มิเตอร์ไฟฟ้า คืออุปกรณ์ที่ใช้วัดปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบ้านหรืออาคาร ซึ่งเป็นตัวเลขที่แสดงข้อมูล เพื่อใช้สำหรับคำนวณค่าไฟฟ้าที่ต้องชำระ วิธีดูมิเตอร์ไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกคน เพราะช่วยให้ทราบว่ามีปริมาณการใช้ไฟฟ้าไปเท่าไร เพื่อที่จะได้มีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมิเตอร์ไฟฟ้านั้นมีด้วยกันหลายประเภท แต่ละประเภทมีวิธีการอ่านค่าที่แตกต่างกัน บทความนี้ Global House จะชวนทุกคนไปเรียนรู้วิธีดูมิเตอร์ไฟฟ้า ว่าในแต่ละส่วนที่แสดงบนหน้าปัดนั้นบ่งบอกถึงอะไร
มิเตอร์ไฟฟ้า คือ เครื่องวัดพลังงานไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไปในแต่ละช่วงเวลา โดยปกติแล้วมิเตอร์ไฟฟ้าจะติดตั้งอยู่ภายนอกบ้านหรืออาคาร เพื่อวัดปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ก่อนส่งเข้าบ้าน พร้อมทั้งแสดงค่าไฟฟ้าที่ต้องชำระ อีกทั้งยังเป็นเครื่องที่ช่วยบันทึกข้อมูลการใช้ไฟฟ้าของเราได้อีกด้วย เพื่อใช้ในการประเมินหาสาเหตุว่าแต่ละเดือนค่าไฟขึ้นมาจากการใช้งานในส่วนใด
มิเตอร์ไฟฟ้านั้นมีหลายรูปแบบแบบ การเลือกใช้มิเตอร์ขึ้นอยู่กับขนาดของสถานที่ใช้งาน ประเภทของไฟฟ้าที่ใช้ และฟังก์ชันการทำงาน หากจำแนกประเภทของมิเตอร์ไฟฟ้าตามระบบไฟฟ้าสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้
มิเตอร์ไฟฟ้าแบบวัตต์ฮาวร์มิเตอร์ 1 เฟส (Single phase watt-hour meter) เป็นอุปกรณ์วัดพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในระบบไฟฟ้า 1 เฟส ที่ใช้หลักการเหนี่ยวนำไฟฟ้า ประกอบด้วยขดลวดกระแสไฟฟ้า และขดลวดแรงดันไฟฟ้า วัตต์ฮาวร์มิเตอร์จะแสดงค่า โดยใช้แม่เหล็กเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไหลวนทำให้จานหมุน และใช้ชุดเฟืองไปขับชุดตัวเลขให้แสดงค่าออกมาบนหน้าปัด ซึ่งจะแสดงค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ (หน่วยกิโลวัตต์-ชั่วโมง)
ระบบไฟฟ้าแบบ 1 เฟส คือ ระบบไฟฟ้าที่เราใช้กันทั่วไปในครัวเรือน มีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 220V (โวลต์) มีความถี่ 50 Hz (เฮิร์ซ) โดยมีสายไฟประกอบอยู่ 2 สาย สายหนึ่งจะเป็นสายที่กระแสไฟฟ้าไหลอยู่ หรือสายไลน์ (Current line) จำนวน 1 เส้น ส่วนอีกสายจะเป็นสายที่เดินไว้แต่ไม่มีกระแสไฟ หรือสายนิวทรัล (Neutral line) จำนวน 1 เส้น ต่อเข้ากับตู้เมนไฟฟ้าในบ้าน สำหรับระบบไฟฟ้า 1 เฟส จะค่าใช้จ่ายในการขอติดตั้งและค่าอุปกรณ์ต่างๆ ไม่สูงมาก โดยมีกำลังไฟครอบคลุมการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันภายในครัวเรือนได้ติ แต่หากสายไฟมีปัญหาขัดข้อง หรือเกิดการใช้ไฟฟ้าพร้อมกันกับบ้านหลังอื่นๆจนโอเวอร์โหลด ก็จะทำให้ไฟดับทั้งบ้าน
