img


ไขข้อสงสัย เครื่องดูดควันมีกี่แบบ เลือกแบบไหนให้เหมาะกับครัว

เคยเป็นไหม? เข้าครัวทีไร ต้องเจอกับควันโขมง กลิ่นอาหารคละคลุ้ง หรือคราบน้ำมันเปรอะตามจุดต่างๆ ปัญหานี้จะหมดไป เพียงแค่มีสุดยอดตัวช่วยอย่าง เครื่องดูดควัน ไว้ติดห้องครัว แต่ในปัจจุบันมีเครื่องดูดควันให้เลือกหลายรูปแบบ แล้วแบบไหนกันล่ะที่เหมาะกับห้องครัวของเราที่สุด? วันนี้ Global House มีข้อมูลมาฝาก เพื่อให้คุณตัดสินใจซื้ออย่างคุ้มค่าที่สุด


เครื่องดูดควันคืออะไร?


เครื่องดูดควัน คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ที่ทำหน้าที่ดูดควัน กลิ่น ลมร้อน รวมถึงละอองไขมันที่เกิดจากการประกอบอาหาร แล้วระบายออกไปด้านนอก โดยอาจระบายผ่านทางท่อ หรือใช้การหมุนวนของอากาศภายในตัวเครื่อง ตามแต่ระบบของเครื่องดูดควันที่เลือกมาติดตั้งนั่นเอง ทำให้ห้องครัวปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ และมลภาวะต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้าน เรียกได้ว่า เป็นตัวช่วยดีๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหาร มีติดไว้ ทำเมนูไหนก็สบายใจ


ประโยชน์ของเครื่องดูดควัน

ประโยชน์ของเครื่องดูดควัน มีดังนี้

    • ขจัดควันและลมร้อน ทำให้ห้องครัวมีอากาศถ่ายเทมากขึ้น

    • ดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการประกอบอาหาร ทำให้บรรยากาศห้องครัวสดชื่น

    • ลดเขม่าและคราบไขมันที่มาจากควัน ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดคราบสกปรกตามจุดต่างๆ ในห้องครัว

    • ด้วยดีไซน์ที่หลากหลาย เครื่องดูดควันเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมความสวยงามให้กับห้องครัวได้


ระบบระบายอากาศของเครื่องดูดควัน


ระบบระบายอากาศของเครื่องดูดควันมี 2 แบบ ดังนี้

1. ระบบท่อ (Duct-out)

ระบบระบายอากาศที่หลายบ้านเลือกใช้ เพราะควันและกลิ่นจะถูกปล่อยออกไปภายนอกบ้านผ่านท่อ เหมาะกับห้องครัวที่เป็นบ้านเดี่ยว หรือห้องครัวที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ เพราะการติดตั้งต้องเจาะผนัง หรือเพดานเพื่อต่อท่อออกภายนอก


2. ระบบระบายอากาศแบบหมุนเวียน (Recirculating) 

ระบบระบายอากาศที่เหมาะกับห้องครัวเล็กในคอนโด หรืออพาร์ทเมนต์ ภายในตัวเครื่องจะมีฟิลเตอร์คาร์บอนที่ทำหน้าที่ดูดซับควันและกลิ่น และฟอกอากาศบริสุทธิ์กลับมาหมุนเวียนภายในห้องแทน ข้อดีคือ ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเจาะและเดินท่อใดๆ ทั้งสิ้น แต่กำลังดูดค่อนข้างต่ำ และต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์คาร์สม่ำเสมอ ไม่เหมาะกับบ้านที่ใช้ครัวแบบหนักหน่วง


เครื่องดูดควันมีกี่ประเภท?

เครื่องดูดควันแบ่งออกเป็น 4 ประเภทตามรูปลักษณ์และการดีไซน์ ดังนี้


1. เครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนัง

เครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนัง (Chimney Hood) เป็นเครื่องดูดควันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะการติดตั้งไม่กินพื้นที่ใช้สอย ติดตั้งด้วยการยึดติดกับผนังบ้าน ดังนั้นผนังหรือกำแพงบริเวณที่ติดตั้งแต่มีความแข็งแรง มั่นคง สามารถรับน้ำหนักของเครื่องดูดควันได้ 

ในส่วนของประสิทธิภาพและแรงดูด เรียกได้ว่า เทียบเท่ากับเครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้อง แต่ส่วนใหญ่มีราคาต่ำกว่า เหมาะสำหรับห้องครัวที่มีขนาดเล็ก-ปานกลาง


