img


เดินสายไฟแบบไหนดี ฝังผนัง VS เดินลอย

ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน การเดินสายไฟเป็นเรื่องที่ผู้อยู่อาศัยต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ ไม่แพ้ส่วนอื่นๆ ภายในบ้าน เพราะระบบไฟฟ้าเป็นระบบที่ต้องมีการติดตั้งอย่างถูกต้อง เลือกใช้สายไฟให้ถูกประเภท อีกทั้งยังต้องติดตั้งให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ต่อสายไฟโยงไปมา รุงรัง เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ นอกจากการเลือกติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในบ้านให้มีความปลอดภัยแล้ว ยังต้องเลือกรูปแบบการเดินสายไฟให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ และรูปแบบของบ้านด้วย ซึ่งการเดินสายไฟนั้นมีด้วยกัน 2 รูปแบบใหญ่ๆ คือ แบบฝังผนัง และแบบลอย แต่จะเลือกรูปแบบใด วันนี้ Global House มีข้อมูลดีๆ มาแชร์ให้อ่านกัน พร้อมแนะนำวิธีการเลือกสายไฟและอุปกรณ์ที่เหมาะกับการใช้งาน

การเดินสายไฟคืออะไร

การเดินสายไฟ (Electrical Wiring) เป็นการติดตั้งระบบไฟฟ้า เพื่อใช้ภายในบ้าน โดยการติดตั้งสายไฟ เพื่อแจกจ่ายไฟฟ้าไปยังจุดต่างๆ ภายในบ้าน ให้สามารถใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ซึ่งระบบไฟฟ้าที่ใช้กันในบ้านเรือนทั่วไปนั้นจะเป็นกระแสสลับระบบหนึ่งเฟส 2 สาย  ซึ่งการเดินสายไฟนั้นจะต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การเลือกรูปแบบการเดินสายที่เหมาะกับโครงสร้างของอาคาร และสถานที่ เพื่อให้มีการจ่ายกำลังไฟฟ้า และสามารถใช้พลังงานในจุดต่างๆ ของบ้านได้อย่างทั่วถึง ที่สำคัญยังช่วยลดการเกิดปัญหาความขัดข้องในการจ่ายไฟด้วย 

ความสำคัญของการเดินสายไฟ

ระบบไฟฟ้า เป็นระบบที่ช่วยให้เราสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และแสงสว่างภายในบ้าน ซึ่งการเดินสายไฟฟ้านั้นต้องมีการออกแบบและติดตั้งโดยช่างไฟที่มีความเชี่ยวชาญ มีการเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า และรูปแบบการติดตั้งที่มีความเหมาะสมกับบ้าน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน นอกจากความสวยงามเป็นระเบียบแล้ว ยังช่วยให้มีการใช้งานเครื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย หมดกังวลเรื่องปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร นอกจากนี้การเดินสายไฟที่ถูกต้องยังทำให้การจ่ายไฟมีความเสถียร กระแสไฟฟ้ามีความทั่วถึง ช่วยลดปัญหาไฟตก ไฟกระตุก หรือไฟดับอีกด้วย 

การเดินสายไฟมีกี่แบบ

การเดินสายไฟในบ้านสามารถแบ่งได้ 2 รูปแบบ คือ แบบฝังผนัง และแบบเดินลอย ซึ่งทั้งสองรูปแบบก็จะมีความแตกต่างกัน สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกทำแบบไหนดี ไปดูกันว่าทั้งสองรูปแบบนั้นมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร เพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจ

1. การเดินสายไฟแบบฝังผนัง

การเดินสายไฟแบบฝังผนังจะต้องวางแผนควบคู่ไปพร้อมๆ กับการก่อสร้าง เพราะการเดินสายไฟแบบฝังผนังนั้นจะต้องฝังสายไฟไว้ในผนัง ทำให้ไม่สามารถมองเห็นสายไฟได้ ช่วยทำให้บ้านดูเป็นระเบียบ แต่หากต้องการแก้ไข เพิ่มจุดต่อไฟในอนาคตอาจทำได้ยาก และใช้งบประมาณค่อนข้างมาก เพราะต้องเจาะผนังเดิม เพื่อเพิ่มจุดต่อไฟ  สำหรับข้อดี-ข้อเสียของแบบฝังผนังมีดังนี้

ข้อดีของการเดินสายไฟแบบฝังผนัง

  • การซ่อนสายไฟไว้ในผนังจะช่วยให้บ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีสายไฟรุงรังให้รำคาญตา
  • สายไฟมีความปลอดภัย ไม่เสียหายได้ง่าย เนื่องจากอยู่ในผนัง จึงไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมรอบๆ 
  • ช่วยลดปัญหาการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือเป็นอันตรายกับผู้ใช้งาน