ระบบไฟฟ้า 1 เฟส จะมีช่องเสียบอยู่ 2 ช่อง ถ้าเอาไขควงสำหรับตรวจกระแสไฟฟ้าลองวัดดูจะเห็นได้ว่าช่องหนึ่งจะมีไฟแดงปรากฏ แสดงว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน แต่เมื่อเวลาใช้งานกับหลอดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้ร่วมกันทั้ง 2 สายเพื่อให้กระแสไฟฟ้าครบวงจร ปัจจุบันปลั๊กไฟมี 3 ช่อง เพิ่มขึ้นมานั้นเป็นช่องที่ต่อกับสายดิน (Ground) เป็นการเพิ่มความปลอดภัย หากเกิดไฟรั่วกระแสไฟฟ้าจะไหลลงดิน และปลั๊กของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะใช้กับ ระบบสายดินนี้จะเป็นปลั๊กแบบ 3 ขา
มิเตอร์ไฟฟ้า 1 เฟส หรือที่เรียกว่า มิเตอร์ไฟบ้าน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดปริมาณการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหรืออาคารทั่วไป ทำงานโดยอาศัยหลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า โดยเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดกระแส สนามแม่เหล็กจะหมุนขึ้นจากขดลวดกระแส ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำ และเกิดกระแสไฟฟ้าในขดลวดแรงดัน ในขณะเดียวกันกระแสไฟฟ้าในขดลวดแรงดัน ก็จะสร้างสนามแม่เหล็กหมุนอีกหนึ่งชุด ซึ่งแรงบิดของแม่เหล็กจากสนามแม่เหล็กทั้งสองชุด จะหมุนจานอะลูมิเนียม โดยอัตราการหมุนของจานอะลูมิเนียม จะแปรผันตามปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน ซึ่งกลไกการวัดจะแปลงการหมุนของจานอะลูมิเนียม มีหน่วยเป็น kWh และแสดงบนหน้าปัดให้ได้เห็นนั่นเอง
มิเตอร์ไฟฟ้าเฟส 1 มีองค์ประกอบด้วยกัน ดังนี้
วัตต์ฮาวร์มิเตอร์ 3 เฟส (Three phase watt-hour meter) คือ อุปกรณ์วัดพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในระบบไฟฟ้า 3 เฟส ทำหน้าที่วัดปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ใช้บริโภคในหน่วยกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) โดยจะวัดกระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าของแต่ละเฟส และคำนวณพลังงานไฟฟ้าที่ใช้บริโภคทั้งหมด
ระบบไฟฟ้าแบบ 3 เฟส คือ ระบบไฟฟ้าที่เหมาะกับสถานที่ที่ต้องการใช้ไฟฟ้ามากๆ เช่น อาคารพาณิชย์ อพาร์ทเมนท์ โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า บ้านหรืออาคารขนาดใหญ่ โดยมีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 380V(โวลต์) ความถี่ 50 Hz (เฮิร์ซ) มีสายไฟประกอบอยู่ 4 สาย โดยสายหนึ่งจะเป็นสายที่กระแสไฟฟ้าไหลอยู่ หรือสายไลน์ (Current line) จำนวน 3 เส้น ส่วนอีกสายจะเป็นสายที่เดินไว้แต่ไม่มีกระแสไฟ หรือสายนิวทรัล (Neutral line) จำนวน 1 เส้น ต่อเข้ากับตู้เมนไฟฟ้า การติดตั้งก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า เนื่องจากมีทั้งค่าติดตั้งและค่าประกันไฟฟ้า แต่สามารถประหยัดค่าใช้ไฟฟ้าได้ในระยะยาว ฉะนั้นบ้านหรืออาคารที่ติดตั้ง ระบบไฟฟ้า 3 เฟส จึงควรเป็นบ้านหรืออาคารที่ค่อนข้างใหญ่ มีการใช้ไฟฟ้าหลายจุดและเป็นปริมาณมาก
