เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยที่ร้อนระอุเกือบตลอดทั้งปี ทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบันนี้ แอร์หรือเครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านต้องมีไว้ใช้งานอย่างน้อยบ้านละ 2 - 3 เครื่องเลยทีเดียว โดยหนึ่งในห้องที่คนส่วนใหญ่นิยมติดตั้งเครื่องปรับอากาศก็คือ ห้องนอน เพื่อให้ห้องมีอากาศเย็นสบาย และสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสิ่งที่ทุกคนมักจะให้ความสำคัญเมื่อต้องการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศมาใช้งานสักเครื่องก็คงไม่พ้นการเลือก BTU ของแอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง เพื่อให้ห้องเย็นเร็วทันใจและทั่วถึงทุกบริเวณ
แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากการเลือก BTU ที่เหมาะสมจะมีส่วนช่วยให้ห้องเย็นฉ่ำทั่วทุกบริเวณได้แล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนมักจะมองข้ามไป นั่นก็คือ ตำแหน่งที่ติดตั้ง โดยในบทความนี้เราจะพาคุณมาไขคำตอบเองว่า ควรติดแอร์ห้องนอนตรงไหนดี ถึงจะเย็นฉ่ำทั่วทั้งห้อง ใครที่ติดแอร์ห้องนอนแล้ว ยังต้องนอนเหงื่อแตกตอนกลางคืน ต้องห้ามพลาด!
หัวข้อไฮไลท์
อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า นอกจากการเลือกขนาด BTU ที่เหมาะกับขนาดห้อง จะส่งผลต่อความเย็นภายในห้อง ตำแหน่งการติดแอร์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะส่งผลเรื่องความเย็นแล้ว ยังส่งผลต่อการใช้งานเครื่องปรับอากาศในห้องอีกด้วย ซึ่งหลายๆ คนก็คงจะสงสัยกันขึ้นมาว่า แล้วติดแอร์ห้องนอนตรงไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด ติดตามต่อให้จบรับรองว่าไขข้อสงสัยได้แน่นอน
ติดมุมที่มองเห็นได้ทั้งห้อง
เนื่องจากลมเย็นของแอร์ จะมีการกระจายไปตามรูปแบบของห้อง ดังนั้น ถ้าคุณต้องให้ห้องเย็นทั่วถึงทุกบริเวณ ก็จะต้องติดตั้งแอร์ในมุมที่สามารถมองเห็นได้ทั้งห้อง ไม่ควรติดตั้งแอร์ไว้ในมุมอับ หรือมุมขวาง เพราะจะทำให้แอร์เย็นแค่บางจุด และกระจายความเย็นไม่สม่ำเสมอทั่วทั้งห้อง นอกจากนี้ยังสามารถพิจารณาจุดที่เหมาะสมในการติดตั้งจากรูปทรงของห้องได้ด้วย เช่น หากห้องนอนที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าควรติดตั้งในแนวยาว เป็นต้น
การติดแอร์ห้องนอน ควรจะเลือกติดตั้งบริเวณผนังด้านที่ตั้งฉากกับเตียง โดยอาจจะเลือกติดตั้งให้ตรงกับบริเวณกลางเตียง หรือ ค่อนไปทางปลายเตียงเล็กน้อย เพื่อให้ทิศทางลมพัดขวางลำตัวในเวลานอน เพราะหากคุณติดตั้งแอร์ในตำแหน่งที่ลมเป่าเข้าหน้า ก็อาจจะเสี่ยงต่อการเป็นภูมิแพ้หรือโรคระบบทางเดินหายใจได้ เนื่องจากแอร์จะพัดเอาความเย็น ความชื้น และฝุ่นให้โดนใบหน้าเราตลอดทั้งคืน นอกจากนี้ยังอาจทำให้ลมเย็นกระจายไม่ทั่วทั้งห้องอีกด้วย
ไม่ติดแอร์เหนือประตู
เนื่องจากทุกครั้งที่มีการเปิด - ปิดบานประตู อากาศร้อนจากภายนอกก็จะไหลเข้ามาในห้องได้ง่าย ทำให้ลมที่ออกจากแอร์มีอุณหภูมิที่ไม่สม่ำเสมอ และส่งผลให้ระบบเซนเซอร์ของเครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักมากขึ้น ทำให้อายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศสั้นลง อีกทั้งยังเปลืองไฟมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากจะไม่ควรติดตั้งแอร์เหนือประตูแล้ว บริเวณเหนือหน้าต่างก็เป็นอีกตำแหน่งที่ไม่ควรติดตั้งแอร์เช่นกัน เนื่องจากการติดแอร์ห้องนอนเหนือหน้าต่าง จะทำให้แอร์ได้รับแสงแดดและไอความร้อนโดยตรง ซึ่งก็รวมถึงการติดตั้งแอร์ไว้ในทิศที่โดนแสงแดดเป็นประจำอย่างทิศใต้ หรือทิศตะวันตกด้วยเช่นกัน เพราะหากได้รับความร้อนมากๆ ก็จะส่งผลให้แอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ประสิทธิภาพการทำงาน และอายุการใช้งานของแอร์ลดลง อีกทั้งยังเปลืองไฟมากขึ้นอีกด้วย
เชื่อว่าเมื่อเห็นข้อนี้คงจะมีหลายคนที่สงสัยว่า ทำไมเราถึงไม่ควรติดแอร์ห้องนอนเหนือเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การติดแอร์ในตำแหน่งเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกับความเย็น หรือการกระจายลมแอร์ แต่จะส่งผลถึงความสะดวกสบายเมื่อต้องล้างแอร์
เพราะหากมีเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งอยู่ด้านล่าง เมื่อจะล้างแอร์แต่ละครั้งก็ต้องย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปมา ทำให้เกิดความยุ่งยากและเสียเวลามากขึ้น อีกทั้งการมีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปล่อยความร้อนอย่าง ไมโครเวฟ หรือตู้เย็น ก็จะทำให้แอร์ได้รับความร้อนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้น และต้องทำงานหนักมากขึ้นนั่นเอง
เมื่อได้ทราบตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดแอร์ห้องนอนกันไปแล้ว อันดับต่อไปก็ต้องมาดูสิ่งที่ควรระวังในการติดแอร์ในห้องนอนกันบ้าง เพราะในบางครั้งเราอาจจะมองข้ามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจส่งผลกระทบ หรือสร้างความลำบากให้กับเราในอนาคตได้ ดังนั้น เราไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรที่คุณควรระวังบ้าง
ระวังการติดตั้งในจุดที่ล้างแอร์ยาก
ตำแหน่งในการติดตั้งแอร์ ไม่ได้ส่งผลแค่ในเรื่องการกระจายความเย็นเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความสะดวกสบายในการล้างแอร์ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งนอกจากจะไม่ควรติดตั้งแอร์ไว้เหนือเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เพราะต้องมีการเคลื่อนย้ายข้าวของเหล่านั้นทุกครั้งที่มีการล้างแอร์แล้ว ยังควรระวังการติดตั้งแอร์บนห้องที่มีเพดานสูงกว่า 2.5 เมตรด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้ช่างที่มาล้างแอร์ ต้องใช้บันไดสูงที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และไม่สะดวกในการทำงานเท่าไหร่นัก ดังนั้น หากต้องการติดแอร์ในห้องที่มีเพดานสูงกว่า 2.5 เมตร แนะนำว่าควรจะเลือกแอร์แบบฝั่งฝ้าไปใช้งานจึงจะเหมาะสม
สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรกๆ ในการติดแอร์ห้องนอน รวมถึงห้องอื่นๆ ก็คือ ขนาด BTU แอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้องนอน หากห้องนอนมีขนาดใหญ่แล้วเลือกแอร์ที่มีขนาด BTU น้อย จะทำให้แอร์ต้องทำงานหนัก เปลืองไฟ และทำความเย็นได้ไม่ทั่วถึง แต่หากเลือกแอร์ที่มี BTU ขนาดใหญ่กว่าห้อง ก็จะเป็นการเปลืองไฟโดยใช่เหตุเช่นกัน
การติดตั้งแอร์ เป็นสิ่งสำคัญที่แม้ว่าจะไม่ได้ส่งผลกับการทำความเย็นในห้อง แต่ส่งผลต่อการใช้งานในระยะยาว เพราะการติดตั้งแอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานนี้ เป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาแอร์น้ำหยด ท่อน้ำทิ้งแอร์ตัน แอร์เสียงดัง และปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ ซึ่งนอกจากปัญหาเหล่านี้จะสร้างความรำคาญใจให้กับผู้ใช้งานแล้ว ยังอาจส่งผลให้อายุการใช้งานของแอร์สั้นลงได้อีกด้วย ดังนั้น จึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกช่างที่มาติดตั้งแอร์ทุกครั้ง
สำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลาไปหาช่างมาติดแอร์ด้วยตัวเองให้วุ่นวาย ที่ Global House ก็มีบริการติดตั้งแอร์จากช่างดี (Chang D) ให้คุณเลือกใช้บริการด้วยนะ! ไม่ว่าคุณจะเลือกซื้อแอร์ขนาด BTU เท่าไหร่ ช่างฝีมือดีที่มีความเชี่ยวชาญด้านการติดตั้งเครื่องปรับอากาศของเรา ก็พร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ พร้อมมั่นใจในการติดตั้งด้วยรับประกันหลังงานติดตั้งนานถึง 180 วัน อีกทั้งยังมีบริการเดินทางไปบ้านลูกค้าฟรี อุปกรณ์ติดตั้งมาตรฐานในระยะทาง 30 กิโลเมตรแรกอีกด้วย
ได้ทราบตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดแอร์ห้องนอน และสิ่งที่ควรระวังกันไปแล้ว ในส่วนนี้เราจะขอพาคุณมาทำความรู้จักกับ BTU แอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามักจะได้ยินกันเป็นประจำเมื่อไปเลือกซื้อแอร์ แต่ยังไม่เข้าใจความหมายหรือความสำคัญของ BTU แอร์เท่าไหร่นัก เพื่อให้คุณได้มีข้อมูลไปใช้ในการเลือกซื้อแอร์ในครั้งต่อๆ ไปได้มากขึ้น นอกจากนี้เรายังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ BTU แอร์ที่เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ห้องนอนมาแนะนำเป็นแนวทางในการเลือกซื้อให้คุณด้วย ใครกำลังจะซื้อแอร์มาติดตั้งในห้องนอน ต้องอ่าน!