ข้อเสียของการเดินสายไฟแบบฝังผนัง

  • มีความซับซ้อนในการติดตั้ง เพราะช่างไฟต้องวางแผนร่วมกับช่างก่อสร้าง เพื่อให้งานออกมาเป็นระเบียบมากที่สุด
  • ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีความคงทนแข็งแรง ที่สำคัญจะต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ เพื่อให้ได้งานที่มีความเนี้ยบ จึงมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
  • เมื่อสายไฟเกิดความเสียหายจะตรวจสอบได้ยาก เพราะไม่สามารถมองเห็นได้
  • แก้ไขหรือซ่อมแซมได้ยาก เพราะต้องเจาะผนังเดิมออกก่อน

2. การเดินสายไฟแบบเดินลอย

การเดินสายไฟแบบลอย คือ การยึดสายไฟติดเข้ากับผนังบ้าน ซึ่งเป็นรูปแบบที่ติดตั้งได้ง่าย ไม่มีความซับซ้อน แต่ในกรณีที่พื้นที่นั้นๆ มีความชื้น มีฝุ่น หรือควันเยอะก็จะทำให้สายไฟมีความสกปรกได้ง่าย ซึ่งการเดินสายไฟแบบลอยแบ่งได้ 2 แบบ คือ 1.เแบบท่อร้อยสายไฟ และ 2. แบบกิ๊ปรัดสายไฟฟ้าสำหรับการติดตั้งสายไฟแบบลอยจะมีข้อดี-ข้อเสียดังนี้

ข้อดีของการเดินสายไฟแบบเดินลอย

  • การเดินสายไฟแบบลอยเป็นรูปแบบการติดตั้งที่ใช้กิ๊ปติดสายไฟไปกับผนังอาคาร ซึ่งไม่มีความซับซ้อน ทำให้มีราคาที่ประหยัด
  • รูปแบบการติดตั้งนั้นง่าย ไม่ต้องมีการวางแผนที่ยุ่งยากมากนัก
  • หากต้องการซ่อมแซม และเพิ่มจุดต่อไฟ สามารถทำได้ง่าย

ข้อเสียของการเดินสายไฟแบบเดินลอย

  • ต้องมีการวางแผนเส้นทางของการเดินสายไฟให้ดี เพื่อความเป็นระเบียบและสวยงาม
  • อาจทำให้สายไฟเกิดความเสียหายจากสภาพแวดล้อมได้
  • การเดินสายไฟแบบลอยต้องมีการจัดสายไฟอย่างเป็นระบบ ไม่ให้มีความแออัดมากเกินไป เพื่อลดโอกาสในการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
  • สวิตช์ไฟจะลอยสูงขึ้นมาจากผนัง อาจทำให้วางเฟอร์นิเจอร์ชิดกำแพงได้ยาก

เลือกเดินสายไฟแบบไหนดี ฝังผนัง VS เดินลอย

การเลือกเดินสายไฟในแต่ละแบบก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป สำหรับใครที่กำลังสับสนว่าควรเลือกแบบไหนดี ให้ดูรูปแบบของบ้าน และการใช้งานเป็นหลัก สำหรับบ้านที่ดีไซน์มีความหรูหรา อยากให้บ้านมีความเป็นระเบียบให้เลือกแบบฝังผนัง เพื่อให้ผนังมีความเรียบร้อย สะอาดตา ไม่มีแนวสายไฟมากวนใจ แต่สำหรับใครที่ชอบความง่ายๆ เป็นธรรมชาติ อย่างบ้านสไตล์ลอฟท์ บ้านไม้ หรือบ้านปูนเปลือย ต้องการโชว์ความดิบของโครงสร้างบ้าน การติดตั้งสายไฟแบบลอยก็จะมีเสน่ห์ไปอีกแบบ

อุปกรณ์สำหรับเดินสายไฟ

การเดินสายไฟนอกจากจะเตรียมสายไฟที่มีความเหมาะสมกับการใช้งาน กำลังไฟที่เหมาะกับอาคารแล้ว ยังต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมด้วย เพื่อให้งานมีมาตรฐาน และปลอดภัย

  • ค้อน ใช้ในการตอกตะปู ตีกิ๊ปเพื่อใช้รัดสายไฟให้มีความแน่นหนา สามารถใช้ได้ทั้งค้อนหงอน และค้อนเหลี่ยม

