img


เทคนิคขัดมันพื้นปูนให้เงาสวย ทนทานเหมือนมืออาชีพ

พื้นปูนขัดมันเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในงานตกแต่งสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย ร้านอาหาร หรืออาคารพาณิชย์ ด้วยเอกลักษณ์ของพื้นผิวที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงความหรูหราในแบบดิบเท่ สไตล์อินดัสเทรียล หรือโมเดิร์นลอฟท์ พื้นปูนขัดมันไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความงดงามของพื้นที่ แต่ยังมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ด้านการใช้งานในระยะยาว พื้นปูนขัดมันมีความสำคัญในหลายแง่มุม ทั้งในด้านความคงทนต่อการใช้งาน ความง่ายต่อการดูแลรักษา และการสร้างบรรยากาศเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ พื้นชนิดนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและการดูแลในระยะยาว ทำให้เหมาะกับผู้ที่มองหาทางเลือกที่คุ้มค่าและมีสไตล์


พื้นปูนขัดมัน คืออะไร?

พื้นปูนขัดมัน (Polished Concrete) เป็นการตกแต่งพื้นผิวคอนกรีตให้มีความเรียบเนียน เงางาม แต่ยังคงเอกลักษณ์และสีสันของปูนซีเมนต์ไว้ มีลักษณะเฉพาะตัว โดยผ่านกระบวนการขัดพื้นผิวปูนให้เรียบเนียนและเพิ่มความเงางามด้วยการเคลือบผิว จนได้พื้นผิวที่ดูสวยงามแบบธรรมชาติ มีความทนทานสูง และดูแลรักษาง่าย ทำให้พื้นปูนขัดมันกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการตกแต่งบ้าน ร้านค้า และพื้นที่อุตสาหกรรม


คุณสมบัติเด่นของพื้นปูนขัดมัน

  • ความแข็งแรงและทนทาน: พื้นปูนขัดมันมีความแข็งแรงสูง รองรับการใช้งานหนักได้ดี ทนต่อการเสียดสีหรือแรงกด ทนทานต่อการขีดข่วน การเสียดสี และการรับน้ำหนักได้ดี จึงนิยมใช้ในพื้นที่ที่มีการสัญจรหนาแน่น เช่น โรงงานอุตสาหกรรม โกดังสินค้า ห้างสรรพสินค้า หรือลานจอดรถ พื้นปูนขัดมันมีต้นทุนที่ประหยัดกว่า เมื่อเทียบกับวัสดุพื้นอื่นๆ เช่น ไม้หรือหิน 
  • ความสวยงามและทันสมัย: ให้ลุคที่เรียบง่าย ทันสมัย สไตล์มินิมอล ลอฟท์ และอินดัสเทรียล ซึ่งเข้ากันได้ดีกับการตกแต่งทั้งแบบโมเดิร์นและแบบดั้งเดิม
  • ทำความสะอาดง่าย: ด้วยพื้นผิวที่เรียบและมันเงา ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ไม่เก็บฝุ่น และไม่ต้องการการดูแลรักษามากนักเมื่อเทียบกับพื้นประเภทอื่น
  • สะท้อนแสง: พื้นผิวที่มันเงาสามารถสะท้อนแสงได้ดี ทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้นและสว่างขึ้น
  • หลากหลายสีสัน: แม้จะคงสีของปูนซีเมนต์ แต่ก็สามารถผสมสีหรือย้อมสีเพื่อให้ได้เฉดสีที่แตกต่างกันตามความต้องการ


ข้อเสียของพื้นปูนขัดมัน

  • อาจเกิดรอยแตกร้าว: หากไม่ได้เตรียมพื้นฐานอย่างเหมาะสม อาจเกิดรอยร้าวเล็กๆ บนพื้นปูน หากพื้นปูนขัดมันเกิดความเสียหาย เช่น รอยแตก รอยร้าว หรือรอยขีดข่วนลึก การซ่อมแซมให้กลับมาดูดีเหมือนเดิมทำได้ยากและอาจต้องใช้เทคนิคพิเศษ รวมถึงต้องอาศัยช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง
  • พื้นลื่นเมื่อเปียกน้ำ: เมื่อสัมผัสกับน้ำหรือของเหลวจะทำให้เกิดความลื่นสูงมาก เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหกล้มได้ง่าย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีโอกาสเปียกน้ำบ่อย เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือบริเวณภายนอกอาคารที่โดนฝน อาจต้องเพิ่มการป้องกันการลื่น เช่น การเคลือบน้ำยาป้องกัน 
  • ความเย็นของพื้นผิว: พื้นปูนขัดมันจะดูดซับและเก็บความเย็นได้ดี ทำให้พื้นรู้สึกเย็นเมื่อสัมผัส เหมาะกับภูมิอากาศร้อน อาจไม่เหมาะกับบ้านในพื้นที่ที่มีอากาศหนาว ทำให้รู้สึกไม่สบายเท้า หรือต้องหาพรมมาปูเพื่อเพิ่มความอบอุ่น


