ปลั๊กไฟ หรือปลั๊กพ่วงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการต่อพ่วงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกบ้าน แต่ละบ้านต้องมีปลั๊กไฟอย่างน้อยหลังละ 2-3 อัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานไฟฟ้าในจุดต่างๆ ของบ้าน โดยเฉพาะในบริเวณที่ไม่มีเต้ารับ หรือในจุดที่เต้ารับไม่เพียงต่อการใช้งาน ซึ่งการใช้งานปลั๊กไฟนั้นจะต้องเลือกปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐาน มีการใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง ทนความร้อนได้ดี เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน สำหรับบทความนี้ Global House มีทริคเล็กๆ น้อยๆ ในการสังเกตว่าควรเลือกซื้อปลั๊กไฟอย่างไรให้มีความปลอดภัยในการใช้งานมาฝากกัน เพื่อที่จะได้เลือกปลั๊กไฟที่มีคุณภาพ ไม่ทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร ปัญหาไฟรั่ว ไฟดูด
ก่อนที่จะไปดูทริคในการเลือกปลั๊กไฟที่มีความปลอดภัยในการใช้งาน มาดูกันก่อนว่าปลั๊กไฟมาตรฐาน 1 ชุดนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้เข้าใจส่วนประกอบ และหลักในการทำงานเบื้องต้น เวลาไปซื้อจะได้สังเกต และเลือกได้อย่างถูกต้อง
เต้ารับ (Socket) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อวงจรไฟฟ้า โดยที่เต้ารับนั้นจะมีรูทั้งแบบเต้ารับชนิด 2 ขา และเต้ารับชนิด 3 ขา เพื่อรองรับเต้าเสียบ ให้กระแสไฟฟ้าไหลเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการเลือกซื้อเต้ารับ ควรเลือกเต้ารับที่ทำจากวัสดุที่ไม่เกิดสนิมง่าย และทนต่อความร้อนได้ดี เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟ และที่สำคัญควรมีม่านนิรภัย (Safety Shutter) โดยเฉพาะในบ้านที่มีเด็กเล็ก วัยกำลังซน พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รอบตัว การมีม่านนิรภัยสามารถป้องกันเด็กเอานิ้วแหย่รูปลั๊กไฟขณะใช้งานได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกหนึ่งชั้น
เต้าเสียบ เป็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้คู่กับเต้ารับ เพื่อช่วยให้ไฟฟ้าครบวงจร ซึ่งเต้าเสียบที่เห็นได้ในปัจจุบันนั้นมีทั้งแบบกลม และแบบแบน แต่แนะนำให้เลือกใช้เต้าเสียบแบบกลม เพราะเป็นเต้าเสียบที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. ของประเทศไทย ที่รับรองได้ว่ามีความปลอดภัยมากกว่า นอกจากนี้ยังควรเลือกเต้าเสียบที่มีฉนวนหุ้มบริเวณโคนปลั๊กไฟทั้งสองข้างด้วย เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้นิ้วโดนไฟ อีกหนึ่งปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาร่วมด้วยคือ ปลั๊กไฟที่เต้าเสียบเป็นขากลม 3 ขา ซึ่งขาที่สามนั้นจะเป็น สายดิน เมื่อกระแสไฟเกิน จะช่วยให้กระแสไฟไหลลงสู่ดิน ไม่ไหลเข้าสู่ร่างกาย ทำให้มีความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น
สายไฟเป็นส่วนประกอบสำคัญของปลั๊กไฟ ซึ่งสายไฟที่เป็นส่วนประกอบของปลั๊กไฟนั้นมีด้วยกันหลายประเภท อีกทั้งยังมีขนาดของสายที่แตกต่างกันออกไป สำหรับการเลือกซื้อปลั๊กไฟควรเลือกแบบที่มีสายไฟที่ได้มาตรฐาน มอก. หรือมาตรฐานของ IEC ซึ่งเป็นมาตรฐานทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังควรเลือกสายไฟที่มีฉนวนหุ้มสองชั้น มีความยาวที่พอเหมาะกับการใช้งาน และเลือกสายไฟที่มีขนาดใหญ่ เพื่อช่วยรองรับกระแสไฟฟ้าได้สูง
อุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟฟ้าเกิน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันอันตรายที่เกิดจากปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร ไฟช็อต ไฟรั่ว รวมถึงปัญหาไฟดูด ซึ่งอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟฟ้าที่ใช้กับปลั๊กไฟนั้นเรียกว่า ฟิวส์ (Fuse) ซึ่งฟิวส์จะทำหน้าที่ในการตัดไฟ เมื่อพบว่ากระแสไฟฟ้าไหลเข้ามาเกินที่กำหนดไว้ เมื่อฟิวส์ทำหน้าที่ในการตัดไฟแล้ว ฟิวส์ก็จะไม่สามารถใช้งานได้อีก ต้องเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ที่มีค่าการทนกระแสเท่าเดิม เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพที่สุด
สวิตช์ไฟเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการเปิด-ปิดกระแสไฟ ซึ่งสวิตช์มีด้วยกันหลายประเภท ทั้งสวิตช์แบบปุ่มกด สวิตช์แบบก้านโยก และสวิตช์แบบเลื่อน แต่สวิตช์บนปลั๊กไฟที่เราเห็นกันบ่อยๆ ก็เป็นสวิตช์แบบกระดก (Rocker) ที่เมื่อกดสวิตช์ด้านใดด้านหนึ่งลง สวิตช์อีกด้านก็จะกระดกขึ้น
PHILIPS สวิตช์ไฟสองทาง รุ่น LeafStyle switch
ฉลากสินค้าที่มีตรา มอก.