GOLDSEAL ค้อนหงอนด้ามไม้เหรียญทอง

  • ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูงชุบแข็ง มีความทนทาน ไม่บิ่น และเสียหายได้ง่าย
  • ด้ามจับไม้ออกแบบให้มีส่วนโค้งเว้า ช่วยให้จับได้ถนัดกระชับมือมากยิ่งขึ้น
  • ผ่านกระบวนการการผลิตมาตรฐานโรงงาน ใช้งานได้อย่างมั่นใจ


คีม ใช้สำหรับปอกสายไฟ หรือใช้ดัดให้ชิ้นงานได้ตามรูปแบบต่างๆ อีกทั้งยังช่วยยึดจับสายไฟไม่ให้หลุดได้ง่าย

STANLEY คีมปากจิ้งจกหุ้มฉนวนกันไฟ รุ่น 84-002

  • เป็นคีมที่มีขนาดกะทัดรัด สามารถจับยึดวัสดุได้ง่าย
  • ด้ามจับออกแบบด้วยการหุ้มฉนวนกันไฟ สามารถป้องกันไฟฟ้าได้ 1,000 โวลท์
  • มีแฮนด์การ์ด ที่ช่วยปกป้องมือ ไม่ให้สัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ


ไขควง ใช้สำหรับการขันน็อต หรือสกรู เพื่อใช้ในการยึดวัสดุให้ติดกัน

HUMMER ไขควงปากแบนหุ้มฉนวน รุ่น WT-925 

  • ขนาดระทัดรัด พกพาง่าย และจับได้อย่างถนัดมือ
  • ด้ามจับหุ้มฉนวนช่วยป้องกันไฟได้สูงสุด 1,000 โวลท์
  • วัสดุบริเวณด้ามจับออกแบบให้มีกันลื่น และกันสะเทือน


สว่าน ใช้สำหรับเจาะเพื่อยึดท่อร้อยสายไฟให้มีความแน่นหนา

BOSCH สว่านกระแทกไร้สาย 13มม. 18V รุ่น GSB18V-50 

  • ออกแบบด้ามจับด้วยหลักสรีรศาสตร์ ช่วยให้จับถนัดมือ 
  • ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เข้าถึงได้ทุก ๆ พื้นที่ แม้ไม่มีไฟฟ้า
  • หัวจับทำจากโลหะ ทำให้มีความแข็งแรง คงทน


ปักเต้าตีเส้น ใช้สำหรับการตีเส้นเพื่อให้ได้แนวสายไฟที่สวยงาม และมีแนวระดับตรงกัน

PROMA ปักเต้าพร้อมผงชอล์กสีน้ำเงิน

  • ขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาได้สะดวก
  • มาพร้อมผงชอล์กสีน้ำเงิน
  • ปักเต้าตีเส้นขนาดความยาว 15 เมตร

ประเภทสายไฟที่ใช้สำหรับเดินสายไฟ

การเดินสายไฟนอกจากจะเลือกประเภทให้เหมาะสมกับบ้านแล้ว ยังต้องเลือกประเภทของสายไฟที่มีความเหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย ซึ่งสายไฟที่ใช้ในครัวเรือนมักจะใช้แรงดันไฟต่ำ ซึ่งจะมีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 450/750 โวลต์ หรือไม่เกิน 750 โวลต์

สายไฟชนิด VAF

สายไฟประเภท VAF เป็นสายไฟที่ทนแรงดันได้สูงสุด 300 โวลท์ ซึ่งมีทั้งสายแบบกลม และสายแบน โดยจะมีตัวนำไฟฟ้าเป็นสายทองแดงข้างใน ซึ่งเป็นเส้นเดียว สำหรับสายไฟฟ้าแบบ VAF นั้นเหมาะกับการเดินสายไฟแบบเดินลอย

BCC สายไฟ VAF

  • สายไฟ BCC สามารถนำไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี ด้วยตัวนำไฟฟ้าที่ทำจากทองแดงบริสุทธิ์ 99.99% 
  • ฉนวนหุ้มสายไฟทำมาจากวัสดุเทคโนโลยีขั้นสูง ที่ผ่านการทดสอบและได้รับมาตรฐานระดับสากล ISO:9001 140001 450001 ทำให้มีความปลอดภัยในการใช้งาน 
  • สามารถใช้งานได้ยาวนาน มีความคงทนด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ 

สายไฟแบบ THW

สายไฟฟ้าแบบ THW เป็นสายอีกหนึ่งประเภทที่สามารถใช้ได้ทั้งกับโรงงานอุตสาหกรรม และบ้านพัก ซึ่งสาย THW นั้นเป็นสายไฟฟ้าแบบแข็ง สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้สูงสุด 750 โวลต์ เหมาะกับการเดินสายไฟแบบเดินลอย ไม่เหมาะกับการเดินสายไฟแบบร้อยท่อ หรือแบบฝังผนัง เนื่องจากเป็นสายที่ไม่ทนความชื้น

