ก่อนที่จะไปเลือกว่าควรซื้อเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี? ขอเล่าไปถึงความสำคัญว่าทำไมต้องใช้เครื่องซักผ้าก่อนเลยว่า “เสื้อผ้า” เป็นสิ่งที่เราต้องสวมใส่ในทุกๆ วัน แน่นอนว่าเราจะต้องสวมใส่เสื้อผ้าเหล่านั้นซ้ำไปซ้ำมาหลายๆ ครั้ง การซักผ้าจึงเป็นวิธีขจัดคราบและความสกปรกจากการสวมใส่ออกไป เพื่อให้เสื้อผ้าของคุณสะอาดสะอ้าน พร้อมสวมในครั้งถัดไป
แต่ครั้นจะให้ซักผ้าด้วยมือทุกครั้งก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะมันต้องใช้แรงและเวลาหลายชั่วโมงกว่าจะเสร็จสิ้นทุกขั้นตอน ตั้งแต่การซักไปจนถึงการบิดและตากผ้า ไปทำงานกลับบ้านมาก็เหนื่อยแล้ว หากจะให้ซักผ้าด้วยมือบ่อยๆ ก็คงเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยหน่ายไม่น้อย แค่คิดเฉยๆ โดยที่ยังไม่ได้ลงมือทำก็ชวนให้รู้สึกท้อใจซะแล้ว ด้วยเหตุนี้ “เครื่องซักผ้า” จึงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกๆ บ้านควรมีติดไว้ แล้วคุณจะรู้ว่านี่แหละคือนวัตกรรมแห่งความสะดวกสบายที่แท้จริง!
Global House ได้รับคำถามเกี่ยวกับเรื่องเครื่องซักผ้าจากผู้ใช้บริการมาบ่อยๆ แต่คำถามยอดนิยมที่ได้รับมาตลอด คือ “เครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี” ไม่ว่าจะเป็น… “อยากได้เครื่องซักผ้า แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อเครื่องซักผ้ายี่ห้อดีไหน ต้องเลือกยังไงบ้างคะ?”, “จะซื้อเครื่องซักผ้าฝาบน แต่ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะซื้อเครื่องซักผ้าฝาบนยี่ห้อไหนดี มันมีให้เลือกเยอะมากเลย ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหม?”, “เครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีกว่ากัน ระหว่างราคาหลักพันกับหลัก ไม่อยากจ่ายแพง มีตัวไหนแนะนำบ้างไหม?” และ “จะเลือกอะไรดี ระหว่างเครื่องซักผ้าฝาหน้ากับฝาบน?” เป็นต้น
ดังนั้น Global House (ผู้จัดจำหน่ายเครื่องซักผ้าพร้อมบริการติดตั้งครบวงจร / ศูนย์รวมของวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้าน ทางช่องทางออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย) จึงจะมาแจกพิกัด “10 ยี่ห้อเครื่องซักผ้าหลักพันที่ดีที่สุดในปี 2023” ใครที่กำลังคิดอยู่ว่า ไหนๆ ก็จะลงทุนซื้อเครื่องซักผ้าทั้งที ควรเลือกเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีนะ? เอาที่คุ้มๆ ใช้ได้นาน 10-20 ปีขึ้นไป ต้องมาเลือกสรรและพิจารณาในบทความนี้เลย!
