"เครื่องอบผ้า" นับว่าเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาที่เร่งรีบ หรือในช่วงเวลาที่ฝนตก โดยเครื่องอบผ้าจะช่วยทำให้ผ้าแห้งไว และทันใช้งาน เครื่องอบผ้าจึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ ที่หลายคนเลือกใช้งาน นอกจากนี้เครื่องอบผ้ายังมีให้เลือกหลากหลายประเภทอีกด้วย เครื่องอบผ้ามีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร
วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ จะพาคุณมาทำความรู้จักเครื่องอบผ้าให้มากยิ่งขึ้น พร้อมแนะนำวิธีในการเลือกซื้อเครื่องอบผ้า ที่จะช่วยให้คุณได้เครื่องอบผ้าที่ตอบโจทย์การใช้งาน และคุ้มค่าที่สุด อย่ารอช้าไปอ่านบทความนี้กันเลย
มาทำความรู้จักเครื่องอบผ้าคืออะไร?

เครื่องอบผ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับอบเพื่อให้ผ้าแห้งสนิท ซึ่งไม่เหมือนการปั่นหมาดของเครื่องซักผ้า ที่เมื่อปั่นเสร็จจะต้องนำผ้าไปตาก แต่เครื่องอบผ้าจะใช้ความร้อนในการทำให้ผ้าแห้งสนิท เหมือนกับเวลาที่คุณนำผ้าไปตากแดด ซึ่งเครื่องอบผ้าจะใช้เวลาในการทำให้ผ้าแห้งเร็วกว่า และไม่ทำให้เกิดกลิ่นอับในผ้า
นอกจากนั้นเครื่องอบผ้ายังสามารถปรับอุณหภูมิได้อีกด้วย ทำให้ใช้งานได้สะดวก และทำให้ได้ผ้าที่แห้งไว รวดเร็วทันใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในเวลาที่เร่งรีบ
ประโยชน์ของเครื่องอบผ้า

- ช่วยให้ผ้าแห้งไว เนื่องจากเครื่องอบผ้าสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ทำให้ใช้เวลาในการอบไม่นานมาก โดยใช้เวลาในการอบให้ผ้าให้แห้งประมาณ 25 - 40 นาที และยังทำให้ผ้าแห้งสนิทพร้อมใช้งานอีกด้วย ใครที่ต้องการใช้เสื้อผ้าแบบเร่งด่วน หรือมีเสื้อผ้าที่แห้งไม่ทันใช้งาน เครื่องอบผ้าสามารถช่วยคุณได้
- ช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เครื่องอบผ้าสามารถอบผ้าได้แห้งสนิท ทำให้หมดกังวลว่าผ้าจะอับชื้น และส่งกลิ่นออกมา โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่มีแสดงแดดไม่เพียงพอ หากคุณเปลี่ยนมาใช้เครื่องอบผ้าแทน ปัญหาเรื่องกลิ่นก็จะหมดไป
- สามารถใช้อบผ้าชิ้นใหญ่ๆ ได้ ในช่วงหน้าฝน หลายคนคงไม่อยากจะซักผ้าชิ้นใหญ่ๆ อย่างเครื่องนอน หรือผ้านวม เพราะว่าเป็นสิ่งที่แห้งช้า ใช้เวลาในการตากนาน แต่หากถ้าใช้เครื่องอบผ้าก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น เพราะเครื่องอบผ้ามักจะมีขนาดใหญ่ และสามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับประเภทต่างๆของผ้าได้ ทำให้แม้จะเป็นผ้าชิ้นใหญ่ๆ ก็สามารถแห้งได้ง่าย
- ถนอมเนื้อผ้า และสีของผ้าได้มากกว่า หากเอาผ้าไปตากแดด ผ้าอาจมีการเปลี่ยนสี หรือทำให้ผ้ามีสีซีด อีกทั้งผ้าบางชนิดก็ไม่เหมาะกับการโดนแดดโดยตรง ดังนั้นหากไม่อยากให้สีของผ้าซีดจางลง ขอแนะนำให้ใช้เครื่องอบผ้าจะดีกว่า นอกจากนี้ยังช่วยถนอมผ้า ทำให้เนื้อผ้าเป็นทรงและนุ่มกว่าการนำไปตากแดด เพราะการอบทำให้เพิ่มความนุ่มฟู และผ้าไม่แข็งกระด้าง
- เหมาะสำหรับคนที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ อย่างเช่น คนที่อาศัยอยู่คอนโด หรือหอพัก ที่มีพื้นที่ในการตากผ้าน้อย หากใช้เครื่องอบผ้า ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการตากผ้า เพราะเมื่ออบผ้าเสร็จก็สามารถพับเก็บ หรือใช้งานได้เลย สะดวกสบายมากๆ
- สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ ความร้อนของเครื่องอบผ้าสามารถฆ่าเชื้อโรคส่วนใหญ่ได้ การอบผ้า หลังจากซักเสร็จแล้ว ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ยาก อาจจะไม่ได้ฆ่าเชื้อ100% แต่จะช่วยให้ลดการสะสมเชื้อโรค และกำจัดสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กได้
เครื่องอบผ้ามีกี่แบบ?