RACER สายไฟ IEC 01 THW

  • ตัวนำไฟฟ้าทำมาจากทองแดงบริสุทธิ์ 100% สามารถนำไฟฟ้าได้ดี
  • ฉนวนผลิตมาจากพอลิไวนิลคลอไรด์ PVC คุณภาพสูง มีคุณสมบัติในการทนความร้อนได้ดี
  • ขนาดของสายไฟมีความสม่ำเสมอ ทำให้การเดินสายไฟมีความสวยงาม เรียบร้อย

สายไฟแบบ VCT หรือ VCT-G

สายไฟแบบ VCT หรือ สายไฟแบบ VCT-G นั้นเป็นสายไฟที่เหมาะสำหรับใช้งานตามอาคารบ้านเรือนต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกใช้งานได้ทั้งแบบแกนเดียว และแบบหลายแกน รวมถึงสายแบบ VCT-C และยังมีแบบมีสายดิน ที่สามารถเดินสายไฟแบบฝังดินได้อีกด้วย ซึ่งสายไฟแบบ VCT หรือ สายไฟแบบ VCT-G นั้นสามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 450 โวลต์ ไปจนถึง 750 โวลต์ และทนอุณหภูมิได้สูงสุด 70 องศาเซลเซียส

BCC สายไฟ VCT-G

  • ตัวนำไฟฟ้าที่มาจากทองแดง 99.9% คุณภาพสูง ช่วยให้นำไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ฉนวนหุ้มสายไฟผลิตจากเทคโนโลยีขั้นสูงช่วยใช้ได้อย่างยาวนาน และมีความปลอดภัย
  • เป็นสายไฟที่มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือด้วยมาตรฐานระดับสากล ISO:9001 140001 450001

ก่อนเดินสายไฟต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

การเดินสายไฟ นอกจากการเลือกรูปแบบและประเภทของสายไฟที่ต้องใช้แล้ว ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อช่วยให้การเดินสายไฟนั้นมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยในการใช้งาน และได้มาตรฐาน ซึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมีดังนี้

1. ตำแหน่งของสวิตช์

การวางตำแหน่งของสวิตช์ และเต้ารับควรเลือกตำแหน่งให้เพียงพอต่อการใช้งาน และที่สำคัญควรวางสูงจากระดับพื้นประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้โดนน้ำได้ง่าย ที่สำคัญยังเป็นระยะที่ง่ายต่อการใช้งาน ไม่ต้องก้ม หรือเงยมากจนเกินไป ที่สำคัญบริเวณที่วางตำแหน่งสวิตช์ ต้องหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีความชื้นสูง และบริเวณที่มีความร้อนจัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร 

2. วงจรสายไฟย่อย

วงจรสายไฟย่อย คือสายไฟฟ้าที่เดินจากอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟเกินตัวสุดท้าย ไปยังจุดจ่ายให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเต้ารับ ในกรณีที่ตัวบ้านอยู่ในบริเวณที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง ถือเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมได้ ต้องมีการป้องกันไฟฟ้าดูดโดยใช้เครื่องตัดไฟรั่ว ดังนั้นก่อนเดินสายไฟควรคำนึงถึงการติดตั้งสายวงจรย่อย เพื่อช่วยป้องกันการถูกไฟดูด

3. ตู้เมนไฟฟ้า

ตู้เมนไฟฟ้า คืออุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน และกระจายไปยังส่วนต่างๆ ของบ้าน สำหรับบ้านที่เป็นสองชั้น ควรเลือกติดตั้งตู้เมนไฟฟ้า 2 ตู้ เพื่อแบ่งระบบไฟฟ้าภายในบ้านเป็น 2 ระบบ ซึ่งช่วยป้องกันไฟฟ้าดูดได้ หากชั้นหนึ่งเกิดปัญหาน้ำท่วมจะได้ตัดไฟที่ตู้ชั้นล่าง แต่ไฟฟ้าในตู้ชั้นบนยังสามารถใช้งานได้นั่นเอง

4. สายไฟคุณภาพ

ระบบไฟฟ้าภายในบ้านเป็นระบบที่ต้องลงทุน เพื่อความปลอดภัยของคนในบ้าน และทรัพย์สินต่างๆ ดังนั้นควรเลือกสายไฟที่มีความเหมาะสมกับอาคาร กำลังไฟมีความพอเหมาะ พอดี ที่สำคัญต้องใช้สินค้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่รับรองมาตรฐาน มีเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นสินค้าคุณภาพ 

