img


วิธีเลือกสีผ้าม่านเข้ากับสีห้องอย่างไร ให้ลงตัวเป๊ะปังแแน่นอน!!

อยากเลือกผ้าม่านได้สวย ลงตัวกับสไตล์ของห้อง ห้ามพลาดบทความนี้!!! การคุมโทนสีห้องให้ออกมาน่าอยู่ นอกจากสีของผนังห้อง และสีของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆแล้ว การเลือกสีผ้าม่านให้เข้ากับสีห้อง ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การตกแต่งและบรรยากาศภายในห้องเข้ากันได้ดี และมีความสมดุล ผ้าม่านจึงนับได้ว่าเป็นไอเทมอีกหนึ่งชิ้นที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงกลางวันที่แสงส่องเข้ามาในห้องแรงๆ จนทำให้แสบตาและทำให้ห้องร้อนอบอ้าว

โดยผ้าม่านจะช่วยกรองแสงและช่วยบังแดดที่ส่องเข้ามาภายในห้องได้ ผ้าม่านสามารถช่วยในเรื่องของการตกแต่งห้องให้ดูมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นผ้าม่านยังสามารถช่วยเปลี่ยน mood & tone ของห้อง และยังสามารถบ่งบอกความเป็นคุณผ่านสีของผ้าม่านได้อีกด้วย

ใครที่อยากตกแต่งห้องด้วยผ้าม่าน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกสี และแบบอย่างไรดี วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ จะมาแนะนำวิธีการเลือกสีผ้าม่าน ที่จะช่วยปรับบรรยากาศภายในห้องให้น่าอยู่ และเข้ากับห้องมากยิ่งขึ้น!!!


รูปแบบของม่าน


  • ม่านจีบ เป็นม่านที่มีลักษณะของผ้าที่จับจีบ 3 จีบที่ด้านบน มักจะนำไปใช้ร่วมกับราง 2 ชั้น ใช้งานง่าย ทำให้ผ้าม่านชนิดนี้เป็นที่นิยมกันมาก สามารถนำไปใช้ตกแต่งได้หลายห้อง เป็นผ้าม่านที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย และมีความคลาสสิค
  • ม่านตาไก่ ม่านรูปแบบนี้บริเวณด้านบนจะมีการเจาะรู เพื่อใช้ในการสอดม่านเข้าไปในรางม่าน เป็นม่านที่ให้ความรู้สึกทันสมัย และคลาสสิคไปพร้อมๆ กัน ขึ้นอยู่กับว่าจะตกแต่งห้องในสไตล์ไหน
  • ม่านลอน ม่านแบบนี้จะมีความคล้ายคลึงกับม่านตาไก่ แต่จะไม่มีห่วงที่ด้านบน เป็นม่านที่จะใส่เข้ากับรางม่านแล้วใช้วิธีรูด ใครที่ชอบความเรียบง่าย หรือสไตล์มินิมอล ม่านรูปแบบนี้อาจจะตอบโจทย์
  • ม่านหูกระเช้า เป็นม่านที่ด้านบนจะทำเป็นห่วง ที่ใช้ในการยึดตัวม่านเข้ากับร่างม่าน เป็นผ้าม่านที่มีดีไซน์เก๋ ทำให้ห้องดูสบายๆ ใครที่อยากเพิ่มดีเทลให้กับห้อง ม่านรูปแบบนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดี
  • ม่านม้วน ม่านรูปแบบนี้ถือว่าเป็นม่านที่นิยมใช้กันแดด และนิยมใช้งานอย่างมากตามออฟฟิศ หรือคอนโด เนื่องจากเป็นม่านที่ใช้งานได้ง่าย โดยจะใช้รอกในการดึงม่านขึ้นลง แถมยังไม่ดักจับฝุ่นเหมือนม่านชนิดอื่น เป็นม่านที่ทำให้ห้องดูทันสมัยและโมเดิร์น
  • ม่านพับ เป็นม่านที่มีลักษณะพับซ้อนขึ้นไป เรียงกันเป็นชั้นๆ คล้ายกับม่านม้วนแต่จะต่างกันที่ม่านพับจะเป็นลักษณะพับซ้อนกันเป็นชั้นๆ เวลาใช้งานก็แค่ดึงรอกลงมา เป็นม่านที่นิยมใช้กับประตู และหน้าต่าง ให้ความรู้สึกที่โมเดิร์น ดูสมัยใหม่
  • ม่านมู่ลี่ เป็นอีกหนึ่งม่านที่นิยมใช้งานตามออฟฟิศ และคอนโด มีลักษณะเป็นม่านแผ่นๆ ที่จะวางเรียงกันเป็นชั้นๆ เวลาใช้งานแผ่นม่านจะพับซ้อนกันสำหรับใช้บังแดด เป็นม่านที่ไม่ได้ทำมาจากผ้าเหมือนม่านชนิดอื่น อาจจะทำจากพลาสติก PVC หรือเป็นมู่ลี่ที่ทำจากไม้ก็ได้ เป็นม่านที่ใช้งานได้ง่าย และไม่ดักจับฝุ่นละอองเหมือนม่านที่ทำจากผ้า เป็นม่านอีกรูปแบบที่ให้ความทันสมัย และเรียบง่าย


