img


เก็บอาหารในตู้เย็นอย่างไร? ให้ถูกจุด อยู่ได้นาน แถมประหยัดไฟ

ตู้เย็นถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านต้องมี เพราะใช้สำหรับเก็บอาหาร และถนอมอาหาร ยิ่งใครที่เป็นคนชอบทำอาหาร ตู้เย็นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้วัตถุดิบในการทำอาหารนั้นสามารถอยู่ได้นานยิ่งขึ้น บางครั้งมีการซื้อวัตถุดิบตุนเอาไว้ในตู้เย็นทำให้มีของแช่อัดแน่นเต็มตู้เย็น จะหยิบออกมาใช้ก็ลำบาก แถมตู้เย็นยังมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และทำให้ความเย็นของตู้เย็นส่งไปไม่ทั่วถึง เป็นผลทำให้วัตถุดิบในตู้เย็นเสียไว 

ใครที่กำลังเจอกับปัญหานี้อยู่ วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ จะมาแนะนำ เทคนิคในการจัด เก็บอาหารในตู้เย็น ให้มีระเบียบ และช่วยถนอมอาหารให้อยู่ได้นานๆ นอกจากนั้นยังช่วยในเรื่องการประหยัดไฟอีกด้วย สำหรับใครที่เป็นมือใหม่หัดจัดตู้เย็น หรืออยากรู้วิธีในการจัดตู้เย็นเพื่อถนอมอาหาร ไม่ควรพลาดบทความนี้ อย่ารอช้าไปดูวิธีจัดเก็บที่ถูกต้องกันดีกว่า!!


องค์ประกอบภายในตู้เย็นมีอะไรบ้าง?

ก่อนที่จะไปถึงเรื่องการถนอมอาหาร มาทำความรู้จักกับองค์ประกอบของตู้เย็นกันก่อนว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งแต่ละส่วนก็เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต่างกันด้วย โดยองค์ประกอบในตู้เย็นหลักๆ มีดังต่อไปนี้ (ไล่จากบนลงล่าง)

อยากเก็บอาหารในตู้เย็นให้อยู่ได้นาน ต้องเลือกวางให้ถูกต้อง!!


ด้านบนตู้เย็น

ในส่วนนี้หลายคนอาจจะคิดว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับตู้เย็น แต่จริงๆ แล้วด้านบนตู้เย็น หรือที่บางคนเรียกว่า "หลังตู้เย็น" ก็เป็นส่วนหนึ่งของตู้เย็นด้วยเช่นกัน ในส่วนนี้เหมาะสำหรับใช้วางวัตถุดิบที่ไม่ต้องใช้ความเย็นในการถนอมอาหาร หรือมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอยู่แล้ว แต่ก็ต้องระวังให้ดี เพราะด้านบนตู้เย็นจะมี การปล่อยความร้อนออกมาจากมอเตอร์ของตู้เย็น (ความร้อนที่ออกมาไม่ได้ร้อนมาก แต่คุณจะสามารถสัมผัสถึงความร้อนได้)

แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรวางสิ่งของไว้ด้านบนของตู้เย็น เช่น ไมโครเวฟ เตาอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ รวมถึงสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก เพราะอาจส่งผลต่อการทำงานของตู้เย็นได้อีกด้วย


ช่องฟรีซ

เป็นส่วนที่ได้รับความเย็นมากที่สุด ทำให้วัตถุดิบหรืออาหารที่แช่เอาไว้ในช่องนี้จะแข็ง ส่งผลให้อาหารมีอายุที่ยาวนานขึ้น เพราะช่องฟรีซจะทำหน้าที่ฟรีซอาหาร (แช่แข็ง) ช่วยรักษาคุณภาพอาหารและคงความสดใหม่ จึงเป็นช่องที่เหมาะสำหรับการถนอมวัตถุดิบหรืออาหารระยะยาว เช่น เนื้อสัตว์แช่แข็ง ผลไม้แช่แข็ง น้ำแข็ง และใช้เพื่อถนอมอาหารที่ปรุงสุกเอาไว้แล้ว (อาหารที่คุณทำสต็อกเอาไว้ทานวันอื่นๆ)

เวลาที่จะนำไปทำอาหาร หรือนำไปทานก็แค่เอาออกจากช่องฟรีซมาแล้วรอจนน้ำแข็งละลาย จากนั้นก็นำไปใช้งาน หรืออุ่นทานได้เลย หากเป็นของที่จะรีบใช้ภายในวันนั้นๆ หรือภายในไม่กี่ชั่วโมงไม่ควรนำไปแช่ช่องฟรีซ เพราะว่าจะทำให้เสียเวลาในการละลายน้ำแข็งนาน