พื้นปูนขัดมันเหมาะกับใคร?

พื้นปูนขัดมันเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านที่เรียบง่าย ทันสมัย และต้องการวัสดุที่มีอายุการใช้งานยาวนาน นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือสำนักงาน ที่ต้องการความคุ้มค่าและการดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก

1. ผู้ที่ชื่นชอบสไตล์ Industrial Loft หรือ Minimalist: พื้นปูนขัดมันเป็นหัวใจหลักของสไตล์อินดัสเทรียล ลอฟท์ ที่เน้นความดิบ เท่ และโชว์พื้นผิววัสดุธรรมชาติ เช่น ปูน เหล็ก อิฐ หรือสำหรับสไตล์มินิมอลที่ต้องการความเรียบง่าย สะอาดตา ไม่มีความซับซ้อน พื้นปูนขัดมันตอบโจทย์นี้ได้ดีมาก

2. ผู้ทีต้องการความทนทานสูง: เนื่องจากเป็นพื้นคอนกรีตที่ผ่านกระบวนการทำให้แข็งแกร่งและทนทาน

พื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ ออฟฟิศ โชว์รูมสินค้า ห้างสรรพสินค้า ที่มีการสัญจรหนาแน่น และต้องการพื้นผิวที่ทนทานต่อการสึกหรอ

โรงงาน โกดังสินค้า ที่มีการใช้งานหนัก รับน้ำหนักได้ดี ทนทานต่อการขูดขีดและสารเคมีบางชนิด 

โรงจอดรถ ที่ทนทานต่อการจอดรถและคราบน้ำมัน

3. ผู้ที่ต้องการความสะอาดและดูแลรักษาง่าย: พื้นผิวที่เรียบเนียนและมันเงาทำให้ไม่เก็บฝุ่น ทำความสะอาดง่าย เพียงแค่กวาด ถู หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นก็เพียงพอแล้ว เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ที่อาจมีขนร่วงหรือคราบสกปรกที่ต้องการทำความสะอาดง่าย หรือผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลบ้านมากนัก: ต้องการพื้นที่ดูแลรักษาน้อย

4. ผู้ที่ต้องการพื้นผิวที่สะท้อนแสงได้ดี: พื้นปูนขัดมันที่มีความเงางามจะช่วยสะท้อนแสงธรรมชาติและแสงจากหลอดไฟ ทำให้พื้นที่ดูกว้างขวาง สว่าง และโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

พื้นที่ขนาดเล็กที่ต้องการให้ดูไม่อึดอัด พื้นที่ที่ต้องการประหยัดพลังงานแสงสว่าง โดยการใช้แสงธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด

5. ผู้ที่ต้องการพื้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว: เนื่องจากพื้นปูนขัดมันเป็นการเผยผิวคอนกรีตจริง ทำให้แต่ละพื้นจะมีลวดลาย สี และร่องรอยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำใคร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่างและไม่ชอบพื้นผิวที่ดูผลิตซ้ำ

6. ผู้ที่อยู่ในพื้นที่อากาศร้อน: เนื่องจากพื้นปูนขัดมันสามารถดูดซับและเก็บความเย็นได้ดี ทำให้พื้นผิวรู้สึกเย็นสบายเท้าเมื่อสัมผัส เหมาะกับภูมิอากาศร้อนของประเทศไทย



ขั้นตอนการทำพื้นปูนขัดมัน

1. การเตรียมพื้นผิว (Surface Preparation)