วิธีในการเลือก สีผ้าม่านเข้ากับสีห้อง

แม้ว่าผ้าม่านจะมีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย แต่ผ้าม่านที่นิยมนำมาใช้แต่งห้อง มักจะเป็นผ้าม่านขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าเลือกสีของผ้าม่านไม่เหมาะสมก็อาจจะทำให้โทนสีของห้องนั้นดูขัดตา ไม่น่าอยู่ได้ แต่ถ้าเลือกสีของผ้าม่านที่เหมาะสม ก็จะช่วยทำให้ห้องดูสดใสน่าอยู่ และยังช่วยในการกระตุ้นเพิ่มความแอคทีฟในแต่ละวันได้อีกด้วย

การตกแต่งห้องให้น่าอยู่ จะทำให้ผู้อยู่รู้สึกมีความสุข และผ่อนคลาย แต่การจะเลือกผ้าม่านให้เข้ากับห้องไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะต้องดูองค์ประกอบต่างๆ ของห้องเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น


1. ประเภทของห้องที่จะนำผ้าม่านไปติด


  • ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก เป็นห้องที่เป็นหน้าเป็นตาของบ้าน อีกทั้งยังเป็นห้องที่คุณมักจะใช้เวลาอยู่มากที่สุด ม่านสำหรับห้องนี้สามารถเลือกได้หลากหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่จะเลือกม่านที่ใช้งานง่าย และมีความสวยงาม นอกจากนั้นจะต้องเป็นม่านที่สามารถกันแดดได้ดีในช่วงเวลากลางวันเพื่อไม่ให้ห้องร้อนอบอ้าว


ส่วนใหญ่นิยมเลือกม่านที่มี 2 ชั้น อย่างม่านจีบ หรือม่านลอน เนื่องจากเป็นห้องที่สมาชิกในบ้านส่วนใหญ่จะมาอยู่รวมกัน ดังนั้นในการเลือกสีของผ้าม่านจึงควรเลือกผ้าม่านโทนสีอ่อน หรือสีสว่าง เพื่อจะทำให้ห้องดูปลอดโปร่ง และกว้างขึ้น เช่น ม่านสีฟ้า สีเขียว ส่วนม่านรองอาจจะเลือกแบบโปร่งแสง เพื่อไม่ให้ห้องมืดจนเกินไป แต่ถ้าใครอยากได้ห้องที่ดูทันสมัย ก็อาจจะเลือกม่านแบบตาไก่ สำหรับมาติดเป็น ผ้าม่านประตู หรือ ผ้าม่านหน้าต่าง โดยอาจจะเลือกสีที่เข้มขึ้น เพื่อให้โทนสีของห้องดูเรียบ และสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ


  • ห้องนอน หากจะพูดถึงห้องที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกสงบก็คงหนีไม่พ้นห้องนอน การเลือกม่านสำหรับห้องนอน ควรจะเลือกม่านที่ทึบแสง หรือ ม่าน 2 ชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้แสงเล็ดลอดเข้ามา ให้คุณได้นอนหลับและพักผ่อนอย่างเต็มที่ แถมยังช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดด ทำให้ภายในห้องคุณไม่รู้สึกร้อนจนเกินไป สำหรับสีของผ้าม่านควรจะเลือกเป็นสีเข้มๆ เช่น สีน้ำตาล สีดำ สีน้ำเงิน


ส่วนใครที่ไม่อยากได้ห้องนอนทึบจนเกินไปอาจจะเลือกเป็นผ้าม่านสีสว่างอย่าง สีขาว สีครีม แต่ถ้าใครกลัวห้องจะร้อนก็อาจจะเลือกเป็นม่าน 2 ชั้นก็ได้ หากมีแสดงแดดส่องเข้ามาไม่มากก็ให้เก็บผ้าม่านหลัก ก็แล้วใช้แค่ม่านรองด้านในกันแดด หรือใครที่อยากได้ห้องนอนสไตล์เกาหลี ก็อาจจะใช้ ม่านพับทึบแสง แทนโดยเปิดม่านเล็กๆ ให้แสงส่องเข้ามาในตอนเช้า ก็จะช่วยทำให้คุณตื่นมาสดชื่น และทำให้ห้องดูปลอดโปร่งขึ้นอีกด้วย