เราไม่เพียงแต่แนะนำว่าคุณควรซื้อเครื่องซักผ้าฝาบนยี่ห้อไหนดี? เท่านั้น เรายังจะมาให้ความรู้อื่นๆ เกี่ยวกับเครื่องซักผ้า อย่างการแนะนำประเภทของเครื่องซักผ้า, ความแตกต่างของเครื่องซักผ้าแต่ละประเภท และสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องซักผ้าให้คุณทราบด้วย
หัวข้อไฮไลท์
เครื่องซักผ้า (Washing Machine) เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในการทำความสะอาดเสื้อผ้า ช่วยอำนวยความสะดวกและแบ่งเบาภาระของเรา โดยการทำความสะอาดเสื้อผ้าแบบอัตโนมัติ เราจึงไม่ต้องเสียแรงขยี้ผ้าและกำจัดคราบบนเสื้อผ้าเอง ซึ่งในระหว่างที่เครื่องซักผ้ากำลังทำงานนั้น เราสามารถไปทำอย่างอื่นได้เลย เครื่องซักผ้าจึงช่วยให้เราประหยัดแรงและเวลาได้มาก
เช่น จากเดิมเราต้องซักผ้าด้วยมือ บิดผ้าเอาน้ำออกเอง และนำไปตาก ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่เมื่อคุณใช้เครื่องซักผ้าซักทำความสะอาดแทน ปั่นหมาดเอาน้ำออกให้ และคุณนำมาตากเอง ระยะเวลาทั้งหมดจะลดลงเหลือเพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น แถมในระหว่างที่เครื่องกำลังซักผ้าและปั่นผ้าให้คุณ คุณจะเอาเวลาไปเก็บกวาดบ้านหรือนอนพักผ่อนก็ได้ เพราะฉะนั้น เครื่องซักผ้าจึงทำให้คุณมีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมไม่น้อยเลย!
ประเภทของเครื่องซักผ้า สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลักๆ คือ 1. เครื่องซักผ้าฝาหน้า 2. เครื่องซักผ้าและอบผ้าในตัว 3. เครื่องซักผ้าฝาบนแบบถังเดี่ยว และ 4. เครื่องซักผ้าฝาบนแบบถังคู่ โดยเครื่องซักผ้าทั้ง 4 ประเภทนี้ มีข้อดี-ข้อเสีย มีคุณสมบัติ และความเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป มาทำความรู้จักกันว่า… เครื่องซักผ้าฝาหน้ากับฝาบน ต่างกันยังไง? จากนั้นค่อยไปพิจารณาดูว่าควรซื้อเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี? และต้องเลือกจากอะไรบ้าง? ได้เลย!
เครื่องซักผ้าฝาหน้ามักจะพบได้บ่อยในร้านที่มีบริการเครื่องซักผ้าอัตโนมัติ และมีจำนวนเครื่องที่เปิดให้บริการค่อนข้างมาก โดยตัวฝาจะอยู่ที่ด้านหน้าของเครื่อง เพียงแค่ดึงออกมาก็สามารถใส่เสื้อผ้าเข้าไปซักได้อย่างง่ายดาย จึงเหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่กว้างๆ หรือบริเวณที่มีพื้นที่เพียงพอให้คุณเปิดฝาออกมาได้กว้างที่สุด โดยไม่ชนกับอะไร ซึ่งลักษณะการทำงานของเครื่องซักผ้าฝาหน้านี้ จะเป็นการหมุนของตัวถังแบบวงล้อแนวนอน สลับไปมา จึงช่วยถนอมผ้าและทำให้ผ้าพันกันเป็นก้อนยาก
เครื่องซักผ้าที่สามารถซักและอบผ้าได้ในตัว มักจะอยู่ในรูปแบบของฝาหน้า เมื่อซักเสร็จแล้ว สามารถอบผ้าให้แห้งได้เลย ทำให้ตัวผ้ามีความชื้นน้อย ส่งผลให้ระยะเวลาในการตากผ้าลดลงตามไปด้วย ซึ่งเครื่องซักผ้าประเภทนี้ เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว มีจำนวนผ้าที่ซักในแต่ละครั้งน้อย และคนที่ไม่มีพื้นที่ในการตากผ้า ไม่มีระเบียงหลังห้อง หรือต้องตากผ้าในที่ร่มอย่างมาก
เครื่องซักผ้าฝาบน แบบถังเดี่ยว มีการทำงานแบบอัตโนมัติครบทุกขั้นตอน สามารถซัก ล้าง และปั่นหมาดได้พร้อมกัน สามารถทำความสะอาดได้เร็วกว่าแบบฝาหน้า และเหมาะกับการติดตั้งในบริเวณที่มีพื้นที่น้อยอย่างคอนโดมิเนียม หรือหอพักนักศึกษา เนื่องจากสามารถใส่ผ้าลงไปในเครื่องตามแนวตั้งได้เลย แต่ในการซักผ้าแต่ละครั้ง ควรแยกประเภทของเสื้อผ้าให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาเสื้อผ้าพันกันจนเสียรูปทรง
เครื่องซักผ้าฝาบน แบบถังคู่เป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ สามารถซักเสื้อผ้าได้สะอาดไม่แพ้กับแบบถังเดี่ยว ตัวถังซักและถังปั่นจะแยกกัน ซึ่งเวลาใช้งานจะต้องตั้งเวลา เติมผงซักฟอก เติมน้ำยาปรับผ้านุ่ม และยกผ้าจากถังซักมาใส่ถังปั่นเอง เหมาะกับการติดตั้งไว้ที่บ้าน (อ่านต่อเลย! > เครื่องซักผ้า 2 ถัง ยี่ห้อไหนดี?)
