img


7 ลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี สำหรับมือใหม่ ราคาดี ใช้ได้ทั้งครอบครัว

หนึ่งในเทรนด์ที่ทำให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์และผู้คน หันมาให้ความสนใจกันมากขึ้นในช่วงปี 2023 นี้ คือ เทรนด์การออกกำลังกายที่บ้าน เพราะไม่ต้องเดินทางออกไปยิม ไม่ต้องเสี่ยงรถติด และจะออกกำลังกายเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจ จึงทำให้อุปกรณ์ที่ใช้ในการออกกำลังกายในบ้านได้รับความนิยมมากขึ้นด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ลู่วิ่งไฟฟ้า” นั่นเอง โดยประโยชน์ของลู่วิ่งไฟฟ้านั้นมีอยู่หลายด้าน ทั้งลดไขมัน ทั้งทำให้สุขภาพดีขึ้น และไม่ว่าใครก็สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย สำหรับใครที่กำลังมองหาอยู่ว่าจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี บทความนี้มีคำตอบ!

เหตุผลที่ทำให้เทรนด์การออกกำลังกายในบ้านและลู่วิ่งไฟฟ้าได้รับความนิยมนั้น ต้องย้อนกลับไปในช่วงปี 2019 ที่สถานการณ์บ้านเมืองทั่วโลกได้คืบคลานเข้าสู่ภาวะวิกฤต จนองค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉิน อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งเชื้อไวรัสดังกล่าวสามารถติดต่อกันได้ผ่านสารคัดหลั่ง จึงทำให้คนส่วนใหญ่ต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาด

การอยู่บ้านติดต่อกันนานหลายเดือน ส่งผลให้คนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการกินเปลี่ยนไป กินอาหารมากขึ้น กินจุกจิกบ่อยขึ้น และกินตามใจปากกันสุดๆ จนทำให้ไขมันสะสมเยอะ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ถึงขั้นทำให้หลายๆ คนอยู่ในภาวะอ้วนและรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองในที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนฉุกคิดได้ว่าควรจะหันมาออกกำลังกายได้แล้ว เมื่อเหล่าคนดังเริ่มทำ ทำให้ผู้ติดตามทำตามกันต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้น เทรนด์การออกกำลังกายด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า จึงได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และถ้าคุณกำลังคิดอยู่ว่า “เราควรจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีล่ะ? ที่แข็งแรง ทนทาน ไม่เปลืองพื้นที่ และมีประสิทธิภาพจริง” ติดตามหาคำตอบที่นี่ได้เลย! Global House รวบรวมลู่วิ่งไฟฟ้า 7 รุ่นที่มีคุณภาพเยี่ยมมาให้คุณเลือกใช้งานแล้ว พร้อมทั้งคลายข้อสงสัยให้คุณทราบว่า ลู่วิ่งไฟฟ้าช่วยเผาผลาญไขมันได้จริงไหม?, ลู่วิ่งไฟฟ้าต่างจากลู่วิ่งที่ไม่ใช้ไฟฟ้าอย่างไร?, สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีมีอะไรบ้าง? และลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี เหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการออกกำลังกายในบ้าน!? เป็นต้น


หัวข้อไฮไลท์

  • ลู่วิ่งไฟฟ้าช่วยเผาผลาญไขมันได้จริงไหม?
  • ลู่วิ่งไฟฟ้า และ ลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า ต่างกันอย่างไร?
  • สิ่งที่ต้องพิจารณา ก่อนซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามีอะไรบ้าง?
  • ลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี? เหมาะกับมือใหม่และใช้ในบ้าน
  • แนะนำวิธีออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้า
  • ดูแลลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างไร ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็ว
  • สรุปบทความ


ลู่วิ่งไฟฟ้าช่วยเผาผลาญไขมันได้จริงไหม?