5. ช่างมืออาชีพ

เมื่อได้รูปแบบการเดินสายไฟที่เหมาะสมกับสถานที่ และเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตราฐานแล้ว จะต้องใช้ช่างมืออาชีพที่มีความชำนาญ และมีประสบการณ์ด้านการเดินสายไฟ เพื่อความปลอดภัย ความถูกต้อง และมีมาตรฐาน

วิธีตรวจสอบระบบเดินสายไฟ

หลังจากการเดินสายไฟเข้าบ้าน มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าต่างๆ เรียบร้อยแล้ว จะต้องมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งวิธีการตรวจสอบมีด้วยกัน 6 ขั้นตอน ดังนี้

1. ตรวจเช็กตู้โหลดเซ็นเตอร์ไฟฟ้า ว่าติดตั้งเรียบร้อย หรือเกิดรอยแตกหักหรือไม่ พร้อมทั้งทดลองระบบการตัดไฟฟ้าว่าทำงานได้อย่างมีประสิทภาพจริงหรือไม่

2. ตรวจเช็กมิเตอร์ไฟฟ้า การตรวจเช็กมิเตอร์ไฟฟ้าต้องดูการต่อสายไฟเข้า-ออก และตำแหน่งที่วางว่าเอียงหรือไม่

3. ตรวจสายไฟ เช็กบริเวณที่เดินสายไฟว่ามีการติดตั้งสายไฟ ติดกิ๊ปเรียบร้อยหรือไม่ หรือในส่วนที่เดินสายแบบฝังมีบริเวณใดที่มีช่องโหว่ เป็นช่องเป็นรูหรือไม่ หากมีควรเก็บงานให้เรียบร้อย

4. เช็กปลั๊กไฟ และสายดิน ว่าจุดที่ติดตั้งนั้นสามารถใช้งานได้ครบถ้วนหรือไม่

5. ตรวจสวิตช์ไฟ และไฟฟ้าภายในบ้าน ตรวจสอบว่าบริเวณที่ติดตั้งสวิตช์นั้นเหมาะสมหรือไม่ ใกล้บริเวณที่มีความชื้นสูงหรือเปล่า รวมทั้งเปิดไฟภายในบ้านว่าติดสว่างทุกดวง ในทุกๆ จุดหรือยัง พร้อมทั้งเช็กการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านว่าใช้งานได้ตามปกติทุกเครื่อง

6. เช็กปัญหาไฟรั่วภายในบ้าน ปัญหาไฟรั่วนั้นถือเป็นเรื่องของความปลอดภัยที่ต้องเช็ก เพื่อที่จะได้แก้ไขได้ทัน โดยทำได้สองวิธีคือ การใช้ไขควงเช็กไฟ และการเช็กที่มิเตอร์ว่าหลังจากที่ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกเครื่อง ปิดไฟทุกดวงแล้ว มิเตอร์ยังวิ่งอยู่หรือไม่ 

สรุปบทความ

การเดินสายไฟเป็นระบบไฟฟ้าภายในบ้านที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากติดตั้งไม่ได้มาตรฐานอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย และทำให้ทรัพย์สินเสียหายได้ ซึ่งการเดินสายไฟนั้นจะต้องเลือกรูปแบบให้เหมาะสมกับอาคารและรูปแบบการใช้งาน ที่สำคัญจะต้องเลือกประเภทของสายไฟ และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ให้มีมาตรฐาน นอกจากนี้หลังจากติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในบ้านเรียบร้อยแล้ว จำเป็นจะต้องมีการเช็กระบบไปในจุดต่างๆ ให้ครบถ้วน หากในจุดใดเกิดปัญหาจะได้แก้ไขได้อย่างทันถ่วงที เพื่อไม่เกิดอันตรายเวลาใช้งานจริง 

คุ้มค่าไปอีกขั้นแค่ สมัครสมาชิกโกลบอลคลับ ฟรี พร้อมรับสิทธิพิเศษ สำหรับ สมาชิกโกลบอลคลับ เพียงช้อปครบ 50 บาท รับ 1 คะแนน สะสมโกลบอลคลับสะสมคะแนน เพื่อแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ

  • สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม 1,000 คะแนน แลกรับคูปองแทนเงินสด 100 บาท
  • สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม 9,000 คะแนน แลกรับคูปองแทนเงินสด 1,000 บาท
  • สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม แลกซื้อเครื่องดื่ม ที่ลามายอนคอฟฟี่ทุกสาขา


Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว

เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่

บริการช่างดี




เนื้อหาที่คล้ายกัน