงานของแอร์โหมดนี้ก็จะปรับอุณหภูมิตามที่เราตั้งค่า และเมื่อถึงจุดที่กำหนด ก็จะปิดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ลง เหลือไว้แค่ใบพัดลมดูดอากาศในเครื่องที่เปิดไว้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อากาศมีการหมุนเวียน ถ้าอธิบายอย่างง่ายๆ คือ ถ้าเราปรับอุณหภูมิไว้ที่ 26 องศา แอร์ของเราก็จะไต่ระดับอุณหภูมิขึ้นไปให้ถึง เมื่ออุณหภูมิภายในห้องถึง 26 องศาเมื่อไหร่ เครื่องปรับอากาศก็จะตัดทันที เพื่อที่อุณหภูมิในห้องเราจะอยู่ที่ 26 องศา


ควรใช้ตอนไหนให้ถูกวิธี

  • เครื่องปรับอากาศแบบธรรมดา (Non-Inverter Air Conditioner) เหมาะกับห้องที่ โล่งกว้าง มีการเข้าออกบ่อยๆ เช่น ห้องทานข้าว, ห้องครัว, ห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ใน ห้องรับแขก เป็นต้น เพราะเป็นห้องที่ใช้งานไม่กี่ชั่วโมง และการที่ระบบปรับอุณหภูมิไม่คงที่อยู่แล้ว คนเข้าออกบ่อย จึงไม่มีผลมากนัก
  • เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter Air Conditioner) เป็นการปรับระดับชะลอการทำงานของคอมเพรสเซอร์แทน ส่วนการกินไฟก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เราตั้งค่าเอาไว้ โดยตามหลักทั่วไปจะแนะนำ 24 - 26 องศาเซลเซียส เป็นห้องที่ไม่ควรมีการเข้าออกบ่อยๆ เพื่อให้เครื่องได้รักษาระดับอุณหภูมิไว้อย่างต่อเนื่อง เช่น ห้องนอน, ห้องทำงาน หรือในออฟฟิศสำนักงาน


3. Dry Mode (โหมดควบคุมความชื้น หรือ โหมดแห้ง)


Dry Mode หรือ โหมดความคุมความชื้น ผู้ใช้งานจะไม่สามารถปรับตั้งอุณหภูมิได้ เมื่ออยู่ในโหมดควบคุมความชื้น และแอร์ก็จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องลดความชื้นในอากาศ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศไม่เป็นมิตรต่อสุขภาพ หรือ คนที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศก็ควรใช้โหมดนี้ ซึ่งแอร์โหมด Dry จะมีความแตกต่างจาก Cool Mode คือความเย็นจะไม่ฉ่ำเท่า


กระบวนการทำงาน

การทำงานของแอร์โหมด Dry นับเป็นวิธีลดความชื้นในห้องแอร์ที่มีประสิทธิภาพ เพราะสามารถควบคุมความชื้นในอากาศได้ โดยใช้การควบแน่นของความชื้นในอากาศที่เกิดขึ้นบนแผงทำความเย็น ดึงความชื้นภายในห้องมากลั่นตัวเป็นหยดน้ำไหลออกทางท่อน้ำทิ้งของเครื่องปรับอากาศ ถึงแม้ว่าคอมเพรสเซอร์ที่ติดตั้งอยู่นอกอาคารยังคงทำงานอยู่ แต่พัดลมที่อยู่ในชุดคอยล์เย็นอาจจะมีการทำงานสลับกับการหยุดทำงานเป็นช่วงๆ เพื่อเป็นการดึงความชื้นในอากาศให้ถูกกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ


ควรใช้ตอนไหนให้ถูกวิธี

เมื่อเวลาฝนตกส่วนใหญ่แอร์จะไม่ค่อยเย็นและเราอาจรู้สึกอากาศไม่ค่อยถ่ายเท มีความอึดอัด สามารถเปิดแอร์โหมด Dry เพื่อช่วยในส่วนนี้ได้ เพราะเป็นการเพิ่มความเย็นให้เฉพาะตัวแผงคอยล์ ให้เกิดการควบแน่นดักจับไอน้ำ รวมถึงเปิดพัดลมอ่อนๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเทมากขึ้น หากเปิดแอร์โหมดนี้จะประหยัดค่าไฟได้มากกว่า โหมด Cool และเราไม่สามารถปรับอุณหภูมิในโหมดนี้ได้ โดยส่วนมากแอร์แต่ละรุ่นจะตั้งอุณหภูมิในโหมดนี้ไม่เหมือนกัน บางรุ่นอาจเป็น 24 หรือ 25 องศาเซลเซียส และสำหรับผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ แอร์โหมด Dry คือโหมดที่เหมาะที่สุด ช่วยลดความชื้นทำให้ไม่แสบจมูก น้ำมูกไหล


4. Fan Mode (โหมดพัดลม)


Fan Mode หรือ โหมดพัดลม สามารถปรับความเร็วของพัดลมได้เท่านั้น ไม่สามารถปรับอุณหภูมิได้ ถ้าใครไม่รู้ตัวว่าเราเปิดโหมดพัดลม ก็จะคิดว่าแอร์พังหรือเปล่า ทำไมไม่เย็น


กระบวนการทำงาน

การเปิดแอร์โหมดนี้เท่ากับปิดการทำงานของคอมเพรสเซอร์เอาไว้ โดยการทำงานของโหมดนี้จะปล่อยเพียงแค่ลมออกมาเท่านั้น และลมที่ปล่อยออกมาจะเป็นอุณหภูมิห้อง ไม่ได้มีความเย็นออกมาด้วย


ควรใช้ตอนไหนให้ถูกวิธี

ใครที่กำลังเจอ ปัญหากลิ่นเหม็นอับที่ออกมาจากแอร์ ก็ลองใช้งานโหมดนี้ดูได้ เมื่อเราใช้แอร์เสร็จ หรือเป็นช่วงที่ใกล้จะปิดแอร์ ให้เปิดโหมด Fan ต่อไปอีกสัก 15 - 20 นาที แล้วค่อยปิดเครื่อง ก็จะช่วย ลดความชื้นสะสม ทำให้กลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์เบาลงได้ เมื่อถึงหน้าหนาวอากาศเย็นเปิดแอร์โหมดไหนดี? การเลือกโหมด Fan คือตัวเลือกที่เหมาะที่สุด เพราะพัดลมจะดูดอากาศหนาวเข้ามาถ่ายเท แถมประหยัดไฟอีกด้วย เพราะคอมเพรสเซอร์ไม่ได้ทำงาน



5. Heat Mode (โหมดทำความร้อน)


Heat Mode หรือ โหมดทำความร้อน จะไม่ค่อยเห็นในเมืองไทยสักเท่าไร เพราะมักจะจำกัดเฉพาะในแอร์รุ่นท็อปของแต่ละยี่ห้อเท่านั้น ถ้านับสภาพอากาศที่ประเทศไทย ถือว่าไม่จำเป็นในการนำมาใช้งานทั่วๆไป เพราะประเทศไทยมีอากาศไม่ได้หนาวมาก หรือหนาวนานหลายวัน


กระบวนการทำงาน

Heat Mode จะมีการทำงานจะตรงกันข้ามกับ Cool Mode คือ เปิดคอมเพรสเซอร์ทำความร้อน จะใช้เทคโนโลยีการทำความร้อนที่เรียกว่า Heat Pump ซึ่งเป็นการทำงานแบบกลับทิศทาง สลับหน้าที่กันระหว่างแผงคอยล์ร้อน และแผงคอยล์เย็น และเปิดพัดลมในการหมุนเวียนอากาศอุ่นภายในห้อง ทำให้อบอุ่นในฤดูหนาว