ลู่วิ่งไฟฟ้า ช่วยเผาผลาญไขมันได้จริง มีประสิทธิภาพสูง และสามารถกำจัดไขมันได้ทั่วทั้งร่างกาย และคุณรู้หรือไม่ว่าหลักๆ แล้ว ไขมันในร่างกายนั้นมีอยู่ 2 ชนิด ชนิดแรกส่งผลต่อรูปร่างของคุณ สามารถลดได้หลายวิธี ทั้งออกกำลังกาย ดูดไขมัน หรือฉีดสลายไขมัน ส่วนชนิดที่สองมีความอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก แต่ไม่สามารถกำจัดด้วยวิธีอื่นได้ นอกจากการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งไขมันทั้ง 2 ชนิดที่เราได้กล่าวไปข้างต้นนี้ก็คือ

1. ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat)

ไขมันชนิดนี้จะอาศัยอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง เป็นไขมันที่ทำให้ขนาดของสัดส่วนอย่างต้นแขน ต้นขา เหนียง หน้าท้อง หรือรอบเอวมีขนาดใหญ่ขึ้น (เรียกง่ายๆ ว่าทำให้เราดูอ้วนขึ้น) ถึงแม้ว่าไขมันใต้ชั้นผิวหนังจะไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่การมีไขมันชนิดนี้สะสมจำนวนมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนได้เช่นกัน

2. ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat)

ไขมันในช่องท้อง จะอาศัยอยู่ภายในช่องท้องที่เดียวกันกับอวัยวะภายในของเรา นอกจากจะอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นแล้ว ยังสามารถแทรกซึมเข้าไปอยู่ในอวัยวะภายในได้อีกด้วย (กรณีที่พบได้บ่อยก็คือไขมันพอกตับ) ไขมันชนิดนี้มีความอันตรายอย่างมาก ควรเร่งรัดกำจัดออกไปอย่างรวดเร็วจึงจะเป็นการดีที่สุด หากถามว่าไขมันในช่องท้องทำให้รูปร่างเปลี่ยนได้ไหม? คำตอบคือ “ได้” หน้าท้องของคุณจะมีลักษณะกลมตึง ป่อง และยื่นออกมา (ภาวะลงพุง)

แค่คุณใช้เวลาในการออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้า เพียงวันละ 30 - 45 นาที คุณก็สามารถสร้างการเผาผลาญพลังงานได้สูงถึง 300 - 600 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว นอกจากประโยชน์ในการเผาผลาญไขมันส่วนเกินแล้ว ลู่วิ่งไฟฟ้ายังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ ด้วย

อาทิ ทำให้เลือดสูบฉีดดีขึ้น, กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น, ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง, ช่วยลดน้ำหนัก, ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย, ช่วยให้นอนหลับสบาย, ตัวเล็กลง หุ่นเพรียวขึ้น, ทำให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้น ฯลฯ เห็นแบบนี้แล้ว อยากได้ลู่วิ่งไฟฟ้าดีๆ มาใช้งานแล้วใช่ไหม? อ่านกันต่ออีกสักนิด แล้วคุณก็จะได้รู้ว่าควรซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี?


ลู่วิ่งไฟฟ้า และ ลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า ต่างกันอย่างไร?


ลู่วิ่ง เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิ่งออกกำลังกาย เพื่อให้คุณสามารถวิ่งออกกำลังกายได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา และทุกสภาพอากาศ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางออกไปวิ่งตามสวนสาธารณะต่างๆ ซึ่งลู่วิ่งนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ลู่วิ่งไฟฟ้า และ ลู่วิ่งที่ไม่ใช้ไฟฟ้า

1. ลู่วิ่งไฟฟ้า

ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นลู่วิ่งที่มีการเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนสายพาน ช่วยผ่อนแรงขาระหว่างวิ่งได้ดี ทำให้คุณวิ่งได้ง่ายและคล่องตัวมากขึ้น ไม่รู้สึกเหนื่อยง่าย ส่งผลให้วิ่งได้นาน อย่างไรก็ตามลู่วิ่งไฟฟ้ามีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายกว่า จึงทำให้ราคาสูงกว่าลู่วิ่งแบบปกติ

2. ลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า

ลู่วิ่งที่ไม่ใช้ไฟฟ้าจะไม่มีมอเตอร์มาช่วยในการขับเคลื่อนสายพาน ดังนั้น สายพานจะเคลื่อนที่ได้ก็ต่อเมื่อคุณออกแรงวิ่ง ทำให้การวิ่งด้วยลู่วิ่งประเภทนี้เป็นไปได้ยากกว่า ใช้แรงมากกว่า เหนื่อยง่ายกว่า แต่ก็มีข้อดีตรงที่มันช่วยให้ร่างกายของเราเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่า


สิ่งที่ต้องพิจารณา ก่อนซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามีอะไรบ้าง?

ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มีราคาสูงในระดับหนึ่ง พอๆกับค่าสมัครสมาชิกรายปีของฟิตเนสบางแห่งเลย ดังนั้นการซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาใช้งานทั้งที จะต้องเลือกตัวที่มีความคุ้มค่าและเหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด เมื่อลู่วิ่งไฟฟ้าตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้จริง และเป็นลู่วิ่งที่มีฟังก์ชันแบบที่คุณชอบ คุณถึงจะมีกำลังใจในการออกกำลังกายด้วยลู่วิ่งทุกวัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงจะเกิดความคุ้มค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะตกลงกับตัวเองว่าจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี มาดูสิ่งที่คุณต้องพิจารณาหรือคำนึงถึงก่อนดีกว่า


กำลังของมอเตอร์

มอเตอร์ของลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นแหล่งขับเคลื่อนการทำงานของสายพาน เพื่อให้สายพานมีความเร็วตามที่ต้องการ (ใช้หน่วยเป็นแรงม้าหรือ HP ย่อมาจาก Housepower) โดยมอเตอร์พื้นฐานของลู่วิ่งไฟฟ้าที่ใช้ในบ้าน จะเป็นแบบ DC Motor (Direct Current Motor) ที่มีขนาดเล็กกว่าแบบ AC Motor (Alternating Current Motor) ซึ่ง DC Motor มีความแม่นยำสูง แต่จะมีกำลังไม่สูงมากนัก ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 แรงม้า

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าควรเลือกลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี คุณต้องชั่งน้ำหนักของตัวเองและเช็กรูปแบบการใช้งานของตัวเองดูก่อน ว่าชอบเดินหรือชอบวิ่งมากกว่ากัน เพราะกำลังของมอเตอร์ จะสัมพันธ์กับความเร็วในการขับเคลื่อนสายพาน (ความเร็วในการวิ่ง) ด้วย

  • ลู่วิ่งไฟฟ้า 1 แรงม้า เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีน้ำหนัก 45 - 55 กิโลกรัม เน้นเดินช้าและเดินเร็ว
  • ลู่วิ่งไฟฟ้า 1.5 แรงม้า เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีน้ำหนัก 55 - 65 กิโลกรัม เน้นเดินช้าและเดินเร็ว
  • ลู่วิ่งไฟฟ้า 2 แรงม้า เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีน้ำหนัก 65 - 80 กิโลกรัม เน้นการวิ่ง
  • ลู่วิ่งไฟฟ้า 2.5 แรงม้า เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีน้ำหนัก 70 - 90 กิโลกรัม เน้นการวิ่ง
  • ลู่วิ่งไฟฟ้า 3 แรงม้าขึ้นไป เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม เน้นการวิ่ง


ความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้า

ความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้าจะขึ้นกับกำลังมอเตอร์ที่ระบุไว้ ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านมักจะมีความเร็วอยู่ที่ประมาณ 11-15 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้านี้ จะส่งผลต่อรูปแบบการใช้งาน ดังนี้

  • เดินเร็ว เหมาะกับความเร็ว 0 - 5 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • วิ่งจ็อกกิง เหมาะกับความเร็ว 6 - 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • วิ่งเร็ว เหมาะกับความเร็ว 11 - 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • วิ่งสปรินท์ เหมาะกับความเร็ว 16 - 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง


ความชันของลู่วิ่งไฟฟ้า

ความชันของลู่วิ่งจะทำให้การวิ่งของคุณยากลำบากขึ้น เปรียบเสมือนกับการวิ่งขึ้นเขาที่มีความชันสูงๆ ในเมื่อคุณต้องการใช้ลู่วิ่งสำหรับออกกำลังกายภายในบ้าน ไม่ได้ต้องการวิ่งเพื่อฝึกซ้อมไปแข่งขัน หรือวิ่งขึ้นเขา คุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีความชันก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากเพิ่มความท้าทาย อยากออกแรงมากขึ้น คุณก็สามารถปรับระดับความชันระหว่างวิ่งได้ แนะนำให้ค่อยๆ ปรับทีละ 1-2% ก็เพียงพอแล้ว


ฟังก์ชันการใช้งาน

สิ่งที่ทำให้ลู่วิ่งไฟฟ้าแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน ยังมีเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานด้วย ตัวอย่างฟังก์ชันการใช้งานที่มักจะพบได้ในลู่วิ่งไฟฟ้า คือ ประเภทของหน้าจอ, รูปแบบและค่าต่างๆ ที่แสดงผลบนหน้าจอ, การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ, ลำโพง หรือความยืดหยุ่นในการจัดเก็บ เป็นต้น