BTU หรือ British Thermal Unit เป็นหน่วยวัดค่าพลังงานความร้อนตามมาตรฐานสากล แต่เมื่อนำมาใช้กับเครื่องปรับอากาศจะหมายถึง ความสามารถในการทำความเย็น และถ่ายเทความร้อนออกจากห้องภายในเวลา 1 ชั่วโมง โดยความร้อน 1 BTU จะเท่ากับปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 ปอนด์ มีอุณหภูมิเพิ่มหรือลดลง 1 ฟาเรนไฮต์
ยิ่งตัวเลข BTU มีค่ามาก ก็แสดงว่าแอร์เครื่องนั้นสามารถทำความเย็นได้มากนั่นเอง ดังนั้นการเลือกขนาด BTU ของแอร์มาใช้งาน จึงจำเป็นจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับขนาดห้องที่ติดตั้ง เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่า และไม่เปลืองพลังงานเกินความจำเป็น
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าพื้นที่ห้องเท่านี้ ควรเลือกขนาด BTU แอร์เท่าไหร่ คำถามที่คิดว่าหลายๆ คนน่าจะสงสัย เพราะแม้ว่าเราจะสามารถขอคำแนะนำจากช่างหรือพนักงานขายที่ประจำอยู่ในบริเวณนั้นได้ หรือสามารถคำนวณด้วยตัวเอง โดยสูตรคำนวณค่า BTU มีดังนี้
“สูตรการคำนวณค่า BTU = ความกว้าง (เมตร) x ความยาว (เมตร) x ค่าตัวแปร”
จากสูตรข้างต้นจะเห็นได้ว่า นอกจากจะต้องนำขนาดพื้นที่ห้องไปใช้ในการคำนวณเพื่อหา BTU แอร์ที่เหมาะสมแล้ว ยังมีค่าตัวแปรอื่นๆ ที่นำมาใช้ในการคำนวณเพื่อเลือก BTU แอร์ที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน เช่น ระดับความร้อนที่ได้รับจากภายนอก จำนวนคนที่อาศัยอยู่ในห้อง ความถี่ในการเข้า-ออก ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในห้อง เป็นต้น โดยค่าตัวแปรที่นิยมนำมาใช้ในการคำนวณ BTU สำหรับการติดแอร์ห้องนอน จะอยู่ที่ประมาณ 800 - 900
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า นอกจากขนาดพื้นที่จะเป็นสิ่งสำคัญที่นำมาใช้ในการคำนวณเพื่อหา BTU แอร์ที่เหมาะสมแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องนำมาพิจารณาในการเลือก BTU แอร์ด้วยเช่นกัน ดังนี้
1. ขนาดและจำนวนของหน้าต่างภายในห้อง
2. ทิศทางของแสงแดดและตำแหน่งของห้อง
3. ความสูงของฝ้าเพดาน และการติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนหลังคา
4. จำนวนคนที่อาศัยหรือใช้งานอยู่ภายในห้อง
5. จำนวนและประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการปล่อยความร้อนออกมาก เช่น ไมโครเวฟ ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
6. ความถี่ในการเปิด-ปิดประตู
สำหรับคนที่ไม่อยากคำนวณ BTU แอร์ ด้วยตัวเองให้วุ่นวาย ก็สามารถนำตารางขนาด BTU แอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้องแต่ละประเภทไปใช้ในการเลือกซื้อแอร์มาใช้งานได้เลย
จากข้อมูลทั้งหมดที่ Global House รวบรวมมาให้ คงจะทำให้หลายๆ คนได้รู้กันแล้วว่า ติดแอร์ห้องนอนในตำแหน่งในเหมาะที่สุด และมีวิธีเลือก BTU อย่างไรให้เหมาะกับ ในส่วนนี้เราจึงขอมาแนะนำเกร็ดความรู้เล็กๆ เกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาฝุ่นละอองในห้องนอน ซึ่งเป็นปัญหาที่เชื่อว่าทุกๆ บ้านจะต้องพบเจออย่างแน่นอน