เครื่องอบผ้าในปัจจุบันมีหลายประเภทให้ได้เลือกใช้ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
1. เครื่องอบผ้าแบบท่อลมร้อน (Vented Dryer)

เป็นเครื่องอบผ้าที่จะใช้ท่อลมร้อนในการให้ความร้อนสำหรับเป่าเสื้อผ้า โดยเครื่องอบผ้าจะมีการต่อท่อลมร้อนออกไปด้านนอกอาคาร รวมถึงท่อไอน้ำ เพื่อเป็นการระบายอากาศภายใน โดยต้องทำการเจาะผนัง เพื่อต่อท่อออกไป ดังนั้นเครื่องอบผ้ารูปแบบนี้ จึงเหมาะสำหรับบ้านที่สามารถเจาะผนัง และต่อท่อออกไปด้านนอกอาคารได้ หากเป็นหอพัก หรือคอนโดอาจจะไม่เหมาะสมมากนัก
ข้อดีของเครื่องอบผ้ารูปแบบนี้คือ จะทำให้ผ้าแห้งได้ไว มีราคาถูก ดูแลทำความสะอาดได้ง่าย อีกทั้งยังใช้ความร้อนสูงในการอบผ้า ส่วนข้อเสียคือ การอบผ้ารูปแบบนี้อาจไม่เหมาะกับผ้าบางชนิด และในเครื่องอบผ้าบางรุ่นจะมีเสียงดังเวลาที่ทำงาน
2. เครื่องอบผ้าแบบควบแน่น (Condenser Dryer)

เครื่องอบผ้า แบบควบแน่น หรือ แบบ Condenser Dryer เป็นเครื่องอบผ้าที่ติดตั้งง่าย และเป็นที่นิยมมากที่สุด โดยการทำงานจะคล้ายกับเครื่องอบผ้าแบบท่อลมร้อน ที่จะใช้ท่อลมร้อนในการทำให้เสื้อผ้าแห้ง เพียงแต่จะแตกต่างกันตรงที่ เครื่องอบผ้าแบบควบแน่น จะอาศัยการควบแน่นของความชื้นในระหว่างอบเสื้อผ้า ที่จะควบแน่นกันจนเป็นน้ำซึ่งอยู่ในที่ภาชนะที่เก็บน้ำ และเมื่อเครื่องอบผ้าทำงานเสร็จก็เพียงทำการถอดภาชนะที่เก็บน้ำออกเพื่อนำน้ำไปเททิ้ง
ข้อดีของเครื่องอบผ้ารูปแบบนี้ เหมาะสำหรับใครที่ไม่สามารถเจาะผนัง เพื่อระบายความร้อนออกนอกอาคารได้ หรือใครที่มีพื้นที่น้อยในการวางเครื่องอบผ้า ตัวเครื่องมีระบบการทำงานที่เงียบ สามารถใช้งาน และติดตั้งได้ง่ายกว่าแบบท่อลมร้อน แต่เครื่องอบผ้ารูปแบบนี้จะมีข้อเสียตรงที่ จะทำให้ได้ผ้าที่แห้งไม่สนิทมากนัก คงเหลือความชื้นอยู่เล็กน้อย อีกทั้งยังต้องคอยเอาน้ำที่อยู่ในภาชนะที่เก็บน้ำไปเททิ้งอยู่เสมอ
3. เครื่องอบผ้าแบบปั๊มความร้อน (Heat Pump Dryer)

เป็นเครื่องอบผ้าที่จะมีลักษณะการทำงานคล้ายกับเครื่องอบผ้าแบบควบแน่น ที่ไม่ต้องมีการต่อท่อเพื่อระบายความร้อน เพียงแต่จะแตกต่างกันตรงที่ ใช้ลมร้อนดึงความชื้นออกจากเสื้อผ้า ซึ่งจะอาศัยการแลกเปลี่ยนอากาศจากภายนอกเข้ามา เพื่อทำให้อากาศภายในร้อนขึ้นจนเกิดการควบแน่นเป็นไอน้ำ (อากาศภายในจะเป็นแบบหมุนเวียน ในลักษณะของระบบปิด) และจะมีภาชนะในการเก็บน้ำเหมือนกับเครื่องอบผ้าแบบควบแน่น