ขนาดของสายพาน

สำหรับสายพานที่มีความกว้างมากๆ จะช่วยให้คุณสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระ รู้สึกคล่องตัวเวลาใช้งาน ส่วนสายพานที่มีความยาวมากๆ จะเหมาะกว่าผู้ที่เน้นวิ่งมากกว่าเน้นเดิน ก่อนตัดสินใจซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี คุณจึงต้องเช็กในส่วนนี้ด้วย เพื่อให้ได้ลู่วิ่งที่ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป และตอบโจทย์กับรูปแบบการใช้งานที่สุด

ความยาวของสายพานและการใช้งาน

  • สายพานยาว 100 เซนติเมตร เหมาะกับการเดินช้าและเดินเร็ว
  • สายพานยาว 120 เซนติเมตร เหมาะกับการวิ่งออกกำลังกายทั่วไป
  • สายพานยาว 130 เซนติเมตร เหมาะกับการเดินช้าและเดินเร็ว ในผู้ที่สูงมากกว่า 180 เซนติเมตร
  • สายพานยาว 140 เซนติเมตร เหมาะกับการวิ่งออกกำลังกายทั่วไป ในผู้ที่สูงมากกว่า 180 เซนติเมตร


ขนาดของลู่วิ่งไฟฟ้า

ลู่วิ่งไฟฟ้าแต่ละเครื่องจะมีขนาดไม่เท่ากัน บางรุ่นมีล้อเลื่อนเสริม หรือบางรุ่นสามารถพับเก็บได้ด้วย คุณควรเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะกับพื้นที่ติดตั้งที่คุณมีอยู่ สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่บ้าน มีพื้นที่กว้างขวาง สามารถเลือกลู่วิ่งขนาดใหญ่มาใช้งานได้เลย แต่ถ้าคุณเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม หรือสถานที่ที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ขอแนะนำให้วัดพื้นที่ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับลู่วิ่งก่อนตัดสินใจ


ลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี? เหมาะกับมือใหม่และใช้ในบ้าน

7 ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีไซน์สวย วัสดุคงทน ฟังก์ชันการใช้งานครบครัน และเหมาะกับมือใหม่ที่กำลังหัดออกกำลังกายในบ้าน? ลองไปเลือกชมและพิจารณาคุณสมบัติของลู่วิ่งไฟฟ้าแต่ละตัวกันได้เลย!


1. ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น DK-07 2HP

4TEM ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น DK-07 2HP กำลัง 2 แรงม้า ขนาดของตัวเครื่อง 159 x 69 x 134 เซนติเมตร ขนาดของสายพาน 126 x 45 เซนติเมตร สายพานหนา 1.6 มิลลิเมตร สามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 110 กิโลกรัม ปรับระดับความลาดชันได้ 0 - 18% มีการรับประกันมอเตอร์ 5 ปี และรับประกันแผงวงจรไฟฟ้า 1 ปี


คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • หน้าจอขนาด 5 นิ้ว (บลูสกรีน)
  • โปรแกรมออกกำลังกาย 12 โปรแกรม
  • โปรแกรมคำนวณผล (เวลา, ความเร็ว, ระยะทาง, การเต้นของชีพจร, แคลอรี่ และอัตราไขมัน)
  • ระบบโช้คอัพช่วยกระจายน้ำหนักและป้องกันการกระแทก 6 จุด
  • ระบบไดนามิก ป้องกันแรงกระแทกบริเวณนิ้วเท้า ฝ่าเท้า ข้อเท้า และหัวเข่า


2. ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น XG01 3HP

4TEM ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น XG01 3HP กำลัง 3 แรงม้า ขนาด 64 x 64 x 143 เซนติเมตร ด้วยขนาดที่เล็กกำลังดี จึงสามารถวางในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัดได้ สายพานวิ่งมีขนาด 40 x 110 เซนติเมตร สามารถรับน้ำหนักได้มากสุด 90 กิโลกรัม



คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • โปรแกรมคำนวณผล (เวลา, ความเร็ว, ระยะทาง, การเต้นของชีพจร, แคลอรี่ และอัตราไขมัน)


3. ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น XANTHONE

FORTEM ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น XANTHONE กำลัง 1 แรงม้า ขนาดของเครื่อง 79 x 151 x 125 เซนติเมตร และมีขนาดของสายพานอยู่ที่ 47 x 121 เซนติเมตร ทำให้คุณวิ่งได้อย่างสบายๆ สามารถปรับระดับความลาดชันแบบอัตโนมัติได้ 0-15% รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 120 กิโลกรัม


คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • ผลิตจากเหล็กและพลาสติก ABS คุณภาพสูง ที่มีความแข็งแรงและทนต่อแรงกระแทกได้ดี
  • สามารถพับเก็บได้ ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บและสะดวกต่อการขนย้าย
  • หน้าจอ LCD ขนาด 8 x 6.5 เซนติเมตร สามารถมองรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างชัดเจน (ความเร็ว, เวลา, ระยะทาง, ชีพจร, แคลอรี่ ฯลฯ)
  • มีช่องสำหรับเก็บของใต้หน้าจอ สามารถใส่กุญแจห้อง กุญแจรถ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ ได้ตามต้องการ
  • ปรับความเร็วได้ตั้งแต่ 1 - 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้


4. ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น DK-15AV

4TEM ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น DK-15AV กำลัง 3 แรงม้า ขนาดเครื่อง 175 x 77 x 130 เซนติเมตร ขนาดสายพาน 126 x 45 เซนติเมตร สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 120 กิโลกรัม และมีความลาดเอียงอยู่ที่ 0 - 18%


คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • มีการแสดงผลผ่านทางหน้าจอ LCD (เวลา, ความเร็ว, ความชัน, ชีพจร, แคลอรี่ ฯลฯ)
  • มีหน่วยความจำอันดีเยี่ยม (Smart)
  • ความเร็ว 1 - 18 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ระบบ Stereophonic รองรับ USB, Bluetooth, MP3 และ HI-Fi Audio


5. ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น XG04

4TEM ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น XG04 กำลัง 3 แรงม้า ขนาดเครื่อง 77 x 160 x 120 เซนติเมตร ขนาดสายพาน 42 x 126 เซนติเมตร มาพร้อมล้อเลื่อนและสามารถพับเก็บง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก


คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • ความเร็ว 0.8 - 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ใช้งานได้นานอย่างต่อเนื่อง)
  • สายพานกว้าง ช่วยให้คุณวิ่งออกกำลังกายได้อย่างอิสระ
  • มีโปรแกรมการออกกำลังกายให้เลือกหลากหลาย
  • มีระบบโช้คอัพช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการวิ่ง
  • เครื่องทำงานเงียบ ไม่มีเสียงดังกวนใจ
  • มี Safety Key หยุดการทำงานฉุกเฉิน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้


6. ลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า รุ่น R001B

4TEM ลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า รุ่น R001B ไม่มีมอเตอร์ (Non-Motor) จะใช้แรงขาของเราในการขับเคลื่อนสายพาน ทำให้เผาผลาญได้ดีมากเป็นพิเศษ ตัวเครื่องมีขนาด 74 x 121 x 114 เซนติเมตร


คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • มีหน้าจอแสดงเวลา ความเร็ว และแคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญไป
  • มีการติดตั้งล้อเลื่อน ทำให้เคลื่อนย้ายสะดวก


7. ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น XG03

FORTEM ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น XG03 กำลัง 3.5 แรงม้า ขนาดเครื่อง 74 x 173 x 132 เซนติเมตร ขนาดสายพาน 47 x 135 เซนติเมตร มีความชันตั้งแต่ 0 - 15% รองรับน้ำหนักได้มากที่สุด 130 กิโลกรัม


คุณสมบัติเพิ่มเติม

  • ความเร็ว 0.8 - 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • หน้าจอ LCD ขนาด 5 นิ้ว แสดงเวลา ความเร็ว ระยะทาง อัตราการเต้นของหัวใจ และแคลอรี่
  • มีลำโพงในตัว รองรับ USB และ MP3 ได้


แนะนำวิธีออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้า

การออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้า ถือเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่วงการฟิตหุ่นที่ดี เพราะสามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งยังช่วยลดไขมันเลว เร่งการเผาผลาญ และทำให้สุขภาพร่างกายของคุณแข็งแรงขึ้นด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยุ่งยากนัก แต่คุณก็ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมด้วย เพราะถ้าร่างกายของคุณไม่พร้อม สวมชุดที่ไม่เหมาะสม ฯลฯ อาจก่อให้เกิดอันตรายระหว่างวิ่งบนลู่วิ่งได้


