สแตนเลสเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติที่ทนต่อการกัดกร่อน ทำให้นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องใช้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ อ่างล้างจาน เครื่องมือทางการแพทย์ ไปจนถึงใช้ในงานอุตสาหกรรมต่อเรือ ซึ่งสแตนเลสจะมีด้วยกันหลายชนิด มีหลายเกรด สำหรับบทความนี้ Global House จะชวนทุกคนไปรู้จักกับ สแตนเลส เหล็กกล้าคุณภาพสูง ไม่ขึ้นสนิม ผลิตจากอะไร และมีด้วยกันทั้งหมดกี่ประเภท
สแตนเลส (Stainless Steel) คือ โลหะผสม (Ferrous Alloy) บางคนอาจจะเรียกว่า เหล็กกล้าไร้สนิม ซึ่งเป็นวัสดุที่เกิดจากการผสมเหล็กเข้ากับสารสำคัญหลายชนิด เช่น Chromium (โครเมียม) นิกเกิล (Nickel) โมลิบดีนัม (Molybdenum) และคาร์บอน (Carbon) ซึ่งสัดส่วนของสารที่ใช้ในการผสมก็จะมีความแตกต่างกันออกไป คุณสมบัติก็จะต่างกันตามไปด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีคุณสมบัติที่ทนต่อการกัดกร่อน และมีความแข็งแรง
สแตนเลสผสมด้วยโลหะอะไรบ้าง
สแตนเลสเป็นวัสดุที่มีความสามารถในการทนต่อการกัดกร่อนได้สูง ซึ่งผลิตจากโลหะผสม โดยมีการผสมระหว่างสารหลายชนิด ดังนี้
สแตนเลสเป็นวัสดุที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย เพราะขึ้นรูปได้ง่าย สามารถนำมาใช้ได้ในอุตสาหกรรมหลายๆ อย่าง อีกทั้งยังมีวิธีในการดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก ค่าบำรุงรักษาต่ำ ซึ่งประเภทของสแตนเลสนั้นแยกได้ 5 ประเภท ดังนี้
1. สแตนเลสออสเทนนิติค
สแตนเลสออสเทนนิติค (Austenitic) เป็นสแตนเลสที่มีคุณสมบัติในการกัดกร่อนได้ในระดับที่ดี ทนต่อการกัดกร่อนได้ในชั้นบรรยากาศ และสารอินทรีย์ รวมถึงสารอนินทรีย์ต่างๆ ที่สำคัญสามารถขึ้นรูปได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับการใช้ในงานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนอย่าง แก้วกาแฟสแตนเลส อุปกรณ์การทำครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังเหมาะกับการผลิตชิ้นงานที่เกี่ยวข้องกับความสะอาด และอนามัยจึงนิยมนำมาผลิตเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเครื่องดื่มและอาหาร สำหรับส่วนผสมหลักๆ ของออสเทนนิติคนั้นประกอบด้วยโครเมียมประมาณ 16–22% คาร์บอนไม่เกิน 0.15% และนิกเกิลประมาณ 8-14%
2. สแตนเลสเฟอร์ริติค
เฟอร์ริติค (Ferritic) เป็นวัสดุที่สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายประเภท ตั้งแต่ใช้ในการตกแต่งภายใน นอกจากนี้ยังเหมาะกับชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องถ่ายเทความร้อน อย่างเครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า และแผ่นดาดฟ้าเรือเดินสมุทร เป็นต้น ส่วนผสมที่ใช้จะเน้นที่โครเมียมเป็นหลัก โดยใช้โครเมียมประมาณ 10.5-27% สแตนเลสเฟอร์ริติคก็จะมีด้วยกันหลายเกรด บางเกรดอาจมีส่วนผสมของนิกเกิล โมลิบดินัม อะลูมิเนียม หรือไทเทเนียม เพื่อให้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งาน
เครื่องล้างจาน MEX เป็นเครื่องล้างจานที่มีการนำเทคโนโลยี Ion Tech เข้ามาใช้ ซึ่งช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากคราบสกปรกของจานชาม และเครื่องครัวต่าง ๆ ที่สำคัญ เครื่องล้างจานรุ่นนี้มีโปรแกรมให้เลือกล้างมากมาย ซึ่งช่วยทำให้การล้างจานเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
3. สแตนเลสมาร์เทนซิติค