เครื่องอบผ้ารูปแบบนี้มีข้อดีในเรื่องการประหยัดพลังงานที่มากกว่า การทำงานเงียบ อีกทั้งยังช่วยในการถนอมผ้าได้มากกว่า เพราะเป็นเทคโนโลยีปั๊มความร้อน ช่วยลดแรงดันจากความร้อนบนเนื้อผ้า โดยการอบแห้งที่อุณหภูมิต่ำกว่ารูปแบบอื่นๆ เลยทำให้เนื้อผ้าไม่เสียหาย แต่ก็มีข้อเสียตรงที่การดูแลรักษาค่อนข้างยาก และมีราคาที่สูงกว่าเครื่องอบผ้ารูปแบบอื่นๆ อีกด้วย
4. เครื่องอบผ้าแบบพกพา (Portable Venting)

มาถึงเครื่องอบผ้ารูปแบบสุดท้าย เป็นเครื่องอบผ้าที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย และมีขนาดไม่ใหญ่มาก โดยจะมีลักษณะเป็นถุงกระโจม เวลาจะใช้งานจะต่อท่อจากตัวเครื่องเข้าไปในกระโจม เพื่ออบผ้า แต่เครื่องอบผ้ารูปแบบนี้จะไม่สามารถทำความร้อนได้มากเท่าเครื่องอบผ้ารูปแบบอื่นๆ แต่ก็สามารถช่วยอบผ้าได้ และเหมาะแก่การพกพาและการจัดเก็บ
- BENKA รุ่นDFSG-01 เครื่องอบผ้าพกพาขนาด 35 x 50 x 150 ซม. สีเขียว เป็นรุ่นที่สามารถพับได้ทำให้ง่ายต่อการพกพาและการจัดเก็บ ระบบลมร้อนในการอบผ้าภายในทำงานได้หลายระดับ และหมุนได้ 360 องศา สามารถทำความร้อนได้ดี สามารถตั้งเวลาได้หลายระดับ สูงสุด 180 นาที และมีเสียงรบกวนน้อย
- SAKU รุ่นCL-801 เครื่องอบผ้าพกพาสีส้ม เป็นรุ่นที่พัดลมในการทำความร้อนมีความเร็วสูง และสามารถปล่อยลมร้อนได้ถึง 360 องศา ตัวถุงกระโจมทำความร้อน ทำจากวัสดุที่เก็บความร้อนได้ดี ประหยัดพลังงาน รักษาเนื้อผ้า และสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย
วิธีใช้เครื่องอบผ้าที่ถูกต้อง
- เมื่อรู้ถึงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องอบผ้ากันแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่า เครื่องอบผ้าใช้ยังไง มีวิธีใช้เครื่องอบผ้าอย่างไรให้ช่วยถนอมเสื้อผ้าได้อย่างเหมาะสมที่สุด
- อบผ้าในปริมาณที่เหมาะสม กำหนดปริมาณผ้าให้เหมาะกับขนาดจุของเครื่องอบผ้า เพื่อให้การอบแห้งมีประสิทธิภาพและทั่วถึง หากอัดจำนวนผ้ามากเกินไปอาจทำให้ผ้าไม่แห้ง แถมยังอายุการทำงานของเครื่องสั้นลงอีกด้วย
- เลือกโปรแกรมอบผ้าให้เหมาะกับเสื้อผ้า เครื่องอบผ้าทุกแบรนด์จะมีการจัดโปรแกรมการอบผ้าให้เหมาะต่อความต้องการ เช่น โปรแกรมอบทั่วไป โปรแกรมอบแห้งพับใส่ตู้ โปรแกรมอบชุดกีฬา โปรแกรมรีดง่าย และโปรแกรมอบผ้าขนสัตว์ หากตั้งโปรแกรมถูกต้องและรู้ว่าควรใช้เวลาอบผ้ากี่นาทีก็จะช่วยถนอมเส้นใยผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ห้ามใส่ผ้าที่เปียกชุ่มในเครื่องอบผ้า ควรใส่ผ้าที่ผ่านการปั่นหมาดมาแล้วเท่านั้น เพราะการใส่ผ้าเปียกลงไปจะทำให้เครื่องทำงานหนักเกินความจำเป็น หากไม่มีเครื่องซักผ้าที่ปั่นแห้งได้ ก็ควรบิดผ้าเอาน้ำออกให้ได้มากที่สุด