การเตรียมตัวก่อนใช้ลู่วิ่งไฟฟ้า

  • สวมใส่เสื้อผ้าที่มีความคล่องตัว หากเลือกใช้รองเท้าที่มีเชือกผูก จะต้องมั่นใจว่าได้ผูกเชือกอย่างแน่นหนาแล้ว และเชือกไม่ควรยาวจนเกินไป เพราะอาจจะเข้าไปเกี่ยวกับสายพานและทำให้คุณสะดุดล้มได้
  • ก่อนใช้งานลู่วิ่ง ให้ยืดกล้ามเนื้อก่อนประมาณ 5-10 นาที
  • เริ่มต้นการใช้งานลู่วิ่งด้วยการเดินช้า > เดินเร็ว > วิ่ง ตามลำดับ โดยจะเป็นการค่อยๆ ปรับความเร็วเพิ่มขึ้นทีละนิด ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยให้ร่างกายของคุณมีเวลาในการปรับตัว


การออกกำลังกายบนลู่วิ่งไฟฟ้า

  • ตอนที่เริ่มวิ่ง อย่าเพิ่งปรับความเร็วและความลาดชันสูง ให้ค่อยๆ ไต่ระดับความยากขึ้นทีละนิด
  • วิ่งอย่างมีจังหวะ ในความเร็วที่สม่ำเสมอ
  • ควรเปิดเพลงฟัง แทนการเปิดหนังดู เพราะการก้มดูจออาจทำให้สมาธิคุณหลุดและทำให้เสียจังหวะการวิ่ง จนเกิดอุบัติเหตุได้


สิ่งที่ต้องทำหลังวิ่งออกกำลังกาย

  • เมื่อวิ่งเสร็จแล้ว คุณต้องค่อยๆ ลดความเร็วในการวิ่งลง โดยเปลี่ยนเป็นการเดินต่ออีก 5 นาทีก่อนลงจากลู่วิ่ง เพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจให้ต่ำกว่า 100 ครั้ง/นาที ร่างกายจะได้ระบายความร้อนออกอย่างค่อยเป็นค่อยไป และป้องกันไม่ให้เกิดอาการหน้ามืดต่างๆ
  • แนะนำให้จิบน้ำทีละนิด ค่อยๆ จิบเบาๆ ไม่ควรดื่มน้ำปริมาณมากในครั้งเดียว เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไประหว่างออกกำลังกาย
  • ควรยืดกล้ามเนื้อหลังวิ่งเสร็จ เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายและไม่ปวดเกร็ง


ดูแลลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างไร ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็ว


ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มีอายุการใช้งาน เฉกเช่นเดียวกับเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ เมื่อใช้ไปได้ระยะหนึ่ง ชิ้นส่วนอาจชำรุดหรือมีปัญหาได้ การซ่อมแซมจะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายมากมาย หรือไม่ก็ต้องตัดสินใจซื้อลู่วิ่งใหม่นั่นเอง กว่าคุณจะหาข้อมูลและตัดสินใจได้ว่าจะซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี กว่าจะทำเรื่องสั่งซื้อขนย้ายและติดตั้ง ก็ใช้ระยะเวลาไม่น้อยเลย ด้วยเหตุนี้ เราควรเอาใจใส่และดูแลรักษาลู่วิ่งไฟฟ้าของเราให้ดีด้วย เพื่อถนอมตัวเครื่อง และยืดอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น

1. ควรใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าตามน้ำหนักที่ระบุเท่านั้น หากคุณมีน้ำหนักเกินกว่าที่ลู่วิ่งจะรับไหว แนะนำให้เปลี่ยนจากการวิ่งเป็นการเดินเร็วแทน เหตุผลที่คุณไม่ควรวิ่ง เป็นเพราะว่าแรงกระแทกของน้ำหนักตัว อาจทำให้ลู่วิ่งพังเร็วได้

2. ไม่ควรวางลู่วิ่งไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน เพราะแสงแดดจะเป็นตัวเร่งการเสื่อมสภาพของสายพาน (ทำให้สายพานแห้งกรอบ) คุณควรวางลู่วิ่งไฟฟ้าในบริเวณที่ไม่มีแดดส่องถึง หรือวางไว้ในมุมห้องจะดีกว่า