ระบบไฟฟ้า 3 เฟส จะไม่สามารถนำมาใช้กับระบบแสงสว่างหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชิ้นได้โดยตรง แต่เป็นการนำไฟฟ้า 3 เฟสมาแบ่งแยกให้เป็นระบบไฟฟ้า 1 เฟส 3 ชุด แล้วกระจายไปตามจุดต่างๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้า เมื่อมีกระแสไฟมาจ่ายได้ตั้ง 3 เส้น จะต้อมการออกแบบระบบสายไฟ ด้วยผู้เชี่ยวชาญหรือวิศวกรไฟฟ้า ในการจัดกระจายโหลดกับสายไฟ ช่วยให้การควบคุมพลังงานไฟฟ้าได้ดีกว่า หากสายไฟบางเส้นดับ ไม่ได้ดับทั้ง 3 เส้น จะทำให้ไฟดับบางจุด ไม่ได้ดับทั้งบ้าน แต่ถ้าดับที่หม้อแปลง หรือเสาไฟฟ้าล้ม จะทำให้ไฟดับทั้งหมด
มิเตอร์ไฟฟ้า 3 เฟส มีองค์ประกอบด้วยกัน ดังนี้
การเลือกใช้มิเตอร์ไฟฟ้าบ้านให้มีความเหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ ด้าน ประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งจะต้องพิจารณาจากองค์ประกอบเหล่านี้
ขนาดมิเตอร์ไฟฟ้านั้นสามารถวัดได้จากจำนวนแอมป์ (A) ที่สามารถจ่ายไฟได้ โดยสามารถสังเกตได้จากตัวเลขในช่องบนมิเตอร์ เช่น 5(15) A หมายความว่า มิเตอร์ไฟขนาด 5 แอมป์ สามารถใช้ไฟได้มากถึง 15 แอมป์ โดยมิเตอร์ไฟฟ้าทั่วไปมีขนาด ดังนี้
ระบบไฟฟ้าที่เหมาะกับการใช้งานภายในครัวเรือน นิยมระบบไฟฟ้า 1 เฟส (Single Phase) ซึ่งเป็นระบบไฟฟ้าที่ใช้สายไฟ 2 เส้น โดยมีสายที่มีแรงดันไฟฟ้า (Hot Wire) และอีก 1 เส้นเป็นสายกราวด์ (Neutral Line) แรงดันไฟฟ้าที่ใช้ในระบบ 1 เฟสในประเทศไทยโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ 220 โวลต์
นอกเหนือจากปัจจัยที่ได้กล่าวไปแล้วในเบื้องต้น การเลือกมิเตอร์ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวก ก็ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานของมิเตอร์ไฟฟ้ามี ดังนี้
การอ่านมิเตอร์ไฟฟ้าด้วยตัวเองเป็นนั้นมีส่วนช่วยให้สามารถตรวจสอบปริมาณการใช้ไฟฟ้า เพื่อนำไปวิเคราะห์รูปแบบการใช้ไฟฟ้า และหาแนวทางประหยัดไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบได้ด้วยว่ามีการใช้ไฟฟ้าผิดปกติหรือไม่ ไปดูกันว่าวิธีดูมิเตอร์ไฟฟ้าด้วยตัวเองต้องดูอะไรบ้าง
MEA (Metropolitan Electricity Authority) คือ การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่จะจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ส่วน PEA (Provincial Electricity Authority) คือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กฟภ. เป็นรัฐวิสาหกิจมีหน้าที่หลักในการจำหน่ายไฟฟ้าแก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ยกเว้นในเขตพื้นที่ของ MEA
สำหรับ MEA หรือ PEA No. ที่แสดงบนมิเตอร์ไฟฟ้า แสดงถึงเลขรหัสเครื่องวัดแต่ละเครื่อง ดังนั้นเมื่อได้รับบิลค่าควรตรวจสอบให้ดีว่าเลขในบิลกับมิเตอร์ไฟฟ้านั้นตรงกันหรือไม่ เพื่อช่วยยืนยันว่าเราจ่ายค่าไฟถูกจริงๆ
เลขหน่วยไฟฟ้า คือ ตัวเลขแสดงจำนวนไฟฟ้าที่เราใช้ไป โดยมีหน่วยเป็นกิโลวัตต์ชั่วโมง โดยตัวเลขที่แสดงบนมิเตอร์ไฟฟ้า จะมีตัวเลขหลายหลัก แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ
ระบบไฟฟ้าในประเทศไทยจะมีหลักๆ ที่นิยมใช้อยู่ 2 แบบคือ ระบบไฟฟ้า 1 เฟส และระบบไฟฟ้า 3 เฟส ซึ่งระบบไฟฟ้า 1 เฟส จะนิยมใช้ในครัวเรือน อาคารสำนักงาน แต่ระบบไฟฟ้า 3 เฟส จะใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้เครื่องจักรจำนวนมาก มีการใช้ไฟเยอะ ซึ่งระบบเฟสของไฟฟ้าก็จะแสดงอยู่มิเตอร์ด้วยเช่นกัน
แรงดันไฟฟ้า คือความแตกต่างของพลังงานศักย์ไฟฟ้าระหว่างจุดสองจุดต่อหน่วยประจุไฟฟ้า เปรียบเสมือนแรงผลักดันที่กระตุ้นให้ประจุไฟฟ้าไหลผ่านตัวนำไฟฟ้า ซึ่งไฟบ้านจะมีแรงดันอยู่ที่ 220 โวลต์ ส่วนโรงงานที่ใช้เครื่องจักรใหญ่ๆ จะมีแรงดันตั้งแต่ 380 – 400 โวลต์ ดังนั้นก่อนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ ควรตรวจสอบให้ดีว่ามิเตอร์ไฟที่ใช้อยู่นั้นสามารถรับแรงดันได้เท่าไร เพราะหากใช้ผิดประเภทอาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายได้นั่นเอง
มิเตอร์ไฟฟ้ามีหน้าที่วัดปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ในบ้าน การเลือกขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าที่เหมาะสมจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าในบ้านมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การคำนวณค่าไฟในแต่ละเดือนนั้นจะจะต้องรู้ค่าไฟฟ้าฐาน ค่า Ft และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% โดยสามารถคิดได้ตามสูตร ดังนี้
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้มีแนวทางในการประหยัดไฟ ซึ่งได้แนะนำด้วยกันทั้งหมด 6 วิธี ดังนี้
เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานตามที่ กฟผ. และกระทรวงพลังงานกำหนดที่จาก ซึ่งเป็นการรับรองว่าเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นนั้น มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุด ประหยัดไฟมากที่สุด เมื่อเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ในประเภทเดียวกัน
บทความนี้คงช่วยตอบคำถามที่หลายๆ คนสงสัยได้แล้วว่า มิเตอร์ไฟฟ้าคืออะไร หรือมิเตอร์ไฟฟ้ามีกี่แบบ พร้อมทั้งแนะนำวิธีดูมิเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้เราทราบปริมาณไฟฟ้าที่ใช้จริงในบ้านแต่ละเดือน เพื่อที่จะได้วิเคราะห์การใช้ไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งหาแนวทางในการลดค่าไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในกรณีที่ค่าไฟส่วนใหญ่มาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟ ควรมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อช่วยให้ประหยัดไฟ สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องใช้ไฟ้าที่มีฉลากประหยัดเบอร์ 5 ที่ Global House มีเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแอร์ติดผนัง เครื่องซักผ้าฝาบน พัดลม นอกจากนี้ยังมีมิเตอร์ไฟฟ้าอีกด้วย
คุ้มค่าไปอีกขั้นแค่ สมัครสมาชิกโกลบอลคลับ ฟรี พร้อมรับสิทธิพิเศษ สำหรับ สมาชิกโกลบอลคลับ เพียงช้อปครบ 50 บาท รับ 1 คะแนน สะสมโกลบอลคลับสะสมคะแนน เพื่อแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
บริการช่างดี
เนื้อหาที่คล้ายกัน