  • ตรวจสอบและประเมินสภาพพื้นคอนกรีตเดิม: ช่างจะประเมินความแข็งแรง ความเรียบ และรอยแตกร้าวของพื้นคอนกรีตเดิม หากเป็นพื้นใหม่ ต้องมั่นใจว่าคอนกรีตแห้งสนิทดีแล้ว (บ่มคอนกรีตอย่างน้อย 28 วัน)
  • ทำความสะอาด: ขจัดสิ่งสกปรก กำจัดฝุ่น คราบน้ำมัน คราบกาว สี หรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ออกจากพื้นผิวให้หมดจด
  • ซ่อมแซมรอยแตก รอยร้าว: หากมีรอยแตกหรือรอยร้าวบนพื้นคอนกรีต จะต้องทำการซ่อมแซมด้วยวัสดุประสานและอุดซ่อมรอยแตกร้าว หรือฉาบปูนซ่อมแซมให้เรียบร้อย เพื่อให้พื้นผิวมีความเรียบและแข็งแรงสม่ำเสมอ
  • ปรับระดับ: หากพื้นคอนกรีตมีความไม่สม่ำเสมอ อาจจำเป็นต้องมีการปรับระดับพื้น ด้วยการเทปูนปรับระดับบางส่วน หรือทำการขัดพื้นผิวในขั้นต้นเพื่อปรับความเรียบเนียน


2. การเทปูน

ผสมปูน ใช้ปูนซีเมนต์ ทราย และน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสม หรือเลือกใช้ปูนสำเร็จรูปสำหรับพื้นปูนขัดมัน หากต้องการเพิ่มสี สามารถผสมสีฝุ่นหรือสีอะคริลิกที่เข้ากันกับปูน เทปูนให้ทั่วพื้นที่ในปริมาณที่เหมาะสม และใช้เกรียงเกลี่ยให้เรียบเนียน และกระจายปูนให้สม่ำเสมอ


3. การขัดหยาบ (Grinding / Coarse Grinding)

เริ่มขัดเมื่อปูนอยู่ในระยะหมาด ปูนยังไม่แข็งตัวเต็มที่ ทดสอบโดยใช้นิ้วแตะ หากมีรอยลึกเล็กน้อยแสดงว่าเริ่มขัดได้

  • ขัดรอบแรก: ใช้เกรียงหรือเครื่องขัดหมุนวนเป็นวงกลมเบา ๆ เพื่อปรับผิวให้เรียบ
  • ขัดรอบสอง: หลังจากรอบแรกแห้งเล็กน้อย ให้เพิ่มแรงกดขณะขัดเพื่อให้พื้นผิวแน่นและเงางาม
  • ขัดรอบสุดท้าย: ใช้น้ำยาเคลือบมันหรือผลิตภัณฑ์ปิดผิว เพื่อเพิ่มความเงางาม


สำหรับพื้นที่กว้าง ใช้เครื่องขัดมันปูน (Power Trowel) เลือกใบขัดที่เหมาะสมกับประเภทของปูน เช่น ใช้ใบขัดเพชรแบบโลหะ (Metal Bond Diamond) ที่มีความละเอียดต่ำ เพื่อขัดเอาชั้นผิวคอนกรีตที่อ่อนแอ ชำรุด หรือมีสิ่งเจือปนออก รวมถึงเปิดหน้าปูนให้เห็นเนื้อคอนกรีตที่แข็งแรงและสม่ำเสมอ ขัดวนไปมาบนพื้นผิวอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจใช้น้ำช่วย (Wet Grinding) หรือขัดแบบแห้งพร้อมระบบดูดฝุ่น (Dry Grinding) เพื่อควบคุมฝุ่นละออง


4. การขัดปานกลางและปรับผิว (Medium Grinding & Refining)

เปลี่ยนใบขัดเพชร เป็นความละเอียดที่สูงขึ้น อาจยังคงเป็นใบขัดโลหะ หรือเริ่มใช้ใบขัดเพชรแบบเรซิน (Resin Bond Diamond) ที่มีความอ่อนนุ่มกว่า เพื่อลบรอยที่เกิดจากการขัดหยาบในขั้นแรก และเริ่มปรับพื้นผิวให้เรียบเนียนยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมสำหรับการลงน้ำยา


5. การทาน้ำยาเพิ่มความแกร่ง (Densifier Application)