3. หมั่นเช็ดทำความสะอาดหรือปัดฝุ่นออกไปจากตัวเครื่องอยู่เสมอ สำหรับลู่วิ่งที่มีคราบเปื้อน แนะนำให้ใช้ผ้าสะอาดชุบกับน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ ที่ไม่มีสารกัดกร่อนหรือสารที่ทำลายพื้นผิวในการเช็ดทำความสะอาด แต่ถ้าไม่มีคราบเปื้อนใดๆ สามารถใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่าเช็ดได้เลย

4. ตรวจสอบสภาพของสายไฟ สายพาน และการทำงานของเครื่องอยู่เสมอ ซึ่งตัวสายพานจะต้องเรียบเสมอ ไม่เป็นคลื่นริ้ว ไม่เช่นนั้น อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างที่คุณใช้งานลู่วิ่งได้

5. หยอดน้ำยาซิลิโคนหรือน้ำยาหล่อลื่นทุกๆ 3 เดือน หรือตามคู่มือที่แนบมาเพื่อลดแรงเสียดทาน และป้องกันไม่ให้มอเตอร์ทำงานหนักเกินไป

6. ไม่ควรเปิดลู่วิ่งไฟฟ้าใช้งานเกิน 2 ชั่วโมงติดต่อกัน/ครั้ง เนื่องจากการใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องนานๆ จะทำให้มอเตอร์ร้อนและเสื่อมสภาพไว

7. หากคุณไม่ได้มีประสบการณ์หรือความรู้ในเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง อย่าปรับสายพานเองโดยไม่จำเป็น เพราะจะทำให้ลู่วิ่งของคุณใช้งานไม่ได้ชั่วคราว


สรุปบทความ

สรุปว่าควรซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี? เลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าจากอะไร? คำตอบคือคุณต้องพิจารณาเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าที่ตรงกับลักษณะการออกกำลังกายและความเหมาะสมของคุณเป็นหลัก ทาง Global House ขอแนะนำลู่วิ่งไฟฟ้า 4TEM หรือ FORTEM ที่เราได้แนะนำไปในบทความนี้ถึง 7 รุ่นด้วยกัน แต่ละรุ่นก็จะมีคุณสมบัติและความตอบโจทย์แตกต่างกันไป อาทิ มีกำลังมอเตอร์ตั้งแต่ 1 - 3.5 แรงม้า, มีทั้งสีขาวและสีดำให้เลือก, มีทั้งลู่วิ่งไฟฟ้าและลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า และยังมีราคาเริ่มต้นเพียงแค่หลักพันอีกด้วย

เครื่องออกกำลังกาย

ลู่วิ่งไฟฟ้า



Global House ศูนย์รวมสินค้าเพื่อคนรักบ้าน ระดับแนวหน้าของไทย เราคือศูนย์รวมเครื่องออกกำลังกาย เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุด มีสาขาทั่วประเทศ ครบจบในที่เดียว ทั้งการจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพดี, บริการจัดส่งทั่วประเทศ, บริการติดตั้ง และบริการซ่อมแซม โดยช่างมืออาชีพ

คุณสามารถเลือกดูสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ และเลือกจ้างงานช่างผ่านทางแอปพลิเคชัน “ช่างดี” ได้ทุกเมื่อ และถ้าคุณยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี? หรือยังไม่แน่ใจว่าลู่วิ่งรุ่นไหนเหมาะกับคุณที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางโกลบอลเฮ้าส์ได้ที่ Call Center 1160

คุ้มค่าไปอีกขั้นแค่ สมัครสมาชิกโกลบอลคลับ ฟรี พร้อมรับสิทธิพิเศษ สำหรับ สมาชิกโกลบอลคลับ เพียงช้อปครบ 50 บาท รับ 1 คะแนน สะสมโกลบอลคลับ สะสมคะแนนเพื่อแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ

  • สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม 1,000 คะแนน แลกรับคูปองแทนเงินสด 100 บาท
  • สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม 9,000 คะแนน แลกรับคูปองแทนเงินสด 1,000 บาท
  • สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม แลกซื้อเครื่องดื่ม ที่ลามายอนคอฟฟี่ทุกสาขา


Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว

เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่


บริการช่างดี




เนื้อหาที่คล้ายกัน