เชื่อว่าคนที่ไม่ได้คุ้นชินกับการทำงานบ้าน เหมือนอย่างคุณแม่บ้านและคุณพ่อบ้านทั้งหลาย อาจจะรู้สึกสับสนและไปไม่ถูกได้ว่าจะเลือกเครื่องซักผ้ารุ่นไหนดี? จะต้องมีฟังก์ชันอะไรบ้าง? หรือซื้อเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี ถึงจะคุ้มที่สุด? เป็นต้น
ในเบื้องต้นนี้ แนะนำให้เลือกเครื่องซักผ้าที่เหมาะกับการใช้งานของเรา โดยดูว่าบ้านเรามีคนอยู่กี่คน? มีจำนวนผ้าในแต่ละวันเยอะแค่ไหน? เสื้อผ้าส่วนใหญ่เป็นแบบไหน? และดูว่าคุณมีเวลาในการซักผ้าทุกๆ กี่วัน? หรือสัปดาห์ละกี่ครั้ง?
เมื่อคุณรู้แล้วว่าปริมาณการซักผ้าและความถี่ในการซักผ้าของตัวเองเป็นอย่างไร ขั้นตอนต่อไปคือให้พิจารณาจากสิ่งอื่นๆ ดังต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเภทของเครื่องซักผ้า, ขนาดหรือความจุของถังซักผ้า, ฟังก์ชันการใช้งานที่อำนวยความสะดวกต่อการใช้งานของคุณ และรูปทรง สี ดีไซน์ ฯลฯ โดยมีรายละเอียดดังนี้
สำหรับผู้ที่อยู่คนเดียวและอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด แต่มีระเบียงที่ใช้ในการตากผ้า และไม่กังวลเรื่องผ้าม้วนพันกันยุ่งเหยิงสักเท่าไหร่ แนะนำให้เลือกใช้เครื่องซักผ้าฝาบนแบบถังเดี่ยว ส่วนผู้ที่ต้องตากผ้าในที่ร่ม หรือมีสมาชิกในครอบครัวเยอะ แนะนำให้ใช้เครื่องซักผ้าฝาบนแบบถังคู่จะเหมาะสมกว่า
เครื่องซักผ้าแต่ละรุ่น จะมีการระบุความจุของซักผ้าไว้เรียบร้อย อาทิ 8 กิโลกรัม, 12 กิโลกรัม หรือ 20 กิโลกรัม ให้คุณประเมินคร่าวๆ ว่าผ้าที่คุณจะต้องซักในแต่ละรอบนั้นมีประมาณกี่กิโลกรัม โดยอาจจะอ้างอิงจากปริมาณที่เคยไปซักกับร้านซักผ้าอัตโนมัติก็ได้ หรือถ้าคุณอาศัยอยู่คนเดียว เสื้อผ้าไม่เยอะ อาจจะเลือกเครื่องซักผ้าขนาด 8 - 10 กิโลกรัม เป็นต้น
ทุกวันนี้ เทคโนโลยีของเครื่องซักผ้าได้พัฒนาไปไกล ทำให้เครื่องซักผ้าแต่ละรุ่นมีฟังก์ชันต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำความสบายคราบฝังลึก, การทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว, การทำงานต่อเนื่อง เมื่อไฟฟ้าขัดข้อง ฯลฯ ฟังก์ชันเหล่านี้นี่เอง ที่จะช่วยคุณตอบคำถามตัวเองได้ว่าควรซื้อเครื่องซักผ้าฝาบนยี่ห้อไหนดี เพราะฟังก์ชันทุกอย่าง จะเป็นส่วนที่ทำให้คุณสะดวกสบาย และได้รับประสบการณ์อันดีจากการใช้งาน
ถึงโอกาสที่เครื่องซักผ้าจะมีปัญหาขึ้นมาจะเกิดขึ้นได้น้อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นเลย ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่แน่อาจจะเป็นคุณก็ได้ เพื่อความสบายใจในการเลือกซื้อและการใช้งานเครื่องซักผ้าในระยะยาว ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี ต้องดูระยะเวลาการรับประกันของตัวเครื่องและมอเตอร์ด้วย นอกจากนี้ทางบริษัทหรือผู้จัดจำหน่ายได้มีการดูแลเรื่องอื่นๆ หรือบริการหลังการขาย เพิ่มเติมหรือไม่อย่างไร
เครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีนะ? ราคาถูก ฟังก์ชันดี มีการรับประกันนาน!? ก่อนอื่นต้องขอแนะนำว่าการเลือกซื้อเครื่องซักผ้านั้น ราคาอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด หรือเป็นปัจจัยหลักที่คุณต้องคำนึงถึง การได้เครื่องซักผ้าราคาถูกมาเป็นเรื่องดีก็จริง แต่อย่างไรก็ตามเราควรคำนึงถึงการใช้งาน และพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เพราะถ้าเราได้เครื่องซักผ้าราคาดีมา แต่ฟังก์ชันไม่ตอบโจทย์ หรือมีข้อจำกัดเยอะ ในท้ายที่สุดอาจจะไม่คุ้มค่าก็เป็นได้
ซึ่งเครื่องซักผ้าแต่ละยี่ห้อจะมีราคาไม่เท่ากัน วัสดุที่นำมาใช้ก็ไม่เหมือนกัน ฟังก์ชันหรือเทคโนโลยีเด่นๆ ก็แตกต่างกัน ลองมาดูกันว่าในบรรดาเครื่องซักผ้าทั้ง 10 ยี่ห้อที่เราเอามาให้เลือกสรรในบทความนี้ เครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีและเหมาะสมกับคุณมากที่สุด!?
หมายเหตุ : ราคาพิเศษของเครื่องซักผ้าแต่ละเครื่อง อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยขึ้นอยู่กับโปรโมชันในแต่ละเดือน
HAIER เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น HWM140-1826T (สีดำ) ใช้ถังซักแบบ Pillow Shape ช่วยลดการเสียดสีและช่วยถนอมผ้าได้ดี สามารถขจัดคราบและทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำความสะอาดให้ดียิ่งขึ้นจากรูที่ใช้ในการปล่อยน้ำกว่า 720 รู และมีโปรแกรมให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โปรแกรมซักด่วนใน 12 นาที หรือโปรแกรมซักต่อเนื่อง แม้ไฟดับ-ไฟตก ก็สามารถทำการซักต่อไปได้ทันที เป็นต้น
ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) : 61 x 63 x 103.8 เซนติเมตร
ความจุในการซักผ้า : 14 กิโลกรัม
ระยะเวลาการรับประกันตัวเครื่อง : 3 ปี
ระยะเวลาการรับประกันมอเตอร์ : 12 ปี
SAMSUNG เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น WA12T5260BY/ST (สีเทา) เครื่องซักผ้าอัจฉริยะ ที่สามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าของคุณให้สะอาดหมดจด ไร้คราบสกปรกกวนใจ และไม่มีคราบตกค้าง! เพียงปลายนิ้วสัมผัส มาพร้อมเทคโนโลยีสุดเจ๋ง ไม่ว่าจะเป็น Wobble Technology แก้ปัญหาผ้าพันกัน, Deep Softner ทำให้ผ้าหอมนาน, Digital Inverter Motor ลดเสียงดัง ลดแรงสั่นสะเทือน และช่วยประหยัดพลังงานถึง 40%, Air Turbo ระบบปั่นหมาด ผ้าแห้งไว, Smart Check แอปพลิเคชันที่จะมาช่วยคุณตรวจสอบการใช้งานเครื่องในระดับเบื้องต้น ฯลฯ
ขนาด (กว้าง x ลึก x สูง) : 61 x 52 x 107.5 เซนติเมตร
ความจุในการซักผ้า : 12 กิโลกรัม
ระยะเวลาการรับประกันมอเตอร์ : 11 ปี