 

2. เครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้อง

เครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้อง (Island Hood) ออกแบบมาเพื่อวางกลางห้อง จึงตอบโจทย์ห้องครัวที่มีเคาน์เตอร์ประกอบอาหารอยู่กลางห้อง จุดเด่นของเครื่องดูดควันประเภทนี้คือ มีขนาดใหญ่ ระบบโครงสร้างแข็งแรง และประสิทธิภาพการดูดสูง

ลักษณะภายนอกคล้ายกับแบบกระโจมติดผนัง เพราะเป็นทรงกระโจมเหมือนกัน แต่แบบกลางห้องมีดีไซน์ให้เลือกหลากหลายกว่า สามารถเลือกดีไซน์ให้เหมาะกับห้องครัวได้ตามต้องการ


3. เครื่องดูดควันแบบ Slim Line

เครื่องดูดควันแบบ Slim Line (Slim Line) หรือเครื่องดูดควันมาตรฐาน เครื่องดูดควันขนาดกะทัดรัดและบางที่สุด เหมาะสำหรับติดตั้งในห้องครัวตามคอนโดหรืออพาร์ทเมนต์ ลักษณะของตัวเครื่องคล้ายลิ้นชัก สามารถดึงเข้า-ออกได้ นิยมติดตั้งไว้ใต้ตู้ลอยเหนือเตา 

เครื่องดูดควันแบบ Slim Line ส่วนใหญ่นิยมใช้ระบบเวียนอากาศที่กรองกลิ่นด้วยแผ่นฟิลเตอร์และแผ่นคาร์บอน แต่เป็นระบบระบายอากาศสู่ภายนอก จะซ่อนท่อระบายไว้ในชั้นเคาน์เตอร์ อย่างไรก็ตาม เครื่องดูดควันประเภทนี้แรงดูดอากาศน้อยกว่าประเภทอื่นๆ เหมาะกับห้องครัวที่ทำอาหารเบาๆ

4. เครื่องดูดควันแบบ Down Draft

เครื่องดูดควันแบบ Down Draft (Down Draft) เป็นมิติใหม่ของเครื่องดูดควันทั้งหมด เนื่องจากสามารถติดตั้งแบบฝังตัวเครื่องไปกับเคาน์เตอร์ครัวได้ คล้ายๆ กับเตาฝังนั่นเอง โดยการทำงานจะดูดควันลงมาระบายออกทางด้านล่าง ชนิดการดูดควันมีให้เลือกทั้งแบบต่อท่อออกด้านนอกอาคาร หรือแบบหมุนเวียนอากาศภายใน


เลือกซื้อเครื่องดูดควันอย่างไรให้คุ้มค่า?


ได้รู้จักประเภทของเครื่องดูดควันกันไปเบื้องต้นแล้ว ต่อไปลองมาดูวิธีเลือกซื้อเครื่องดูดควัน เลือกอย่างไรให้คุ้มค่า? เลือกอย่างไรให้เหมาะกับห้องครัวของเรามากที่สุด? บทความนี้มีคำตอบ

1. ขนาดของเครื่องดูดควัน

ขนาดเครื่องดูดควันมาตรฐานที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดมีตั้งแต่ 60 ซม. 90 ซม. และ 120 ซม. โดยเครื่องดูดควันที่ดีต้องเหมาะสมกับรูปแบบของเตาที่ใช้ หากใช้เตาแก๊สทั่วไป สามารถเลือกเครื่องดูดควันที่มีขนาดเท่ากับเตาแก๊สได้เลย หากใช้เตาไฟฟ้า แนะนำให้เลือกเครื่องดูดควันขนาดใหญ่กว่าเตาไฟฟ้าประมาณ 20-30 ซม. เนื่องจากความร้อนและควันจะแผ่ออกด้านข้าง จึงต้องเลือกขนาดใหญ่กว่าเตาเล็กน้อย


2. ประเภทระบบระบายอากาศ

หากห้องครัวไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ สามารถเจาะผนังเพื่อต่อท่ออากาศออกนอกบ้านได้ แนะนำให้เลือกใช้เครื่องดูดควันระบบท่อ ในทางตรงกันข้าม หากห้องครัวมีพื้นที่จำกัด หรืออาศัยในคอนโด อพาร์ทเมนต์ การเจาะผนังและต่อท่ออาจเป็นไปได้ยาก แนะนำให้เลือกเครื่องดูดควันระบบระบายอากาศแบบหมุนเวียน


