เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนทีไร นอกจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นจนปรอทแทบแตกแล้ว ค่าไฟก็พุ่งสูงขึ้นมาไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าแข่งกันสูงเลยทีเดียว สาเหตุค่าไฟแพงขึ้นในหน้าร้อนนั้นเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยรวมกัน ทั้งการใช้งานที่มากขึ้น ปัญหาบ้านร้อน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนัก และเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าทำให้กินไฟ บทความนี้ Global House จะชวนทุกคนไปหาคำตอบว่า ทำไมหน้าร้อนค่าไฟแพง พร้อมแนะนำการคำนวณค่าไฟ และวิธีจัดการเมื่อค่าไฟแพงขึ้น
ในช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่อุณหภูมิจะสูงกว่าปกติ ทำให้หลายๆ บ้านมีปัญหาค่าไฟแพงขึ้น เราเลยจะชวนทุกคนไปดูถึงสาเหตุค่าไฟแพงว่าเกิดจากปัจจัยใดได้บ้าง
ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตอากาศที่มีความร้อนชื้น ยิ่งเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนอุณหภูมิก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นจนแทบจะอยู่ไม่ได้ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนักขึ้น เพื่อที่จะปรับอุณหภูมิให้มีความเย็นขึ้น เช่น อุณหภูมิภายนอกบ้านสูง 37 องศาเซลเซียส แต่ต้องการเปิดเครื่องปรับอากาศให้ภายในบ้านมีความเย็นประมาณ 25 องศา เครื่องปรับอากาศจึงพยายามปรับให้อุณหภูมิให้ได้ตามที่ตั้งค่าไว้ จึงทำให้เป็นสาเหตุค่าไฟแพงนั่นเอง
อากาศร้อนๆ จะออกไปรับลมนอกบ้านแสงแดดก็กระทบตา ไอความร้อนก็ปลิวมากระทบผิวจนทนไม่ไหว จะเข้าไปหลบร้อยภายในบ้านโดยไม่เปิดพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศก็ร้อนอบอ้าวจนทนไม่ไหว ในช่วงฤดูร้อนพฤติกรรมการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าของหลายๆ คนจึงเปลี่ยนไป จากเดิมที่จะเปิดแอร์เฉพาะตอนก่อนนอน ก็จะเปิดตั้งแต่หัวค่ำ เพราะทนร้อนไม่ไหว เมื่อมีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ก็เป็นธรรมดาที่ค่าไฟแพงขึ้นด้วย
อีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้นมาจากอุปกรณ์ไฟฟ้าใช้งานมานาน จนทำให้ระบบเกิดการชำรุด การทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้น ๆ ก็จะเสื่อมประสิทธิภาพลง ทำให้เกิดการทำงานที่หนักมากขึ้น ส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้น นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าแล้ว ควรตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าด้วย หากมิเตอร์เกิดการชำรุด อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นได้
แน่นอนว่าในช่วงหน้าร้อนอุณหภูมิภายในบ้านก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะบ้านที่ไม่ได้มีการติดฉนวนกันความร้อน ความร้อนก็จะส่องผ่านเข้ามาภายในบ้านได้โดยตรง ในกรณีที่เป็นบ้านปูน ความร้อนยังอาจถูกกักเก็บไว้ในผนังได้อีกด้วย แล้วจะค่อยๆ ปล่อยไอความร้อนออกมาในช่วงกลางคืน ทำให้บ้านมีความร้อน แม้พระอาทิตย์จะตกแล้วก็ตาม ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักมากขึ้น เพราะจะพยายามปรับอากาศภายในห้องให้มีอุณหภูมิลดลง เมื่อเครื่องปรับอากาศทำงานหนักจึงส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้น
เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผม พัดลม เครื่องปรับอากาศ หรือเตารีด เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดก็จะมีกำลังไฟที่แตกต่างกัน ซึ่งกำลังไฟสูงมากเท่าไรก็จะหมายถึง ความกินไฟมากขึ้นเท่านั้น ไปดูกันว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านนั้นชิ้นไหนที่กินไฟมากที่สุด
เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยทำให้น้ำอุ่นขึ้น เพื่อช่วยให้อาบได้อย่างสบายตัว ซึ่งเครื่องทำน้ำอุ่นเครื่องนึงจะกินไฟประมาณ 400 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีขนาดไฟตั้งแต่ 3,500-8,000 วัตต์จะกินไฟมากเป็นพิเศษ
เครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกชิ้นที่กินไฟมากที่สุด โดยจะกินไฟมากถึง 200-1,800 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่จะเปิดเครื่องปรับอากาศ นานขึ้นก็จะยิ่งกินไฟมากขึ้นส่งผลให้ค่าไฟแพง ดังนั้นเพื่อช่วยให้แอร์ทำงานเบาลง ควรติดให้ต่ำลงมาจากฝ้าประมาณ 14 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้แอร์ได้รับความร้อนมากเกินไป นอกจากนี้ห้องที่ติดตั้งแอร์ควรไม่ให้มีรู หรือช่องโหว่เพื่อไม่ให้แอร์ไหลออก ที่สำคัญควรล้างทำความสะอาดแอร์เป็นประจำ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี
เครื่องซักผ้าโดยเฉพาะแบบตั้ง และแบบถังนอนที่มีกำลังไฟตั้งแต่ 450-2,500 วัตต์ จะกินไฟมากเป็นพิเศษ ดังนั้นก่อนที่จะซื้อเครื่องซักผ้าควรเลือกซื้อขนาดที่มีความเหมาะสมกับการใช้งาน และเครื่องซักผ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหนึ่งชนิดที่ติดท็อป 5 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟเสมอ เนื่องจากตู้เย็นนั้นจะต้องเสียบปลั๊กทิ้งไว้ตลอด เพื่อทำความเย็น ช่วยให้อาหารภายในตู้เย็นมีความสด ไม่เน่าเสียง่าย เมื่อต้องเปิดใช้งานทั้งวันทำให้ตู้เย็นกินไฟ และเสียค่าไฟเพิ่มขึ้น การปรับอุณหภูมิในตู้เย็นให้มีความเย็นพอเหมาะ ไม่เย็นมากเกินไปก็จะช่วยทำให้ประหยัดไฟได้ ที่สำคัญไม่ควรใส่ของร้อน ๆ ในตู้เย็นในทันที ควรรอให้เย็นก่อนแล้วค่อยใส่ เพื่อไม่ให้ตู้เย็นทำงานหนัก
พัดลมอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะจะมีแต่ลมร้อนๆ ออกมา หลายๆ คนจึงนิยมเลือกใช้พัดลมไอน้ำ เพื่อช่วยให้เพิ่มความเย็น ชุ่มชื่น ซึ่งพัดลมไอน้ำก็จะมีระบบเติมน้ำ เพื่อกระจายไอน้ำออกมา ซึ่งก็จะกินไฟมากกว่าพัดลมธรรมดา
เมื่ออากาศร้อนขึ้น แต่ละบ้านก็มีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดมากขึ้น โดยเฉพาะพัดลม และเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ด้วยอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดในบ้านยังทำงานหนักขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุค่าไฟแพง สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเงินค่าไฟให้กับหน้าร้อนมากขึ้น ไปดูกันว่าทำอย่างไรจะช่วยประหยัดค่าไฟได้บ้าง
เครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความจำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมืองไทยที่มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง เครื่องปรับอากาศสามารถช่วยให้อากาศภายในห้องเย็นสบาย และสามารถนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในช่วงฤดูร้อนที่มีการใช้งานเครื่องปรับอากาศมาก ๆ ก็จะทำให้ค่าไฟแพงขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อให้ใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างประหยัดไฟ ควรเลือกเครื่องปรับอากาศให้มีความเหมาะสมกับขนาดของห้อง และปรับอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง 26-27 องศาเซลเซียส ก็จะช่วยให้ประหยัดไฟได้มากถึง 10%
การใช้พัดลมช่วยเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สามารถใช้เครื่องปรับอากาศได้อย่างประหยัดไฟ โดยในช่วงก่อนที่จะเปิดเครื่องปรับอากาศ ควรเปิดพัดลมเพื่อไล่ความร้อนออกจากห้องก่อน เพื่อที่เครื่องปรับอากาศจะได้ไม่ทำงานหนักมากจนเกินไป นอกจากนี้การเปิดพัดลมขณะเปิดเครื่องปรับอากาศยังมีส่วนช่วยในการกระจายความเย็นให้มีความทั่วถึงห้องได้อีกด้วย
หลายๆ ครั้งเมื่อใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเสร็จ หลายคนมักจะเสียบปลั๊กทิ้งไว้ เพราะง่าย และสะดวกในการใช้งานครั้งถัดไป แต่พฤติกรรมเหล่านี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้นได้ เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสียบปลั๊กก็จะมีกระแสไฟฟ้าไหลเข้ามาอยู่ตลอด ดังนั้นหลังใช้งานเสร็จทุกครั้ง ควรถอดปลั๊กไฟออก เพื่อช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้นได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังที่ได้มาตราฐานตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกระทรวงพลังงานกำหนด ซึ่งฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 นั้นจะมีดาวเป็นสัญลักษณะ หากมีดาวหลายดวงยิ่งบ่งบอกว่าประหยัดไฟมากที่สุด ดังนั้นหากต้องการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ หรือเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ควรมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อช่วยให้ค่าไฟไม่สูง และช่วยประหยัดไฟได้ในระยะยาว