LG เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น T2314VS2B (สีดำ) ตัวมอเตอร์เป็นระบบอินเวอร์เตอร์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซัก และประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น 36% มีระบบ LoDecibel™ ช่วยให้มอเตอร์ทำงานเงียบและลดแรงสั่นสะเทือน, Smart Motion ถังซักที่หมุนได้ 3 ทิศทาง เพิ่มประสิทธิภาพการซักและถนอมผ้า, TurboDrum™ ขจัดคราบฝังลึกด้วยน้ำวนอันทรงพลัง และมี Smart Diagnosis™ แอปพลิเคชันที่จะช่วยคุณแก้ไขทุกปัญหาอย่างง่ายดาย
ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) : 59 x 60.6 x 96 เซนติเมตร
ความจุในการซักผ้า : 14 กิโลกรัม
ระยะเวลาการรับประกันตัวเครื่อง : 1 ปี
ระยะเวลาการรับประกันมอเตอร์ : 10 ปี
4. เครื่องซักผ้าฝาบน TOSHIBA รุ่น AW-DM1100PT
TOSHIBA เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น AW-DM1100PT (สีเทา) ระบบ DD-Inverter สามารถเลือกโปรแกรมการซักให้เหมาะกับลักษณะของผ้าได้ถึง 4 รูปแบบ (เสื้อผ้าปกติ, ยีน, ผ้าห่ม หรือผ้าหนา), สร้างแรงดันน้ำ 3 ทิศ เพื่อประสิทธิภาพในการขจัดคราบที่ดียิ่งกว่า, มีถาดป้องกันสัตว์ขนาดเล็ก ไม่ให้หลุดเข้าไปในตัวเครื่อง และมี Zero Standby ที่จะตัดไฟทันทีเมื่อจบการทำงาน
ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) : 55 x 56.5 x 96 เซนติเมตร
ความจุในการซักผ้า : 10 กิโลกรัม
ระยะเวลาการรับประกันตัวเครื่อง : 2 ปี
ระยะเวลาการรับประกันมอเตอร์ : 10 ปี
5. เครื่องซักผ้าฝาบน HITACHI รุ่น SF-80XB
HITACHI เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น SF-80XB WH (สีขาว) มากับฟังก์ชันที่จะช่วยให้คุณทำความสะอาดเสื้อผ้าได้อย่างง่ายดาย! เช่น โปรแกรมซักอัตโนมัติ 9 โปรแกรม, สามารถปรับระดับน้ำ 6 ระดับ, ระบบการซัก 4 ขั้นตอน (4-Step Wash), มี Eco Modes ช่วยประหยัดพลังงาน, Tangle-Free Finish ระบบคลายผ้าหลังปั่นหมาด และ Auto-Restart ระบบการทำงานอย่างต่อเนื่องหลังไฟฟ้าดับแบบอัตโนมัติ
ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) : 53 x 53.5 x 98.6 เซนติเมตร
ความจุในการซักผ้า : 8 กิโลกรัม
6. เครื่องซักผ้าฝาบน Hisense รุ่น WTJA1301T
Hisense เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น WTJA1301T (สีเทา) มีเทคโนโลยี Smart Fuzzy Logic Control ที่เป็นการชั่งน้ำหนักผ้าอัตโนมัติ เพื่อปรับปริมาณน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละครั้ง, สร้างกระแสน้ำแรง ทำความสะอาดอย่างทั่วถึง และขจัดคราบฝังแน่นได้อย่างล้ำลึก และมีกล่องน้ำยาซักผ้า Bubble Clean แบบเขาวงกต ทำให้น้ำยาซักฟอกกระจายตัวได้ดีและเป็นฟองละเอียด
ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) : 59 x 59 x 95 เซนติเมตร
ความจุในการซักผ้า : 13 กิโลกรัม
ระยะเวลาการรับประกันตัวเครื่อง : 3 ปี
ระยะเวลาการรับประกันมอเตอร์ : 12 ปี
7. เครื่องซักผ้าฝาบน TCL รุ่น F710TLW