คำว่า มอก. นั้นย่อมาจากคำว่า มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่สํานักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้กำหนดขึ้น เพื่อให้ผู้ผลิตได้ใช้เป็นแนวทางว่าผลิตภัณฑ์นั้นควรมีระบบใดบ้าง เพื่อให้สินค้ามีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคในการใช้งาน สำหรับปลั๊กไฟที่ได้รับการรับรองมาตรฐานก็จะมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่ามีความปลอดภัย สินค้ามีคุณภาพเหมาะกับการใช้งาน ซึ่งสิ่งที่เครื่องหมายมอก.ต้องระบุมีดังนี้
การเลือกซื้อปลั๊กไฟมาตรฐานควรมีส่วนประกอบหลักๆ ตามที่ได้พูดถึงไปในเบื้องต้น นอกจากนี้เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานที่มากขึ้น ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ช่วยในการพิจารณา และช่วยตัดสินใจในการซื้อปลั๊กไฟได้ง่ายขึ้น ด้วยรายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆ เหล่านี้ เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้มากขึ้น
DATA รางปลั๊กไฟพร้อม USB รุ่น WL158i
EILON รางปลั๊กไฟ รุ่น MSC45THN-GHE
มอก. นั้นย่อมาจาก มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่สร้างขึ้นโดยสํานักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางให้กับผู้ผลิต ได้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และความปลอดภัยเหมาะสมในการใช้งาน ซึ่งการเลือกซื้อปลั๊กไฟที่มีมาตรฐาน มอก. นั้นช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าสินค้ามีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับการใช้งาน หากสินค้าเกิดปัญหา ซึ่งอาจเกิดจากการเสื่อมอายุตามการใช้งานก็สามารถหาอะไหล่ในการเปลี่ยนได้ง่าย เพราะสินค้าที่ได้มาตรฐาน มอก. เหมือนกัน สามารถใช้ทดแทนกันได้ในบางชนิด
มาตรฐานมอก. นั้นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าสินค้านั้นเป็นสินค้าคุณภาพ มีการผลิตถูกต้องตามที่สํานักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกำหนด นอกจากการดูเครื่องหมาย มอก. เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อปลั๊กไฟแล้ว เรายังสามารถเช็กได้จากอุปกรณ์อื่นๆ ในการผลิตปลั๊กไฟอีกด้วย ดังนี้
ปลั๊กไฟที่เห็นได้ตามท้องตลาดทั่วไปนั้น มีทั้งแบบที่เป็นขาแบนและแบบที่เป็นขากลม แต่ในปัจจุบันมีการใช้งานปลั๊กไฟขากลม 3 ขาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปลั๊กไฟขากลม 3 ขา สามารถต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟที่สูงได้ อีกทั้งขาที่ 3 ที่เพิ่มขึ้นมานั้นเป็นสายดิน ซึ่งหากเกิดปัญหาไฟรั่วหรือไฟฟ้าลัดวงจรก็จะทำให้กระแสไฟไหลลงดินแทนการไหลผ่านตัวคน ซึ่งช่วยให้มีความปลอดภัยในการใช้งานไม่เกิดปัญหาไฟช็อตจนเป็นอันตรายกับผู้ใช้งานนั่นเอง
อุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับไฟฟ้าควรผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ที่สำคัญควรมีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี สำหรับการเลือกซื้อปลั๊กไฟ ควรเลือกสินค้าที่ผลิตจากพลาสติก ABS พลาสติก AVC หรือ PC ที่ผ่านมาตรฐาน UL94 ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง และที่สำคัญยังมีคุณสมบัติในการทนความร้อนได้ดี ไม่ทำให้เกิดปัญหาไฟไหม้ หรือไฟฟ้าลัดวงจรได้ อีกทั้งยังไม่ลามไฟอีกด้วย