3. กำลังเครื่องดูดอากาศที่เหมาะสม

กำลังดูดอากาศ หรือปริมาตรของอากาศที่ดูดออกได้ต่อชั่วโมง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะยิ่งกำลังดูดอากาศสูง ยิ่งดูดกลิ่นและควันออกจากห้องครัวได้ดี โดยสามารถเลือกกำลังดูดอากาศ ตามการใช้งานได้ดังนี้

    • ครัวไทย หรือครัวที่ทำอาหารเป็นประจำ จัดเต็มทั้งต้ม ผัด แกง ทอด แนะนำกำลังดูดอากาศที่ 1,188 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมงขึ้นไป

    • ครัวทั่วไป ทำอาหารประเภทไม่หนักมาก แนะนำกำลังดูดอากาศที่ 850 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง

    • ครัวที่นานๆ ทำอาหารที อาหารที่ทำก็เป็นประเภทง่ายๆ แนะนำกำลังดูดอากาศที่ 450 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง


4. เลือกแผ่นกรอง (ฟิลเตอร์)

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงคือ แผ่นกรองไอน้ำมันของเครื่องดูดควัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

    • แผ่นกรองแบบ Mesh แผ่นกรองแบบดั้งเดิม มีลักษณะเป็นตาข่ายอลูมิเนียมวางซ้อนกัน สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ โดยต้องล้างทำความสะอาดทุกสัปดาห์

    • แผ่นกรองแบบ Baffle แผ่นกรองชนิดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ผลิตจากสเตนเลสสตีล โดยควันและไอน้ำมันจะถูกดูดขึ้นสู่แผ่นกรอง ต้องถอดออกมาล้างทำความสะอาดทุก 4 สัปดาห์


5. ดีไซน์สวยงาม

หน้าตาก็เป็นปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยเสริมสร้างเอกลักษณ์ หรือกิมมิคให้กับห้องครัวของคุณ โดยในปัจจุบันเครื่องดูดควันแต่ละแบรนด์ต่างมีดีไซน์ให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้สอดคล้องกับทุกสไตล์ห้องครัว สามารถเลือกแบบที่ถูกใจตามความชอบส่วนตัวของเจ้าของบ้านได้เลย


6. ฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติม

นอกจากฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐานแล้ว แนะนำให้พิจารณาฟังก์ชันเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าไปอีกระดับ โดยส่วนใหญ่ฟังก์ชันเสริมจะเน้นนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มความสะดวกสบาย เช่น ฟังก์ชันทำความสะอาดเครื่องอัตโนมัติ ฟังก์ชันตั้งเวลาเปิด-ปิด หรือแม้แต่ฟังก์ชันควบคุมการทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือ สามารถสั่งงานได้ทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้การทำอาหารทุกมื้อเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบายกว่าที่เคย


ดูแลเครื่องดูดควันอย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนาน?

เพื่อให้เครื่องดูดควันอยู่คู่ครัวเราอย่างยาวนาน ควรหมั่นทำความสะอาด 2 จุดสำคัญต่อไปนี้

1. ตัวเครื่องดูดควัน

เริ่มต้นทำความสะอาดบริเวณด้านนอกด้วยการใช้น้ำยาขจัดคราบไขมันฉีดให้ทั่วเครื่อง จากนั้นให้นำฟองน้ำหรือผ้าสะอาดชุบน้ำมาเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำยาและสิ่งสกปรกออกจนหมด และปิดท้ายด้วยการเช็ดคราบน้ำออกด้วยผ้าแห้ง แนะนำให้ทำความสะอาดเช่นนี้ทุกครั้งหลังทำอาหารเสร็จ เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรก

2. แผ่นกรองน้ำมัน

แผ่นกรองเป็นชิ้นส่วนที่ดูดซับกลิ่น ควัน และไอน้ำมัน ดังนั้นจึงควรถอดออกมาทำความสะอาดอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน โดยถอดแผ่นกรองออก แล้วนำไปแช่ในน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที จากนั้นนำฟองน้ำหรือแปรงสีฟันขัดเบาๆ จนคราบสกปรกหลุดออก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ก่อนจะนำไปผึ่งให้แห้งสนิท แล้วจึงประกอบเข้าที่เดิม


ข้อควรระวังในการทำความสะอาดเครื่องดูดควัน

    • ก่อนทำความสะอาดเครื่องดูดควัน ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า เครื่องดูดควันหยุดทำงานและตัวเครื่องไม่ร้อน 