TCL เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น F710TLW (สีขาว) กับ 5 จุดเด่นที่คุณต้องชอบ! 1. Anti Rust complete ผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูง ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสนิม 2. Air Dry ระบบปั่นหมาด โดยการดึงเอาอากาศจากภายนอกมาใช้งาน 3. Shower Rinse ช่วยปล่อยน้ำออกในช่วงปั่นหมาด และช่วยขจัดบรรดาคราบตกค้างออกไป 4. Transparent Cover ฝาปิดที่ผลิตจาก ABS Resin มีความแข็งแรงทนทาน มาพร้อมดีไซน์สุดเรียบหรู และ 5. Streamline Design การออกแบบตัวเครื่องที่มีมิติ สวยงาม และดูหรูหรา
ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) : 87.6 x 51 x 101.7 เซนติเมตร
ความจุในการซักผ้า : 10 กิโลกรัม
ระยะเวลาการรับประกันตัวเครื่อง : 3 ปี
ระยะเวลาการรับประกันมอเตอร์ : 12 ปี
8. เครื่องซักผ้าฝาบน SHARP รุ่น ES-WJX12-GY
SHARP เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น ES-WJX12-GY (สีเทา) ตัวถังผลิตจากสเตนเลสสตีล คุณภาพสูง ทำให้มีความแข็งแรงทนทานอย่างมาก ตัวถังมีขนาดใหญ่จุใจ สามารถซักผ้าปริมาณมากได้ในครั้งเดียว ช่วยถนอมผ้าได้ดี ช่วยประหยัดพลังงาน มีรอบปั่นหมาด 650 รอบ/นาที อีกทั้งยังสามารถตั้งโปรแกรมการซักได้ตามความต้องการ ถึง 9 รูปแบบด้วยกัน!
ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) : 60 x 62.2 x 97 เซนติเมตร
ความจุในการซักผ้า : 12 กิโลกรัม
ระยะเวลาการรับประกันตัวเครื่อง : 1 ปี
ระยะเวลาการรับประกันมอเตอร์ : 10 ปี
9. เครื่องซักผ้าฝาบน HAIER รุ่น HWM80-1708T
HAIER เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น HWM80-1708T (สีเทาอ่อน) สามารถตั้งโปรแกรมซักได้ 8 โปรแกรม มีประสิทธิภาพในการซักขั้นสูงสุด ช่วยถนอมผ้า-ลดการเสียดสี และสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด เมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง ส่วนตัวฝาปิดด้านบนเป็นแบบกระจกนิรภัย ทั้งแข็งแรง คงทน และสวยงาม ทำให้สามารถมองเห็นขั้นตอนการทำงานได้ทุกขั้นตอน
ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) : 62.4 x 62.4 x 103.5 เซนติเมตร
ความจุในการซักผ้า : 8 กิโลกรัม
ระยะเวลาการรับประกันตัวเครื่อง : 3 ปี
ระยะเวลาการรับประกันมอเตอร์ : 12 ปี
10. เครื่องซักผ้าฝาบน SAMSUNG รุ่น WA15CG5745BDST
SAMSUNG เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่น WA15CG5745BDST (สีเทาเข้ม) มี Ecobubble™ ฟังก์ชันที่จะทำให้ซักผ้าสะอาดขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ใช้น้ำน้อยลง 11%* ใช้พลังงานน้อยลง 60%* และช่วยถนอมผ้าได้มากขึ้น 20%* มีเทคโนโลยี Digital Inverter Motor ให้มอเตอร์ทำงานเงียบลง และมีระบบ Super Speed ร่นเวลาการซักผ้าได้ถึง 40%* (ซักผ้าเสร็จภายใน 29 นาที!*)
ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) : 61 x 67.5 x 108.9 เซนติเมตร