ระบบตัดไฟในตัว หรือเบรกเกอร์นิรภัย (Circuit Breaker) เป็นระบบตัดไฟอัตโนมัติ ในกรณีที่มีกระแสไฟฟ้าไหลเข้ามามากเกินไป ระบบตัดไฟจะทำหน้าที่ตัดไฟก่อนที่จะทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร จนเกิดไฟไหม้ ซึ่งในปลั๊กไฟรุ่นใหม่ๆ ควรเป็นระบบตัดไฟแบบ RCBO หรือ Thermal Circuit Breaker ซึ่งเป็นระบบที่มีความปลอดภัยในการใช้งานมากกว่าระบบฟิวส์
การเลือกซื้อปลั๊กไฟนั้นจะต้องพิจารณาแรงดัน และการรับกระแสไฟฟ้าควบคู่ไปกับปัจจัยอื่นๆ ด้วย ซึ่งปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานนั้นจะต้องมีการระบุทั้งการรับแรงดันและการรับกระแสไฟฟ้า สำหรับปลั๊กพ่วงที่ได้มาตรฐานจะรับแรงดันได้ตั้งแต่ 50 โวลต์ แต่ไม่เกิน 440 โวลต์ ส่วนการรองรับกระแสไฟฟ้าจะต้องไม่เกิน 16 แอมป์ ดังนั้นก่อนซื้อให้มองหาทั้งแรงดันและการรับกระแสไฟฟ้าก่อนเสมอเพื่อให้ได้ปลั๊กไฟที่มีคุณภาพ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องสังเกตก่อนเลือกซื้อปลั๊กไฟคือมาตรฐานของสวิตช์และสายไฟ สำหรับสวิตช์ไฟนั้นทำหน้าที่ในการควบคุมการจ่ายไฟ จะต้องได้การรับรองมอก.824-2551 หรือ IEC61058 ตามที่กำหนด ส่วนสายไฟที่ใช้จะต้องเป็นสายกลมที่มีแรงดันของไฟเหมาะกับเต้ารับและเต้าเสียบ ที่สำคัญไม่ควรเลือกใช้สายไฟแบบแบนเพราะไม่ได้รับการรับรอง มอก.
ปลั๊กไฟเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน โดยเฉพาะในจุดที่เต้ารับไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่ต่อพ่วงเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ โทรทัศน์ ไมโครเวฟ หรือกาน้ำร้อน เป็นต้น ซึ่งการเลือกซื้อปลั๊กไฟจะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ ด้านเข้าด้วยกัน อันดับแรกจะต้องมองหาปลั๊กไฟที่ได้รับการรับรอง มอก. ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่ามีการผลิตที่ตรงตามข้อกำหนดของความปลอดภัยในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีลักษณะอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นเต้ารับที่ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง ทนความร้อนได้ดี เต้าเสียบจะต้องเป็นขากลม 3 ขา มีระบบในการตัดไฟในตัว เลือกสายไฟที่ใช้เป็นสายกลม ที่สำคัญจะต้องทำจากวัสดุที่ทนต่อความร้อน ไม่ลามไฟ มีแรงดันและการรับกระแสไฟฟ้าตามที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ที่สำคัญปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานยังมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้อีกด้วย
คุ้มค่าไปอีกขั้นแค่ สมัครสมาชิกโกลบอลคลับ ฟรี พร้อมรับสิทธิพิเศษ สำหรับ สมาชิกโกลบอลคลับ เพียงช้อปครบ 50 บาท รับ 1 คะแนน สะสมโกลบอลคลับสะสมคะแนน เพื่อแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
บริการช่างดี
เนื้อหาที่คล้ายกัน