    • ไม่ใช้ฝอยขัดหม้อ หรือแปรงขนแข็งในการขัดทำความสะอาด เพราะจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ 

    • หลังจากทำความสะอาดตัวเครื่องดูดควันและแผ่นกรองน้ำมัน ต้องรอให้แห้งสนิทก่อน จึงใช้งานครั้งต่อไปได้ เนื่องจากเครื่องดูดควันเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า หากใช้งานขณะที่ยังมีความชื้นอยู่อาจเกิดอันตรายได้


แนะนำ 3 เครื่องดูดควันฟังก์ชันปัง น่าใช้งาน


1. LUCKY FLAME เครื่องดูดควันแบบติดผนัง RG-971T 90 ซม.

เครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนัง ขนาด 90 ซม. แบรนด์ Lucky Flame ตัวเครื่องเป็นสเตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน ภายในประกอบด้วยแผ่นกรองแบบ Baffle และถาดรองน้ำมันถอดทำความสะอาดได้ มาพร้อมกำลังดูดสูงสุด 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ปรับแรงดูดได้ถึง 3 ระดับ และควบคุมด้วยระบบสัมผัส ใช้ง่ายสะดวกสบายกว่าที่เคย

2. KOCH KITCHEN เครื่องดูดควันมาตรฐาน 60 ซม.

เครื่องดูดควันมาตรฐาน ขนาด 60 ซม. แบรนด์ Koch Kitchen เครื่องดูดควันขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับห้องครัวขนาดเล็ก มาพร้อมกำลังดูดสูงสุด 300 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ปรับความแรงได้ 3 ระดับ ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุสเตนเลสหนา แข็งแรง ทนทาน แม้จะเป็นเครื่องขนาดเล็ก แต่ก็อัดแน่นด้วยคุณภาพ ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน

3. AXIA เครื่องดูดควันแบบกลางห้อง 90 ซม.

เครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้อง ขนาด 90 ซม. แบรนด์ Axia มาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยีการใช้งาน เพียงโบกมือเบาๆ ก็สามารถควบคุมการทำงานได้ ไม่ต้องสัมผัส พร้อมด้วยกำลังดูดสูงสุด 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ปรับความแรงได้ 3 ระดับ สามารถติดตั้งได้ทั้งระบบระบายอากาศแบบหมุนเวียนและระบบท่อ มีเครื่องนี้ติดบ้าน รับรองดูดควันจากการทำอาหารได้อย่างหมดจดแน่นอน


สรุปบทความ

จบไปแล้วกับเรื่องราวของเครื่องดูดควันที่เรานำมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นแนวทางให้คุณสามารถเลือกซื้อเครื่องดูดควันที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด เชื่อเถอะว่ามีติดไว้ที่ห้องครัวสัก 1 เครื่อง จะทำเมนูไหน ก็ไม่ต้องกังวลปัญหากลิ่นควันอีกต่อไป!



สามารถมาช้อปเครื่องดูดควันที่ Global House เรารวบรวมเครื่องดูดควันคุณภาพดีจากแบรนด์ชั้นนำ หลากหลายรูปแบบ สนใจเครื่องไหนเลือกซื้อได้ทั้งบนเว็บไซต์หรือสาขาใกล้บ้าน แต่ถ้ายังไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี Global House ก็พร้อมดูแลคุณทุกวัน โทรเลย Call Center 1160 รับรองว่าคุณจะได้เครื่องดูดควันที่เหมาะกับห้องครัวอย่างแน่นอน


คุ้มค่าไปอีกขั้นแค่ สมัครสมาชิกโกลบอลคลับ ฟรี พร้อมรับสิทธิพิเศษ สำหรับ สมาชิกโกลบอลคลับ เพียงช้อปครบ 50 บาท รับ 1 คะแนน สะสมโกลบอลคลับสะสมคะแนน เพื่อแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ

    • สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม 1,000 คะแนน แลกรับคูปองแทนเงินสด 100 บาท

    • สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม 9,000 คะแนน แลกรับคูปองแทนเงินสด 1,000 บาท

    • สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกโกลบอลคลับ เมื่อใช้คะแนนสะสม แลกซื้อเครื่องดื่ม ที่ลามายอนคอฟฟี่ทุกสาขา


Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว


เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่

Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์

Line@: @globalhouse

TikTok: globalhouseofficial

App Click&Collect


บริการช่างดี

App ช่างดี

Web ช่างดี บริการติดตั้ง

Facebook: ChangDeeService

Line Official: @Changdee




เนื้อหาที่คล้ายกัน