อลูมิเนียม (Aluminium) เป็นโลหะที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา และสามารถทนความร้อนได้สูง จึงเป็นแร่ธาตุที่สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลาย ทั้งภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน รวมถึงใช้ในงานโครงสร้างบ้าน จริง ๆ แล้วอลูมิเนียมเป็นแร่ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรามากกว่าที่คิด วันนี้ Global House จะชวนทุกคนไปรู้จักกับแร่ชนิดนี้ให้มากขึ้นว่าใช้ทำอะไรได้บ้าง และเกรดอลูมิเนียมแต่ละประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร
อลูมิเนียม เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่ได้มาจากแร่ออกไซด์ (oxides) ซึ่งเป็นแร่ที่มีสีน้ำตาลแดง มีลักษณะเป็นก้อนแข็ง ๆ ที่มีการอัดตัวแน่น โดยมีจุดหลอมละลายอยู่ที่ 600 องศาเซียลเซียส เมื่อนำมาหลอมก็จะได้เป็นอลูมิเนียมบริสุทธิ์ ซึ่งถือว่าเป็นโลหะที่พบได้มากที่สุดในแหล่งธรรมชาติทั่วไป เช่น ในดิน แหล่งน้ำ และเหมืองแร่ ด้วยคุณสมบัติที่มีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังสามารถดัด และขึ้นรูปได้ง่าย จึงนิยมนำมาใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม
อลูมิเนียมเป็นธาตุที่มีคุณสมบัติเด่นคือความแข็งแรง ทนทาน ที่สำคัญยังมีน้ำหนักเบา และมีความหนาแน่นน้อย ทำให้เหมาะกับการใช้งานในโครงสร้างบ้าน เช่น ประตูอลูมิเนียม หน้าต่างกระจกอลูมิเนียม และราวกั้น นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดเด่นของแร่ธาตุชนิดนี้คือความทนทานต่อความร้อนได้สูง ทนต่อการกัดกร่อน ไม่ก่อให้เกิดสนิมได้ง่าย อีกทั้งยังมีความเหนียว ไม่แตกหักและเกิดรอยร้าว จึงนิยมนำมาขึ้นรูป เพื่อผลิตของใช้ต่าง ๆ ทั้งของใช้ภายในครัวเรือน อย่าง หม้อ กระทะ ถังน้ำแข็ง หรือจานร้อน รวมถึงใช้สำหรับการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมด้วย
ประเภทของอลูมิเนียม
อลูมิเนียมเป็นแร่ธาตุที่นำไปใช้งานได้ในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งอลูมิเนียมแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน สำหรับการแบ่งประเภทของอลูมิเนียมสามารถแบ่งได้ทั้งจากการผลิต และเกรดอลูมิเนียม ดังนี้
หากแบ่งอลูมิเนียมตามประเภทของการผลิตนั้นจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ อลูมิเนียมบริสุทธิ์และอลูมิเนียมผสม ซึ่งผลิตมาจากแร่ออกไซด์ ซึ่งเป็นแร่ที่มีลักษณะเป็นก้อนสีน้ำตาลแดงแข็งๆ ที่อัดตัวกันจนแน่น การที่จะได้มาจะต้องมีการถลุงแร่ออกไซด์ เพื่อให้ได้อลูมิเนียมบริสุทธิ์ ซึ่งมีความบริสุทธิ์สูงถึง 99% อาจจะมีแร่ธาตุอื่นผสมเพียง 1% เท่านั้น ซึ่งมีคุณสมบัติที่มีความเหนียวสูง สามารถขึ้นรูปได้หลากหลาย ส่วนอลูมิเนียมผสม เป็นการหลอมรวมกับแร่ธาตุอื่นๆ เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่มีความคงทนมากขึ้น ซึ่งแร่ที่ใช้หลอมผสมมีด้วยกันหลายชนิด เช่น สังกะสี แมกนีเซียม ทองแดง และนิกเกิล เป็นต้น
เกรดอลูมิเนียมที่ถูกแบ่งในปัจจุบันถูกกำหนดขึ้นจากสมาคมอลูมิเนียมแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีหลักเกณฑ์ในการแบ่งมาจากส่วนผสมที่ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน ซึ่งจะแทนด้วยตัวเลขทั้งหมด 4 หลัก ดังนี้
หลักที่ 1 ในการแบ่งเกรดอลูมิเนียม เป็นการแสดงหมวดหมู่ของโลหะผสมในอลูมิเนียม ซึ่งในปัจจุบันมีด้วยกันทั้งหมด 8 กลุ่ม
หลักที่ 2 ที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการแบ่ง โดยจะใช้ตัวเลขในการบ่งบอกถึงอลูมิเนียมที่มีการผสมกับโลหะอื่นๆ โดยเลข 0 หมายถึงส่วนผสมโลหะเดิม และเลข 1-9 แสดงถึงโลหะที่ผสมเพิ่มเข้าไป
หลักที่ 3 เป็นหลักที่บ่งบอกถึงชนิดย่อยของโลหะชนิดเดียวกันที่ผสมเข้าไป โดยจะแสดงส่วนผสมที่แตกต่างกัน เช่น
สำหรับหลักที่ 4 ก็เป็นหลักที่เหมือนหลักที่ 3 โดยบ่งบอกถึงชนิดย่อยของโลหะชนิดเดียวกันที่ผสมเข้าไป โดยจะแสดงส่วนผสมที่แตกต่างกัน
การผลิตเริ่มต้นจากการขุดหาแร่ออกไซด์ในเหมือง ซึ่งแร่ออกไซด์เป็นแร่ที่มีลักษณะเป็นก้อนแข็งๆ ที่จะอัดตัวกันแน่น มีเฉดสีที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่สีเหลืองปนน้ำตาล น้ำตาลแดง ไปจนถึงสีขาว หลังจากที่ได้แร่ออกไซด์แล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการถลุงแร่ และทำการหลอม เพื่อให้ได้อลูมิเนียมบริสุทธิ์ หลังจากนั้นก็จะนำแร่ไปแปรรูป เพื่อให้ได้เป็นชิ้นส่วน หรือรูปทรงในแบบที่ต้องการ นอกจากนี้ในกรณีที่ต้องการคุณสมบัติอื่นๆ เพิ่มเติม ยังสามารถผสมแร่ธาตุชนิดอื่น ๆ ได้ด้วย เพื่อให้ได้คุณสมบัติเหมาะกับการใช้งานที่สุด