  • ทำความสะอาดพื้นผิว: โดยการดูดฝุ่นและทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นและสิ่งสกปรก
  • ทาน้ำยา Densifier: น้ำยาที่เป็นสารประเภท Lithium Silicate, Sodium Silicate หรือ Potassium Silicate ซึ่งจะซึมเข้าไปทำปฏิกิริยากับปูนซีเมนต์ในเนื้อคอนกรีต เกิดเป็นผลึกที่ช่วยอุดช่องว่างและเพิ่มความหนาแน่น ความแข็งแกร่ง และความทนทานให้กับพื้นผิวคอนกรีต ทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตกำหนด เพื่อให้น้ำยาซึมและทำปฏิกิริยาได้อย่างเต็มที่


6. การขัดละเอียด (Fine Grinding & Polishing)

หากต้องการเพิ่มมิติความลอฟท์ สามารถใช้เครื่องขัดเงาเพิ่มเติม เปลี่ยนใบขัดเพชร เป็นใบขัดเพชรแบบเรซิน (Resin Bond Diamond) ที่มีความละเอียดสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อขัดผิวคอนกรีตที่ได้รับการเสริมความแกร่งแล้ว ให้เกิดความเงางามตามระดับที่ต้องการ โดยยิ่งใช้ใบขัดที่มีความละเอียดสูงขึ้น พื้นผิวก็จะยิ่งเงางามมากยิ่งขึ้น ขัดวนไปมาอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจใช้น้ำช่วย (Wet Polishing) หรือขัดแบบแห้ง (Dry Polishing) 


7. การเคลือบป้องกัน (Protective Sealer Application - Optional)

  • ทำความสะอาดพื้นผิว: ดูดฝุ่นและเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นและสิ่งสกปรกอีกครั้ง
  • ทาน้ำยาเคลือบ (Concrete Sealer): ทาน้ำยาเคลือบเงา โดยใช้น้ำยาเคลือบพื้นหรือ Wax ทาให้ทั่วพื้นปูนหลังขัดเสร็จ เพื่อให้พื้นมีความเงางามและป้องกันฝุ่นเกาะ หรือทาน้ำยาเคลือบป้องกัน (Guard/Sealer) ที่เป็นสารประเภท Repellent เช่น Fluoropolymer หรือ Urethane เพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการกันน้ำ กันคราบ และช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น รวมถึงเพิ่มความเงางามและอายุการใช้งาน ปล่อยให้พื้นแห้งสนิทตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตน้ำยาแนะนำก่อนการใช้งาน


8. การทำความสะอาด และการดูแลรักษาพื้นปูนขัดมัน

ใช้ไม้ถูพื้นและน้ำเปล่า หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่รุนแรง สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนเพื่อป้องกันผิวเสียหาย และเคลือบพื้นเป็นประจำ ทาน้ำยาเคลือบใหม่ทุก 6-12 เดือน เพื่อรักษาความเงางาม


โกลบอลเฮ้าส์ แนะนำอุปกรณ์ในการขัดมันพื้นปูน


1. ปูนซีเมนต์โครงสร้าง

สำหรับงานเทพื้นคอนกรีตใหม่ หากคุณต้องการเทพื้นคอนกรีตเพื่อทำพื้นปูนขัดมัน ควรเลือกใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์สำหรับงานโครงสร้าง (เช่น ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภท 1 หรือ 3) ที่มีกำลังอัดเหมาะสม

📌พิกัด ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก TPI M –299 ขนาด 50 กก.


2. ปูนปรับระดับ หรือ ปูนเทปรับระดับ (Self-Leveling Mortar/Compound)

ในกรณีที่พื้นเดิมไม่เรียบ หรือต้องการเททับหน้าบางๆ เพื่อให้ได้ผิวที่เรียบเนียนพร้อมขัดมัน สินค้าประเภทนี้จะช่วยให้งานง่ายขึ้น เช่น ปูน TPI-M-410 (เทปรับระดับชนิดไหลตัวดี Semi-Self) หรือผลิตภัณฑ์ปูนปรับระดับจากแบรนด์อื่นๆ

📌พิกัด ปูน TPI-M-409(ปูนเทปรับระดับ)50Kg.