มาร์เทนซิติค (Martensitic) เป็นกลุ่มที่ไม่ทนการกัดกร่อนเท่ากับเฟอร์ริติค และออสเทนนิติค แต่มีคุณสมบัติหลักคือความแข็งแรง คงทนที่เหนือกว่า ส่วนใหญ่แล้วใช้ผลิตอุปกรณ์ที่ต้องความคงทนสูง อย่างเครื่องมือผ่าตัด ใบมีด สปริง และตัวยึด เป็นต้น มาร์เทนซิติคมีโครเมียมเป็นส่วนผสมหลัก โดยจะใช้ประมาณ 12-14% นอกจากนี้ก็จะเติมส่วนผสมอื่นๆ อีกหนิดหน่อย เพื่อช่วยให้มีคุณสมบัติของความเหนียว มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น โมลิบดินัม 0.2-1% นิกเกิล 0-2% และคาร์บอนผสม อยู่ประมาณ 0.1-1%
4. สแตนเลสดูเพล็กซ์
ดูเพล็กซ์ (Duplex) มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง จึงนิยมนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ที่ต้องมีการแลกเปลี่ยนความร้อน หรือในงานที่ต้องทนต่อการกัดกร่อน อย่างวัสดุที่ใช้ในการกลั่นน้ำทะเลให้ดื่มได้ หรือใช้ในอุตสาหกรรมของหมักดอง ซึ่งมีส่วนผสมมาจากโครเมียมตั้งแต่ 19% ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 28% และมีการผสมโมลิบดินัมมากกว่า 5% ในบางเกรดอาจใส่นิกเกิลลงไปด้วย เพื่อให้มีความเหนียวมากขึ้น
5. สแตนเลสที่ทนความร้อนสูง
สำหรับสแตนเลสประเภทนี้มีคุณสมบัติที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดีเหมือนออสเทนนิติค และที่สำคัญมีความแข็งแรงมากกว่ามาร์เทนซิติค ทำให้นิยมนำไปใช้ในอุปกรณ์ที่ต้องการทั้งความแข็งแรง และทนความร้อนได้ดี เช่น ปั๊ม หัววาล์ว เป็นต้น สำหรับส่วนผสมหลักจะเป็นโครเมียมประมาณ 17% นิกเกิล 4% และมีการใส่ไนโอเบียมกับทองแดงอีกเล็กน้อย
สแตนเลสแต่ละประเภทที่กล่าวไปด้านบนนั้น ถือเป็นประเภทใหญ่ๆ ที่บอกถึงคุณสมบัติ และส่วนผสมอย่างคร่าวๆ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีเกรดที่ต่างกันออกไปด้วย แต่ละเกรดก็จะมีตัวเลขที่ใช้เป็นตัวบ่งบอกถึงความแข็งแรง คงทน และคุณสมบัติ สำหรับเกรดที่พบได้ในท้องตลาด หรือพบได้บ่อยๆ มีดังนี้
เกรด 220 มีคุณสมบัติในการขึ้นรูปได้ดี เหมาะสำหรับการทำเครื่องประดับ จึงนิยมนำมาทำข้อมือ แหวาน หรือสร้อยคอ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ขึ้นสนิมได้ยากอีกด้วย
เกรด 304 เป็นชนิดที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ด้วยคุณสมบัติที่สามารถทนต่อการกัดกร่อนได้ดี สามารถขึ้นรูปได้ด้วยความเย็น และเชื่อมต่อกันได้ง่าย แต่ในกรณีที่ต้องคุณภาพในการเชื่อมที่แข็งแรง ทนทาน ควรเลือกเกรด 304L ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ดีกว่า เหมาะสำหรับการใช้เป็นวัสดุในการทำตู้เย็น เครื่องทำน้ำแข็ง แทงก์น้ำ เป็นต้น
ในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความร้อน และต้องการวัสดุที่สามารถทนต่อความร้อนได้ดี เกรด 309 และ309S ถือเป็นชนิดที่มีความเหมาะสม เพราะมีคุณสมบัติที่สามารถทนต่อความร้อนได้ดี โดยสามารถทนได้สูงถึง 900 องศาเซลเซียส
สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ทนความร้อนได้สูงมากๆ อย่างเตาหลอม เตาอบ การทำฉนวน หรือวัสดุกันความร้อน แนะนำว่าควรเลือกใช้เกรด 310 และ 310S ซึ่งเป็นชนิดที่ทนความร้อนได้ดีมาก โดยทนความร้อนได้สูงสุด 1,150 องศาเซลเซียส
เกรด 316 และ 316L เป็นชนิดที่สามารถทนต่อการกัดกร่อนได้สูง เหมาะกับการใช้งานที่ต้องโดนสารเคมี และกรดอยู่เป็นประจำ แต่ในกรณีที่ต้องการเจอกับกรดที่มีความเข้มข้นสูง ควรเลือกใช้แบบเกรด 316L เพราะทนการกัดกร่อนได้ดีกว่า ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งในอุตสาหกรรมการตกแต่งอาคาร งานสถาปัตยกรรม ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เครื่องมือการแพทย์ และอุตสาหกรรมต่อเรือ เป็นต้น