ความจุในการซักผ้า : 15 กิโลกรัม
ระยะเวลาการรับประกันมอเตอร์ : 20 ปี
“ช่างดี” หรือ “CHANGD” แอปพลิเคชันคู่ใจของคนรักบ้าน! หรือแอปพลิเคชันที่รวมครบทุกบริการจาก Global House ไว้ในที่เดียว! เปรียบเสมือนศูนย์รวมบริการงานช่างออนไลน์ เลือกช่างได้ตามใจ จะงานติดตั้ง งานย้าย หรืองานรื้อก็มีหมด พร้อมทั้งบริการจัดจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้านราคาพิเศษอีกเพียบ! คุณสามารถเช็กในแอปฯ ได้เลยว่า ติดตั้ง-ล้างเครื่องซักผ้า เครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนลดเยอะ ยี่ห้อไหนคนซื้อเยอะที่สุด ฯลฯ
แนะนำ 4 เมนู จากแอปพลิเคชัน “ช่างดี”
เป็นอย่างไรกันบ้าง? กับบทความ “แนะนำ 10 เครื่องซักผ้าราคาหลักพัน ที่ดีที่สุดในปี 2023” หรือ “ซื้อเครื่องซักผ้าทั้งที เลือกเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี ถึงจะคุ้มที่สุด?” เพื่อให้คุณได้รู้ว่า หากต้องการเครื่องซักผ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานที่สุด ควรเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดีนั่นเอง และอย่างที่คุณเห็นว่าเครื่องซักผ้าแต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่น จะมีจุดเด่นและคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงขนาดความจุของถังซักผ้าด้วย
ถ้าคุณอยากได้เครื่องซักผ้าที่เหมาะกับการใช้งานที่สุด อย่าลืมนำข้อมูลเหล่านี้ ไปประกอบการพิจารณาด้วยล่ะ! Global House ได้บอกทั้งพิกัด ทั้งราคา และคุณสมบัติของเครื่องซักผ้าแต่ละรุ่นไปแล้ว หวังว่าคุณจะสามารถตัดสินใจและตอบตัวเองได้แล้วว่าคุณจะควรซื้อเครื่องซักผ้าฝาบนยี่ห้อไหนดี!
บริการติดตั้ง-ล้างเครื่องซักผ้า
ทั้งนี้ อย่าลืมว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ย่อมมีวันที่จะเสื่อมสภาพและพังลงไป แต่จะทำอย่างไรให้คุณสามารถยืดระยะเวลาการใช้งานเครื่องซักผ้าได้นานที่สุด? นั่นก็คือการดูแลเครื่องซักผ้าอย่างถูกวิธีนั่นเอง สำหรับการดูแลเครื่องซักผ้าเบื้องต้นนั้น สามารถทำได้โดยการซักผ้าในปริมาณที่กำหนด ไม่ฝืนใส่เสื้อผ้ามากจนเกินไป และหมั่นทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอยู่เสมอ
คุ้มค่าไปอีกขั้นแค่ สมัครสมาชิกโกลบอลคลับ ฟรี พร้อมรับสิทธิพิเศษ สำหรับ สมาชิกโกลบอลคลับ เพียงช้อปครบ 50 บาท รับ 1 คะแนน สะสมโกลบอลคลับสะสมคะแนน เพื่อแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า ที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา ทั่วประเทศ
เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
• Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์
• Line@: @globalhouse
• App Click&Collect
บริการช่างดี
• App ช่างดี
• Facebook: ChangDeeService
• Line Official: @Changdee
เนื้อหาที่คล้ายกัน