แน่นอนว่าการเลือกซื้อตู้เย็นสักเครื่อง คงไม่พ้นคำถามที่ว่า “เลือก ตู้เย็นยี่ห้อไหนดี?” แต่ถ้าจะให้ดีควรพิจารณาจากองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น ขนาด ความจุ ฟังก์ชันการใช้งาน ราคา และควรพิจารณาด้วยว่า ตู้เย็นแบบไหนประหยัดไฟ เพราะข้อจำกัดเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้คุณตัดสินใจ เลือกซื้อตู้เย็นได้ตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น
วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ จะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อตู้เย็น ให้เหมาะกับที่อยู่อาศัย พร้อมแนะนำตู้เย็นที่ช่วยประหยัดไฟ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อตู้เย็น
ในปัจจุบันตู้เย็นนั้นมีหลายรุ่น หลายขนาด และมีหลากหลายฟังก์ชันการใช้งาน ถ้าหากคุณต้องการเลือกซื้อตู้เย็นสักเครื่อง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ ตู้เย็นยี่ห้อไหนดี? ในหัวข้อนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกตู้เย็น ให้เหมาะกับที่อยู่อาศัย ซึ่งจะมีวิธีการอย่างไรบ้างไปดูกัน!
ตู้เย็นแต่ละรุ่นนั้นมีขนาด และความจุที่แตกต่างกัน โดยหน่วยที่ใช้เรียกขนาดความจุของตู้เย็น คือ คิว หรือ ลูกบาศก์ฟุต โดยการเลือกขนาดความจุของตู้เย็นนั้น ควรพิจารณาจากจำนวนของผู้ใช้งาน และลักษณะการใช้งานเป็นหลัก
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละบ้านด้วย ถ้าผู้ใช้งานชอบกักตุนอาหารไว้เยอะๆ ก็สามารถเพิ่มขนาดความจุให้เหมาะสมกับของภายในตู้เย็นได้
ตู้เย็นมินิบาร์ - ตู้เย็นขนาดเล็กแบบประตูบานเดียว ส่วนใหญ่จะมีความจุไม่เกิน 90 ลิตร มีให้เลือกทั้งแบบบานประตูทึบ และบานประตูกระจก มีระบบทำความเย็นแบบอัตโนมัติ ส่งผลให้ตู้เย็นชนิดนี้ไม่กินไฟ และที่สำคัญดูแลรักษาง่าย ไม่มีน้ำทิ้งจากช่องน้ำแข็ง
ตู้เย็น 1 ประตู – ตู้เย็นชนิดนี้จะมีจำนวนประตูเท่ากับตู้เย็นเล็ก คือ 1 ประตู แต่จะมีขนาดใหญ่กว่า โดยตู้เย็น 1 ประตูนั้นเมื่อเปิดเข้าไป จะพบกับช่องแช่เย็น และช่องแช่แข็ง ซึ่งจะมีประตูเล็กๆ แยกช่องแช่แข็งอยู่ภายใน เหมาะกับบ้านทั่วไปที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด แต่ต้องการพื้นที่ภายในตู้เย็นมากกว่าตู้เย็นมินิบาร์
ตู้เย็น 2 ประตู แบบช่องแช่แข็งอยู่ด้านบนหรือล่าง – เป็นตู้เย็นที่มีประตูเพิ่มขึ้นมา บางรุ่นมีช่องแช่แข็งอยู่ด้านบน แต่บางรุ่นมีช่องแช่แข็งอยู่ด้านล่าง ด้วยขนาดของตู้เย็นที่กะทัดรัด และมีการแยกสัดส่วนอย่างชัดเจน จึงทำให้ตู้เย็นประเภทนี้นิยมเป็นอันดับต้นๆ
ตู้เย็น 2 ประตู แบบเปิดซ้ายและขวา – เป็นตู้เย็นที่มีความกว้างมากกว่าตู้เย็น 1 - 2 ประตูแบบทั่วไป ตู้เย็นประเภทนี้จะมีขนาดความจุเท่ากันทั้ง 2 ด้าน ช่วยลดพื้นที่ในการเปิด-ปิดและเพิ่มความสะดวกการหยิบของ จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ เพราะสามารถจุของได้เยอะกว่าตู้เย็น 1 - 2 ประตูแบบทั่วไป
ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อตู้เย็น นอกจากเรื่องของขนาดและความจุ ถัดมาคือเรื่องของความประหยัดไฟ เพราะตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะต้องเสียบปลั๊กอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากได้ตู้เย็นที่ประหยัดไฟ ก็จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้ โดยวิธีการสังเกตง่ายๆ คือ เลือกตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า แต่ถ้าเป็นตู้เย็นที่มีตัวเลขต่ำกว่าเบอร์ 5 ก็จะยิ่งกินไฟมากขึ้น
ซึ่งข้อดีของการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ได้รับการรับรองฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะช่วยให้เราสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายรายปีได้ ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพ ในการช่วยประหยัดไฟได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งนอกจากเครื่องหมายประหยัดไฟแล้ว บนฉลากยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องรู้ ซึ่งประกอบไปด้วย
หมายเลข 1 บอกระดับประสิทธิภาพพลังงานที่ได้รับ ซึ่งประสิทธิภาพสูงสุดคือ 3 ดาว
หมายเลข 2 บอกประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองฉลากฯ
หมายเลข 3 บอกค่าไฟฟ้าต่อปี ใช้เป็นข้อมูลในการเปรียบเทียบและประมาณค่าไฟฟ้า
หมายเลข 4 บอกค่าประสิทธิภาพ ใช้ในการเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์รุ่นอื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
หมายเลข 5 บอกข้อมูลผลิตภัณฑ์ทั้งยี่ห้อ ชื่อรุ่น ขนาดเพื่อให้สามารถตรวจสอบเบื้องตนได้
หมายเลข 6 บอกเว็บไซต์ของโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5
สำหรับใครที่ต้องการเลือกซื้อตู้เย็น แต่กลับพบว่าในท้องตลาดมี ตู้เย็นให้เลือกหลากหลายแบบ จึงทำให้เกิดความสับสนว่าควรเลือก ตู้เย็นยี่ห้อไหนดี ? ในหัวข้อนี้ โกลบอลเฮ้าส์ ได้รวบรวม ตู้เย็น 1 ประตู ที่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่จำกัด และสามารถแช่ของได้หลากหลาย ไปดูกันว่าจะมียี่ห้อไหนบ้าง ที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคุณ
หลังจากที่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อ ตู้เย็น กันไปแล้ว หากใครที่กำลังมองหาตู้เย็นดีๆ สักเครื่อง คุณสามารถนำวิธีการเหล่านี้ไปลองพิจารณาในการเลือกซื้อ เพื่อให้ได้ตู้เย็นที่เหมาะกับที่อยู่อาศัย และตอบโจทย์การใช้งาน แต่ถ้าสนใจตู้เย็น 1 ประตู ที่ทาง Global House ได้แนะนำไปนั้น คุณสามารถเข้าไปดูสินค้าได้ที่เว็บไซต์ Global House
แต่ถ้าอยากเข้าไปดูสินค้าจริง ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยมีพนักงานคอยต้อนรับ ให้คำแนะนำ และยังมีบริการขนส่งอำนวยความสะดวกให้คุณถึงที่ แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชัน สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากนี้ ทาง โกลบอลเฮ้าส์ ยังมีบริการสินค้าเกี่ยวกับบ้าน และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ อีกมากมายที่ขนมาให้คุณได้เลือกอย่างครบครัน
เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
เนื้อหาที่คล้ายกัน