3. ชุดซีเมนต์ขัดมันสำเร็จรูป (Polished Concrete Kits / Skim Coat Kits)

บางผู้ผลิตมีชุดซีเมนต์ขัดมันสำเร็จรูปที่ผสมมาพร้อมแล้ว หรือเป็นปูนฉาบตกแต่งที่สามารถขัดมันได้ ซึ่งมักจะมาเป็นถุงหรือกระปุก สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องเตรียมส่วนผสมมากมาย เหมาะสำหรับพื้นที่ไม่ใหญ่มาก หรือผู้ที่ต้องการลองทำด้วยตัวเอง มีให้เลือกหลายสี เช่น สีดำ สีเทา ซึ่งเป็นปูนที่ออกแบบมาให้สามารถขัดเงาได้ง่าย

📌พิกัด BESBOND ปูนขัดมันแข็งแรงพิเศษ SUPER HARDENER 25 กก.


4. น้ำยาเคมีสำหรับพื้นปูนขัดมัน

  • น้ำยาเพิ่มความแกร่ง (Densifier/Hardener): เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพื้นปูนขัดมัน เพื่อเพิ่มความหนาแน่นและความแข็งแกร่งของผิวคอนกรีต ทำให้ขัดเงาได้ดีขึ้นและทนทานขึ้น
  • น้ำยาเคลือบเงา / น้ำยาเคลือบป้องกัน (Sealer/Protective Coating): เพื่อเพิ่มความเงางาม ป้องกันคราบสกปรก และยืดอายุการใช้งานของพื้นปูนขัดมัน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่อาจมีโอกาสเปียกน้ำหรือสัมผัสคราบ)

📌พิกัด Weber ซีเมนต์ขัดผิว เวเบอร์.พริม คอนกรีต


5. อุปกรณ์และเครื่องมือ (สำหรับผู้ที่ต้องการทำเอง)

  • เครื่องขัดพื้น (Floor Grinder/Polisher): สำคัญที่สุด สำหรับการทำพื้นปูนขัดมัน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาค่อนข้างสูง และอาจต้องเช่าหากไม่ได้ทำบ่อยๆ โกลบอลเฮ้าส์อาจจะมีเครื่องขัดขนาด
  • ใบขัดเพชร (Diamond Pads): ใบขัดเพชรสำหรับเครื่องขัดพื้น มีหลายเบอร์ความละเอียด (Grit) ตั้งแต่เบอร์หยาบไปจนถึงเบอร์ละเอียดสูงสำหรับขัดเงา
  • เกรียง: สำหรับเกลี่ยปูนฉาบ หรือปูนปรับระดับ
  • ถังผสมปูน และเครื่องผสม (ถ้ามี): สำหรับผสมปูนให้เข้ากันดี
  • เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรม: สำคัญมากสำหรับการเก็บฝุ่นที่เกิดจากการขัด เพื่อความสะอาดและสุขอนามัย
  • อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE): เช่น แว่นตานิรภัย ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น รองเท้าเซฟตี้

📌พิกัด MARTON เครื่องขัดมันปูน รุ่น All new ขนาด 100 cm. พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 6.5 แรง


สรุป

พื้นปูนขัดมันเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมในปัจจุบัน ด้วยความสวยงามที่ดูเป็นธรรมชาติ และคุณสมบัติที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้พื้นคอนกรีตทนทานต่อการใช้งานหนักได้มากขึ้น พื้นปูนขัดมันเป็นตัวเลือกที่ทั้งสวยงาม ทันสมัย และทนทาน พื้นปูนขัดมันไม่ได้จำกัดอยู่แค่พื้นที่ใช้งานหนัก ยังสามารถนำมาใช้ในการตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะบ้านสไตล์ลอฟท์ที่นิยมจับคู่พื้นปูนขัดมันกับผนังปูนเปลือย สร้างความดิบเท่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว การทำพื้นปูนให้เงางามเหมือนมืออาชีพต้องเริ่มจากการเตรียมพื้นผิว ขัดพื้นด้วยขั้นตอนที่เหมาะสม ใช้น้ำยาเพิ่มความแข็งแกร่ง และเคลือบพื้นเพื่อป้องกัน ครบทุกขั้นตอนนี้จะช่วยให้ได้พื้นผิวที่เรียบเนียน แข็งแรง  ใช้งานได้นาน และตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างแท้จริง


Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว


เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่


ช่องทางติดต่อ บริการช่างดี




เนื้อหาที่คล้ายกัน