- กลับด้านเสื้อผ้าก่อนอบ ช่วยถนอมสีของเสื้อผ้าและป้องกันไม่ให้กระดุมหลุด และขอแนะนำให้สะบัดผ้าก่อนอบเพื่อขจัดเศษผงต่างๆ เพื่อไม่ให้ติดเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ
- เช็กเหรียญและสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง เพราะสิ่งเหล่านี้มีความแข็งอาจทำให้ถังอบเสียหายได้ มากกว่านั้นหากเป็นปากกา อาจทำให้หมึกจากปากกาเลอะเทอะติดเสื้อผ้าทั้งถังได้เลยทีเดียว
- ผ้าที่ห้ามใช้กับเครื่องอบผ้า ได้แก่ ผ้าคอตตอน ผ้าสแปนเด็กซ์ เสื้อผ้าที่มียางยืด ผ้าไหม ผ้าเรยอน ผ้าขนสัตว์ ผ้าลูกไม้ เสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยลูกปัดหรือเลื่อม เสื้อถักไหมพรม ถุงเท้าที่มียางกันลื่น เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำมัน และเครื่องหนัง
วิธีเลือกซื้อเครื่องอบผ้า เลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งาน

เมื่อรู้จักประเภทของเครื่องอบผ้าแบบต่างๆ กันไปแล้ว คุณยังจำเป็นจะต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- ฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์กับความต้องการ เครื่องอบผ้าแบบไหนที่คุณต้องการ เช่น ต้องการอบผ้าให้แห้งได้ไวๆ หรือต้องการเครื่องอบผ้าที่ถนอมเนื้อผ้า ก็จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกเครื่องอบผ้าได้ง่ายขึ้น และทำการเลือกฟังก์ชันการใช้งานที่คุณต้องการ เช่น เครื่องอบผ้าที่มีฟังก์ชันการทำงานที่เงียบประหยัดพลังงาน ก็จะช่วยตัดตัวเลือกให้น้อยลงได้
- เครื่องอบผ้ามีขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยคำนึงถึงจำนวนสมาชิก หรือปริมาณผ้าที่ซัก ควรจะใช้เครื่องอบผ้าความจุขนาดเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม นอกจากนั้นยังต้องคำนึงถึงขนาดพื้นที่ในการติดตั้งด้วยว่าสามารถติดตั้งได้หรือไม่
- หากมีสมาชิกในบ้านประมาณ 2 - 5 คน ควรเลือกเครื่องอบผ้าความจุประมาณ 7 - 8 Kg และบ้านที่มีสมาชิกประมาณ 5 - 10 คน แนะนำให้เลือกเครื่องอบผ้าขนาด 9 Kg ส่วนใครที่เป็นครอบครัวใหญ่ ที่มีสมาชิก 10 คนขึ้นไป แนะนำให้เลือกเครื่องอบผ้าแบบ 10 Kg ขึ้นไป ก็จะสามารถอบผ้าได้เพียงพอต่อจำนวนสมาชิก
- การตั้งงบประมาณในการซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งาน การตั้งงบประมาณในการซื้อ ไม่ใช่เลือกเครื่องอบผ้าที่ถูกที่สุด แต่ต้องคำนึงถึงการใช้งานด้วย เช่น หากต้องการใช้งานในระยะยาวควรเลือกซื้อเครื่องอบผ้าที่มีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย แต่อยู่ในงบประมาณที่คุณกำหนดไว้