อลูมิเนียมเป็นโลหะชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติที่มีความแข็งแรง ทนทาน จึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายทั้งในภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน อีกทั้งยังสามารถสะท้อนความร้อนได้ดี ไปดูกันว่านิยมใช้งานในรูปแบบใดบ้าง
อลูมิเนียมเป็นแร่ธาตุที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนได้อย่างดี อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบา จึงเหมาะกับการใช้ในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง โดยนำไปใช้แทนไม้ หรือเหล็ก นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาจึงนิยมนำไปใช้กับงานโครงสร้างอีกด้วย เช่น ใช้สำหรับการทำเสา คาน ประตู หน้าต่าง บันได ราวกั้น และใช้สำหรับการทำรั้วบ้าน เป็นต้น
Alutech ประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม
นอกจากความแข็งแรงแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้ไม่ขึ้นสนิมได้ง่าย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา ทำปฎิกิริยากับสารเคมีได้ยาก ช่วยให้มีความปลอดภัยในการใช้งาน ที่สำคัญยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เมื่อเทียบกับวัสดุชนิดอื่นๆ จึงนิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ หรือใช้ทำภาชนะบรรจุอาหาร เช่น กระป๋องใส่อาหารสำเร็จรูป กระทะ จานชาม หม้อ ตู้กับข้าว และกล่องใส่อาหาร เป็นต้น
อีกหนึ่งประโยชน์ของอลูมิเนียมคือสามารถใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถนำไฟฟ้าได้ดี ทนต่อความร้อนได้สูง และน้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม จึงถูกนำมาใช้ในการทำสายไฟ นอกจากนี้ยังมีการนำไปใช้ในชิ้นส่วนวงจรอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
วงการอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ก็ได้มีการนำอลูมิเนียมมาใช้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หลายชนิด เช่น รถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน เนื่องจากมีคุณสมบัติในการทนต่อแรงกด น้ำหนักเบา และที่สำคัญไม่เกิดสนิม ทำให้เหมาะกับยานยนต์ เพื่อให้ใช้งานได้ยาว โดยที่ไม่พังได้ง่ายนั่นเอง
อลูมิเนียมและสเตนเลสเป็นโลหะที่ได้มาจากการถลุงแร่ต่างชนิดกัน โดยอลูมิเนียมนั้นเป็นแร่ธรรมชาติ ส่วนสเตนเลสเป็นเหล็กกล้าชนิดหนึ่ง ที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุชนิดอื่น ๆ ด้วย แม้แร่ทั้งสองชนิดจะมีความแข็งแรง และมีความทนทานเหมือนกัน แต่โลหะทั้งสองชนิดก็มีความแตกต่างในหลายๆ ด้าน ดังนี้
อลูมิเนียมเป็นโลหะที่ได้จากการถลุงแร่ออกไซด์ และทำการหลอม ทำให้ได้อลูมิเนียมบริสุทธิ์ ซึ่งมีคุณสมบัติที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้ไม่เป็นสนิมได้ง่าย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา และสามารถนำไฟฟ้าได้ดี จึงนิยมนำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมหลากหลายอย่าง เช่น อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมขนส่ง อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยก่อนจะนำไปใช้งาน จะต้องนำมาขึ้นรูปก่อน เพื่อใช้ในการผลิตวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทะ หม้อ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับใครที่กำลังมองหา อลูมิเนียม หรือสเตนเลส เพื่อใช้งานที่ Global House เป็นศูนย์รวมอลูมิเนียม และสเตนเหล็ก ที่มีให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น แผ่นอลูมิเนียม ท่อสเตนเลสกลม ท่อสเตนเลสแบน และข้าวของเครื่องใช้อลูมิเนียมอย่าง ประตูอลูมิเนียม หน้าต่างกระจกอลูมิเนียม และตู้กับข้าวอลูมิเนียม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่ได้มาตรฐาน ได้ว่ามีความแข็งแรง เหมาะกับการใช้งาน อีกทั้งยังขายในราคาสุดคุ้ม รับรองได้ว่ามาซื้อที่โกลบอลเฮ้าส์จะได้ของดีราคาคุ้มค่าอย่างแน่นอน
คุ้มค่าไปอีกขั้นแค่ สมัครสมาชิกโกลบอลคลับ ฟรี พร้อมรับสิทธิพิเศษ สำหรับ สมาชิกโกลบอลคลับ เพียงช้อปครบ 50 บาท รับ 1 คะแนน สะสมโกลบอลคลับสะสมคะแนน เพื่อแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
บริการช่างดี
เนื้อหาที่คล้ายกัน