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยทำให้ประหยัดไฟได้ในระยะยาวคือการปรับบ้านให้มีความเย็น ซึ่งสามารถทำได้ด้วยกันหลายวิธี ตั้งแต่การติดฉนวนกันความร้อน เพื่อไม่ให้แสงแดดส่องเข้ามาภายในบ้านได้โดยตรง หรือการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มร่มเงา และช่วยบังแดดไม่ให้แสงส่องเข้ามามากเกินไป เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ตัวบ้านนั้นเย็นขึ้นได้ นอกจากนี้การเลือกสีทาบ้านที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงยูวี กันความร้อนก็ช่วยให้อุณหภูมิภายในตัวบ้านเย็นลงได้
การคำนวณค่าไฟนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยจะต้องเริ่มจากรู้อัตราค่าไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้น ซึ่งมีสูตรในการคำนวณค่าไฟ ดังนี้
เมื่อเราได้จำนวนหน่วยของค่าไฟมาแล้วก็จะช่วยให้ทราบได้อย่างคร่าว ๆ ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นรวมกันแล้วจะมีจำนวนกี่หน่วย ซึ่งอัตราการเก็บค่าไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นจะเก็บในอัตราก้าวหน้า หากใช้มากก็จะยิ่งจ่ายต่อหน่วยแพงขึ้น ดังนี้
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่ 5 ดาว เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังที่ได้มาตราฐานตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกระทรวงพลังงานกำหนด ซึ่งบนฉลากไฟเบอร์ 5 จะมีข้อความและสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อบ่งบอก ซึ่งจะมีข้อมูลดังนี้
ก่อนจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใครๆ ก็มองหาฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองแล้วว่ามีความประหยัดไฟ ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่ Global House จะมาแนะนำมีดังนี้
ในช่วงฤดูร้อน อุณหภูมิก็จะค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่อุณหภูมิสามารถเพิ่มสูงได้ถึง 40 องศา ซึ่งทำให้ร้อนจนแทบอยู่ไม่ได้ จะออกมารับลมเย็นๆ หน้าบ้าน ก็มีแต่ไอร้อน หรือจะหนีเข้าไปหลบร้อนในบ้านก็อากาศอบอ้าวจนอยู่แทบไม่ไหว ทำให้ในช่วงหน้าร้อนค่าไฟแพงขึ้น เพราะพฤติกรรมการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนัก และอากาศที่ร้อนขึ้น ทั้งหมดล้วนเป็นสาเหตุค่าไฟแพง ซึ่งหากไม่อยากให้ค่าไฟแพงขึ้นในช่วงหน้าร้อนจะต้องปรับแอร์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เปิดพัดลมช่วยกระจายความเย็น และควรปรับปรุงบ้านไม่ให้ร้อนจนเกินไป เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้บ้านเย็นลงได้ โดยไม่ต้องมาคอยคำนวณค่าไฟทุกเดือนให้ปวดหัว
แต่สำหรับใครที่หน้าร้อนนี้ ไม่อยากร้อนใจกับค่าไฟที่แพงขึ้นเรื่อยๆ อยากจะปรับปรุงบ้านให้ไม่ร้อนจนเกินไปที่ Global House เรามีวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจรที่ช่วยทำให้บ้านของคุณเย็นขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นฉนวนกันความร้อน สีทาหลังคนสะท้อนยูวี หรือใครที่มองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่โกลบอลเฮ้าส์เราก็มีสินค้าให้เลือกมากมาย ทั้งตู้เย็น พัดลมติดเพดาน เครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ติดผนัง เครื่องซักผ้า 2 ถัง และLED TV
คุ้มค่าไปอีกขั้นแค่ สมัครสมาชิกโกลบอลคลับ ฟรี พร้อมรับสิทธิพิเศษ สำหรับ สมาชิกโกลบอลคลับ เพียงช้อปครบ 50 บาท รับ 1 คะแนน สะสมโกลบอลคลับสะสมคะแนน เพื่อแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
บริการช่างดี
เนื้อหาที่คล้ายกัน