  • ห้องรับประทานอาหาร ห้องนี้นับว่าเป็นห้องที่คุณจะใช้งานก็ต่อเมื่อถึงเวลาทานอาหาร เป็นห้องที่มีการสะสมของกลิ่นอาหารหลากหลายชนิด ถ้ามีการติดม่านในห้องนี้ควรจะเลือกม่านที่ไม่ได้ทำจากผ้าอย่าง ม่านมู่ลี่ เพื่อไม่ให้กลิ่นอาหารติดไปที่ม่าน และเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน และการทำความสะอาด สีของม่านในห้องนี้ควรจะเลือกสีโทนร้อน เช่น สีน้ำตาล สีส้ม สีเหลือง เพราะจะช่วยทำให้รู้สึกเจริญอาหาร


2. ลักษณะการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นอย่างไร

แม้ผ้าม่านจะทำให้ห้องดูเปลี่ยน Mood & Tone ไปได้แต่ก็ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นๆ ภายในห้องด้วย อย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์ นับว่าเป็นของแต่งห้องที่ทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวา การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ทำให้สามารถเปลี่ยนความรู้สึกและบรรยากาศภายในห้องได้

ซึ่งคุณสามารถใช้ผ้าม่านในการทำให้เฟอร์นิเจอร์โดดเด่น และสวยขึ้นได้ การวางเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะควรจะวางบริเวณหน้าผ้าม่าน โดยให้ม่านเป็นฉากหลัง ทำให้ห้องดูมีความเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้วเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งยังเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดสี และแบบของผ้าม่านได้อีกด้วย

การแต่งห้องให้ออกมาดูดี ควรจะให้องค์ประกอบภายในห้องให้เป็นโทนสีเดียวกัน ซึ่งสีของผ้าม่านคุณอาจจะเลือกโดยการดูว่าสีของเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ไปทางโทนสีไหนมากกว่ากัน เช่น เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นโทนสีน้ำตาล ผ้าม่านก็ควรจะเป็นโทนสีน้ำตาล โทนสีครีม โทนสีส้ม สำหรับใครที่ไม่อยากให้ห้องดูทึบจนเกินไป เพราะรู้สึกไม่ปลอดโปร่งก็อาจจะเลือกสีที่สว่างกว่า หรืออ่อนกว่าเฟอร์นิเจอร์ แต่ใครที่กลัวว่าห้องจะร้อนก็สามารถใช้ม่านแบบ 2 ชั้นได้


3. การเลือกสีของผ้าม่าน

สีของผ้าม่านสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง อีกทั้งยังทำให้โทนสีของห้องเปลี่ยนไปได้ สีของม่านจึงมีความสำคัญมาก หากเลือกให้มีสีเหมาะกับห้องก็จะทำให้ห้องดูน่าอยู่ นอกจากนั้นก็ยังมีปัจจัยอื่นในการเลือกสีของผ้าม่านอีกด้วย สำหรับใครที่อยากให้เฟอร์นิเจอร์ในห้องดูโดดเด่น ก็ให้ใช้ผ้าม่านโทนสีตรงข้าม

เช่น ถ้าเฟอร์นิเจอร์สีเข้มควรจะเลือกผ้าม่านสีอ่อน หรือใครที่เป็นสายคุมโทนสีห้องก็ให้เลือกสีผ้าม่านที่มีทิศทางเดียวกับสีของห้อง เช่น ถ้าห้องเป็นสีอ่อนก็ให้เลือกผ้าม่านสีอ่อนๆ หรือที่หลายๆ คนเรียกว่าสไตล์มินิมอลนั่นเอง ซึ่งสีของผ้าม่านสามารถบอกความหมาย และโทนสีในการตกแต่งห้องนั้นได้ เพียงแค่เปลี่ยนสีผ้าม่าน ก็จะทำให้ mood & tone ของห้องเปลี่ยน