เครื่องกรองอากาศ หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า เครื่องฟอกอากาศ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมในอากาศ เช่น ฝุ่น แบคทีเรีย เชื้อโรค รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องนอนได้เป็นอย่างดี โดยเจ้าเครื่องกรองอากาศนี้ จะทำการดูดอากาศเข้าไป แล้วดักจับสิ่งแปลกปลอมด้วยแผ่นกรอง หรือฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นด้วยระบบอื่นๆ ที่ติดมากับเครื่อง จากนั้นจะปล่อยอากาศที่บริสุทธิ์มากขึ้นออกมา ซึ่งนับว่าเป็นเครื่องที่เหมาะกับบ้านที่มีเด็กเล็ก คนที่เป็นภูมิแพ้ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเป็นอย่างมาก
แอร์ที่มีฟังก์ชันกรองอากาศ หรือที่เรียกกันว่า แอร์ฟอกอากาศ จะมีรูปแบบการทำงานที่คล้ายคลึงกับเครื่องกรองอากาศ คือ ดูดอากาศเข้ามา และกรองสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ด้วยแผ่นกรอง แล้วจึงปล่อยอากาศที่บริสุทธิ์มากขึ้นออกมาพร้อมกับลมเย็น
แม้ว่าคุณจะทำความสะอาดห้องนอนด้วยการกวาดฝุ่นเป็นประจำ แต่รู้หรือไม่ว่า ไม้กวาดที่นำมาใช้ในการทำความสะอาดห้องนี่แหละ ที่อาจเป็นตัวการให้ห้องของคุณมีฝุ่นละอองมากขึ้น ดังนั้น นอกจากการกวาดห้องแล้ว ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการดูดฝุ่นห้องนอนเพิ่มเติมด้วย
สำหรับคุณพ่อบ้านแม่บ้านที่กังวลว่า เครื่องดูดฝุ่นจะไม่สามารถเข้าถึงซอกมุมต่างๆ ได้ แนะนำว่าให้ใช้ไม้กวาด กวาดเอาฝุ่นที่อยู่ตามซอกต่างๆ ออกมากองไว้ที่เดียวกันก่อน แล้วจึงใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดซ้ำอีกครั้ง แม้ว่าจะเหมือนการเพิ่มงาน แต่เพื่อสุขภาพที่ดีก็ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อย
นอกจากต้นไม้จะช่วยให้ร่มเงา และความร่มรื่นกับบ้านของเราได้แล้ว ต้นไม้ยังเป็นเหมือนเครื่องอากาศแบบธรรมชาติ ที่ช่วยกรองฝุ่นละออง ควันรถ และฝุ่น PM 2.5 ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ถ้าบ้านของคุณยังไม่มีพื้นที่สวนรอบๆบ้าน และกำลังเจอปัญหาฝุ่นละอองในห้องนอนอยู่ล่ะก็ แนะนำว่าให้ลองปลูกต้นไม้รอบๆบ้าน หรือหากไม่มีพื้นที่มากพอก็สามารถเลือกต้นไม้ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากไปตั้งไว้ในห้องนอน หรือมุมต่างๆ ในบ้านก็ได้เช่นกัน
จากข้อมูลทั้งหมดนี้ Global House รวบรวมมาแบ่งปันในบทความนี้ คงจะทำให้คนที่กำลังแผนจะติดแอร์ห้องนอนได้ข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการเลือกตำแหน่ง และขนาด BTU แอร์ที่เหมาะสมกันได้แล้วอย่างแน่นอน สำหรับคนที่กำลังจะซื้อเครื่องปรับอากาศไปใช้งาน รวมถึงเครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ก็สามารถเข้ามาเลือกซื้อที่ Global House ได้เลย
เพราะเราคือศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้าน ชั้นนำในประเทศไทย และคุ้มค่าไปอีกขั้นแค่ สมัครสมาชิกโกลบอลคลับ ฟรี พร้อมรับสิทธิพิเศษ สำหรับ สมาชิกโกลบอลคลับ เพียงช้อปครบ 50 บาท รับ 1 คะแนน สะสมโกลบอลคลับสะสมคะแนน เพื่อแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
• Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์
• Line@: @globalhouse
• App Click&Collect
บริการช่างดี
• App ช่างดี
• Facebook: ChangDeeService
• Line Official: @Changdee
เนื้อหาที่คล้ายกัน