ชิ้นส่วนที่ต้องผ่านความร้อน อย่างการเป่าลมร้อน เช่น ท่อไอเสีย ไดร์เป่าผม หรือเครื่องเป่าลมร้อน ควรเลือกใช้เกรด 409 และ 409S เพราะทนความร้อนได้ดี ช่วยให้มีความคงทนในการใช้งาน
เกรด 416 นั้นมีคุณสมบัติในการแปรรูปได้ดี แรงเสียดทานน้อย มีประสิทธิภาพในการตัดที่ดีกว่าในทุกๆ เกรด เหมาะที่จะนำไปแปรรูปเป็นเครื่องใช้ต่างๆ
เกรด 420 เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับงานชุบแข็ง เพราะเมื่อชุบแข็งแล้วจะมีความแข็งขึ้นมาก แต่ในประเทศญี่ปุ่นจะใช้เป็นเกรด 420J ซึ่งถือว่าเป็นเกรดเดียวกัน
เกรด 430 เป็นสแตนเลสที่สามารถทนต่อการกัดกร่อนได้ดี คล้ายคลึงกับเกรด 304 แต่จะไม่มีส่วนผสมของสารนิกเกิล ทำให้แม่เหล็กสามารถดูดติดได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการป้องกันสนิมได้ดี นิยมนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร อุปกรณ์ดูดฝุ่น ท่อพัก ท่อไอเสีย และถังน้ำมัน เป็นต้น
สำหรับเกรด 431 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการชุบแข็งมาแล้วเรียบร้อย ทำให้มีความแข็งแรง ทนต่อการเกิดสนิมได้เป็นอย่างดี สามารถใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย
เกรด 440C นั้นมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน มีส่วนผสมของคาร์บอนที่สูง อีกทั้งยังมีความแข็งแรง เหมาะสำหรับผลิตมีดคุณภาพดี หรือเครื่องมือผ่าตัด
คุณสมบัติของสแตนเลส
สแตนเลสเป็นวัสดุที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ไปจนถึงอุตสาหกรรมโรงงาน และอุตสาหกรรมการต่อเรือ ด้วยคุณสมบัติที่มากมายทำให้เป็นที่นิยม ไปดูกันว่าคุณสมบัตินั้นมีอะไรบ้าง
คุณสมบัติทั่วไปของสแตนเลสนั้นเป็นวัสดุที่มีค่าความหนาแน่นที่สูง ซึ่งแต่ละเกรดก็จะมีความหนาแน่นแตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการทนความร้อนได้ดี เมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ
คุณสมบัติเชิงกล คือ ความสามารถในการทนต่อการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ภายนอก ซึ่งสแตนเลสนั้นมีคุณสมบัติเชิงกลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทนต่อการกัดกร่อนได้ดี สามารถใช้เป็นส่วนประกอบในชิ้นส่วนที่สามารถทนกรดได้สูง นอกจากนี้สแตนเลสยังมีส่วนผสมของเหล็กมากถึง 70-80% ทำให้มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกด แรงกระแทกได้ดี
สแตนเลสนั้นมีหลายประเภท แต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่สัดส่วนของสารเคมีที่ใช้ในการผสม แต่ประโยชน์หลักๆ ก็จะมีดังนี้
สแตนเลสเป็นวัสดุที่มีเหล็กเป็นส่วนผสมหลัก นอกจากนี้ยังมีการผสมสารเคมีอื่นๆ อย่างโครเมียม คาร์บอน นิกเกิล โมลิบดีนัม และแมงกานีสลงไปด้วย เพื่อให้ได้คุณสมบัติตามที่ต้องการ ซึ่งคุณบัติหลักๆ คือมีความแข็งแรง คงทน สามารถทนต่อการกัดกร่อนได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นรูปได้ง่าย สามารถใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งใช้ในการทำเครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และใช้ในอุตสาหกรรมต่อเรือ สำหรับที่กำลังมองหาเครื่องใช้สแตนเลสที่มีคุณภาพสูง เหล็กแป๊บกลม หรือเหล็กกล่อง เพื่อนำไปใช้งานต่างๆ ที่ Global House เป็นแหล่งรวมเครื่องใช้สแตนเลสคุณภาพดี ที่มีให้คุณเลือกได้อย่างจุใจ
คุ้มค่าไปอีกขั้นแค่ สมัครสมาชิกโกลบอลคลับ ฟรี พร้อมรับสิทธิพิเศษ สำหรับ สมาชิกโกลบอลคลับ เพียงช้อปครบ 50 บาท รับ 1 คะแนน สะสมโกลบอลคลับสะสมคะแนน เพื่อแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
บริการช่างดี
เนื้อหาที่คล้ายกัน