  • เน้นความอบอุ่น ใครที่อยากให้ห้องดูอบอุ่น มีความคลาสสิค และดูมีความเป็นธรรมชาติ ผ้าม่านสีเอิร์ธโทนถือว่าตอบโจทย์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น สีขาว สีเทา หรือสีน้ำตาล เป็นสีที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องได้ง่าย ทำให้ห้องดูไม่ทึบจนเกินไป ส่วนใครที่ไม่ชอบโทนสีน้ำตาล ก็สามารถเลือกใช้โทนสีพาสเทลแทนได้ หากผ้าม่านหลักเป็นโทนสีอ่อน ควรเสริมด้วยม่านรองที่เป็น ม่านโปร่งแสง เพื่อทำให้ห้องไม่ดูสว่างจนเกินไป
  • สงบ เรียบง่าย สีขาว สีเทา และสีดำ ถือว่าเป็นสีของผ้าม่านที่สามารถเข้าได้กับทุกสิ่งทุกอย่าง และเป็นสีเบสิคพื้นฐาน การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับว่าอยากได้ห้องแบบทึบ หรือสว่างมากน้อยเพียงใด หากใครที่อยากได้ห้องทึบๆ สีดำตอบโจทย์ที่สุด แต่ถ้าใครที่อยากได้ห้องสว่างก็ให้เลือกสีขาว เพราะทำให้ห้องดูโล่ง ส่วนใครที่ไม่ได้เน้นโทนสีห้องเป็นพิเศษ สีเทาก็ถือว่าเป็นสีทางการที่สวย และดูดีเลยทีเดียว
  • สดใส สบายตา สำหรับใครที่อยากได้ห้องที่ดูสดใส แต่ยังคงความรู้สึกสบายตาเวลาที่มอง ผ้าม่านสีโทนเย็นอย่าง สีเขียว และสีฟ้า นับว่าเป็นอีกโทนสีที่ให้ความรู้สึกสบายๆ ใครที่เป็นสายธรรมชาติผ้าม่านสีโทนนี้ถือว่าเหมาะมาก หากใครไม่อยากให้ห้องดูเรียบจนเกินไป อาจจะเลือกผ้าม่านที่มีลวดลายเล็กๆ เช่น ลายดอกไม้ ลายจุด ลายสัตว์ตัวเล็กๆ ก็จะทำให้โทนสีของห้องดูสบายตามากยิ่งขึ้น
  • ร่าเริง และสนุกสนาน ส่วนใครที่อยากได้ห้องที่โดดเด่น มีลูกเล่น และดูสนุกสนาน ผ้าม่านสีโทนร้อนอย่าง สีแดง สีเหลือง และสีส้ม นับว่าเป็นสีที่ช่วยปลุกความมีชีวิตชีวาได้ดี สำหรับใครที่ไม่อยากให้โทนสีของห้องดูโดดไป อาจจะเลือกเป็นสีที่ไม่ใช่โทนสีสด เช่น สีแดงเลือดนก สีแดงไวน์แทนก็ได้
  • สุขุม หนักแน่น หากใครที่ไม่อยากให้โทนสีของห้องดูฉูดฉาด การเลือกผ้าม่านโทนสีเทา สีน้ำตาล หรือน้ำเงิน ก็จะทำให้ห้องดูไปในโทนสุขุม และเป็นทางการ ถ้าเป็นห้องของผู้ชายที่ใช้ม่านสีโทนนี้แล้ว สีของผนังควรจะเป็นสีขาว หรือสีครีม เพื่อทำให้ผ้าม่านดูโดดเด่นยิ่งขึ้น


เลือกสีของผ้าม่านอย่างไรให้ลงตัว?

ก่อนที่จะไปเลือกสีผ้าม่าน ควรจะเลือกรูปแบบของม่านให้เหมาะกับห้องก่อน โดยดูว่าห้องของคุณมีลักษณะเป็นอย่างไร มีพื้นที่เท่าไหร่ในการติดม่าน จากนั้นก็ต้องพิจารณาเฟอร์นิเจอร์ และองค์ประกอบภายในห้องว่ามีโทนสีไปในทิศทางไหน รวมถึงโทนสีของห้องที่คุณอยากได้ และดูว่าสีของทุกอย่างนั้นสามารถเข้ากันได้หรือไม่

ส่วนใครที่อยากจะแต่งห้องให้มีสีที่ตัดกัน เพื่อความโดดเด่นก็สามารถเลือกม่านที่สีตรงกันข้ามได้ แต่ถ้าใครอยากคุมโทนสีของห้อง การเลือกม่านให้เข้ากับสีของเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ทำตามได้ง่าย และตอบโจทย์ที่สุด หากใครที่รู้สึกเบื่อม่านเดิมๆ ก็ลองเปลี่ยนสีผ้าม่าน หรือรูปแบบของม่านดู แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนได้ห้องใหม่อีกครั้ง!!!


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับผ้าม่าน โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

สำหรับใครที่ตัดสินใจได้แล้วว่า ต้องการผ้าม่านสีไหน ถึงจะเหมาะกับห้องมากที่สุด แต่ยังไม่รู้ว่า ผ้าม่าน มีผิวสัมผัสของเนื้อผ้าเป็นอย่างไร และ รางผ้าม่าน ทำจากวัสดุที่แข็งแรงมากแค่ไหน คุณสามารถไปดูสินค้าจริงได้เลยที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม หรือจะช้อปออนไลน์ก็ง่าย สบายกระเป๋า ผ่อนก็คุ้มกับโกลบอลเฮ้าส์ ที่ให้ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด) นอกจากผ้าม่านแล้ว ทาง Global House เอง ยังให้บริการจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้านที่ดีด้วย A Better Choice for A Better Home

Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว

เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่




เนื้อหาที่คล้ายกัน