ควรใช้ตอนไหนให้ถูกวิธี

สำหรับโหมด Heat เป็นโหมดที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับกลุ่มประเทศที่มีอากาศหนาว เป็นโหมดแอร์ที่ให้ความอบอุ่น ทำงานเหมือนเป็นฮีทเตอร์ในรูปแบบของแอร์ เหมาะกับประเทศที่มีอากาศหนาวมาก และยังสามารถสลับมาทำความเย็นได้ในช่วงที่มีอากาศร้อนได้ด้วย


เมื่อเรารู้แล้วว่าแอร์แต่ละโหมดที่พูดถึงนั้นเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เราจึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะการเลือกปรับโหมดแอร์ที่ถูกต้อง จะเป็นการใช้งานแอร์ที่คุ้มค่า เช่น ถ้ามีเด็ก หรือคนสูงอายุอยู่ที่บ้าน ใช้โหมด Auto ได้ เพราะไม่ต้องยุ่งยากกับการปรับแอร์ ถ้าหากใช้แอร์โหมด Dry จะควบคุมความชื้นได้อย่างเหมาะสม เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้เลย เพราะถ้าความชื้นมากไปก็จะมีอาการจาม น้ำมูกไหล ถ้าความชื้นน้อยไปก็จะแสบจมูก แสบคอ แล้วถ้าเราต้องการให้ห้องของเรามีอากาศที่เย็นเร็วขึ้น โดยใช้โหมด Cold ไม่ควรปรับอุณหภูมิสูงจนเกินไป ควรตั้งค่าอุณภูมิอยู่ที่ประมาณ 25 - 27 องศา และเปิดพัดลมช่วยเอา เป็นอีกทางหนึ่งในการ ช่วยประหยัดพลังงาน และลดค่าไฟ ด้วย หรือบางคนที่ไม่ชอบกลิ่นชื้นของแอร์ ก็สามารถเปิดโหมด Fan เพื่อลดกลิ่นชื้น กลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ได้ เมื่อเรารู้แล้วว่าแต่ละโหมดมีหน้าที่ยังไง จะช่วยทำให้เราใช้งานแอร์ได้อย่างถูกต้อง การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน เป็นเรื่องที่เราไม่ควรจะมองข้าม เพราะต่างยี่ห้อ ต่างรุ่น ก็จะมีโหมดแอร์ที่ไม่เหมือนกัน เราจะต้องดูว่าเครื่องปรับอากาศตัวนี้มีโหมดแอร์ ฟังก์ชันแอร์อะไรบ้าง แล้วแอร์โหมดไหนที่จะตอบโจทย์เป็นพิเศษในห้องที่เราเลือกไปติดตั้งเอาไว้



มีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหมดแอร์ Global House ช่วยคุณได้

ถ้าเรารู้แล้วว่าแต่ละโหมดแอร์มีหน้าที่ในการทำงานยังไง ก็จะช่วยให้ตอบโจทย์ แถมยังช่วยให้เกิดความคุ้มค่าตลอดการใช้งานอีกด้วย  ดังนั้นก็อย่าลืมคำนึงถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกอย่างเลย คือ เครื่องปรับอากาศ ที่เราติดตั้งเหมาะสมกับพื้นที่ที่จะติดตั้งตรงนั้นหรือเปล่า หากเราเกิดข้อสงสัยในส่วนนี้ สามารถไปดูสินค้าตัวจริงได้เลยที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ และมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม หรือว่าจะช็อปออนไลน์ก็ง่าย สบายกระเป๋า ผ่อนก็คุ้มกับโกลบอลเฮ้าส์ ที่ให้ สิทธิพิเศษสูงสุดกับการผ่อน 0% 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด) นอกจาก เครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ แล้วทาง Global house เอง ยังให้บริการจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้านที่ดีด้วย A Better Choice for A Better Home


Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว

เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่

บริการช่างดี




เนื้อหาที่คล้ายกัน