- มีบริการหลังการขาย และการรับประกันสินค้า นอกจากนั้นยังควรคำนึงถึงบริการเสริมในการซื้อเครื่องอบผ้า เช่น บริการติดตั้ง หรือบริการล้างทำความสะอาดเครื่องอบผ้า ซึ่งจะเป็นบริการหลังการขายที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่คุณ นอกจากนั้นที่สำคัญที่สุด คือต้องตรวจสอบว่าเครื่องอบผ้ามีการรับประกันหรือไม่ มีการรับประกันกี่ปี หรือมีการรับประกันในส่วนไหนบ้าง
ซึ่งเครื่องอบผ้าที่ดี ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน และเหมาะสมกับปัจจัยอื่นๆ โดยเฉพาะการเลือกเครื่องอบผ้าที่มีการรับประกันสินค้า เพราะจะหมายความถึงคุณภาพของสินค้าที่คุณนำมาใช้งาน เพื่อป้องกันอันตราย และทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น ควรเลือกเครื่องอบผ้าที่ดีมีคุณภาพคุ้มราคาอย่าง เครื่องอบผ้าที่โกลบอลเฮ้าส์ ซึ่งมีให้คุณได้เลือกหลากหลายประเภท หลากหลายดีไซน์
เป็นอย่างไรกันบ้างพอจะมีเครื่องอบผ้าในใจกันบ้างหรือยัง เครื่องอบผ้าแต่ละชนิดก็จะมีการทำงานไม่เหมือนกัน อีกทั้งแต่ละแบบก็มีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การเลือกเครื่องอบผ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ ก็จะทำให้เครื่องอบผ้าที่คุณซื้อไปคุ้มค่ามากที่สุด ที่สำคัญต้องเลือกเครื่องอบผ้าที่ดี และมีคุณภาพ
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องอบผ้า โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้
เครื่องอบผ้า นับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณในช่วงหน้าฝนเลยก็ว่าได้ ซึ่งที่โกลบอลเฮ้าส์ มีเครื่องอบผ้า หลากหลายประเภท จากหลากหลายแบรนด์ดังคุณภาพ โดยคุณสามารถเข้าไปเลือกดูสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ Global House และถ้าใครอยากสัมผัส กับสินค้าจริง ก็สามารถไปที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยจะมีพนักงานคอยแนะนำสินค้า พร้อมให้บริการตอบคำถามทุกข้อสงสัย
นอกจากนั้นยังมี บริการติดตั้ง และบริการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ และถ้าใครที่ไม่อยากออกมาช้อปเอง ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้ง่ายๆ แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชันสุดคุ้ม และ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากสินค้านี้แล้ว โกลบอลเฮ้าส์ ก็ยังมีสินค้าเกี่ยวกับบ้านอีกมากมายที่ขนมาให้คุณได้เลือกแบบครบครัน!
Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว
เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
บริการช่างดี