ชั้นใต้ช่องฟรีซ

หากคุณต้องการแช่อาหารจำพวกของสด ที่ต้องนำมาประกอบอาหารภายในวันนั้นๆ หรือในเร็วๆ วัน แต่ยังอยากให้อาหารคงความสดเอาไว้อยู่ ก็ควรเก็บเอาไว้ในช่องนี้ เพราะชั้นใต้ช่องฟรีซเหมาะสำหรับเก็บวัตถุดิบที่เสียได้ง่าย ต้องการความเย็นที่มากพอในการรักษาความสด และถนอมให้วัตถุดิบอยู่ได้นาน อย่างเช่น เนื้อสัตว์ หมู ไก่ รวมถึงพวกอาหารทะเลอย่าง กุ้ง ปลาหมึก ซึ่งอาหารบางชนิดหากใส่ในช่องฟรีซตรงๆ อาจทำให้เมื่อนำมาปรุงอาหาร รสสัมผัสของวัตถุดิบอาจจะไม่เหมือนเดิมได้

นอกจากนั้น ชั้นใต้ช่องฟรีซยังเหมาะสำหรับแช่ของที่ต้องการให้เย็นเร็วขึ้น แต่ไม่เย็นจนแข็งเหมือนกับการแช่ในช่องฟรีซ เช่น เครื่องดื่มกระป๋อง น้ำอัดลม (เพราะว่าในน้ำอัดลม หรือน้ำกระป๋องจะมีแก๊ส หากนำไปแช่ในช่องฟรีซตรงๆ อาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างการระเบิดได้)


ชั้นวางช่องกลาง

ในส่วนนี้เราขอรวมชั้นวางด้านบน และด้านล่างเป็นส่วนเดียวกัน บางคนก็จะเรียกช่องตรงนี้ว่า "ช่องกลาง" เพราะถือว่าเป็นช่องสำหรับแช่อาหารธรรมดา หรืออาหารที่ไม่ได้ต้องการความเย็นมากนัก เช่น ไข่ นม โยเกิร์ต ไส้กรอก หรือของที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมาแล้ว นอกจากนั้นยังเป็นชั้นที่มีพื้นที่ในการวางค่อนข้างมาก ทำให้สามารถแช่อาหารได้เยอะ รวมถึงอาหารที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์อย่าง กล่องเก็บอาหาร กล่องถนอมอาหาร ภาชนะบรรจุอาหาร ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของถุงพลาสติกห่ออาหาร หรือกล่องก็สามารถใส่ในช่องนี้ได้เลย

อีกทั้งการใส่บรรจุภัณฑ์ก่อนที่จะนำไปแช่ในตู้เย็น นอกจากจะช่วยล็อคความสดของอาหารไว้แล้ว ยังช่วยให้สามารถจัดวางอาหารได้เป็นระเบียบอีกด้วย ทริคแนะนำจากโกลบอลเฮ้าส์ เพื่อให้ง่ายต่อการหาหรือการนำมาใช้ คุณอาจจะแปะป้ายบอกประเภทของวัตถุดิบ หรืออาหารเอาไว้ที่ข้างกล่อง ก็จะทำให้เวลาที่ต้องใช้งาน สามารถนำออกมาใช้ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาค้นหา

ถ้าจะให้ดีควรเลือกกล่องถนอมอาหารที่มีฝาปิดแบบล็อคได้ เพราะจะช่วยป้องกันกรณีที่น้ำในช่องฟรีซ หรือน้ำจากของที่แช่เอาไว้ในตู้เย็น หยดลงมาโดนอาหารได้ แถมยังช่วยล็อคกลิ่น ไม่ให้ส่งกลิ่นออกมานอกบรรจุภัณฑ์ได้ เช่น กลิ่นของทุเรียน ของหมักดอง หรือวัตถุดิบที่มีกลิ่นแรง


ช่องแช่ผัก

เป็นช่องที่อยู่ด้านล่างสุดของตู้เย็น และเป็นช่องลิ้นชักโปร่งใส ซึ่งจะมีลักษณะเป็นกระบะสำหรับใส่วัตถุดิบ ใช้สำหรับแช่ผัก และผลไม้ ที่ไม่ได้ต้องการความเย็นมากนัก แต่ยังต้องอาศัยความเย็นในการคงความสดเอาไว้อยู่ เพราะถ้าแช่ผักในช่องที่โดนความเย็นตรงๆ จะทำให้ผักเหี่ยวได้ง่าย

ดังนั้นจึงต้องใส่เอาไว้ในช่องนี้ แต่ไม่ควรใส่ให้ทับกันจนเยอะเกินไป เพราะอาจทำให้ผักเน่าเสียได้ โดยอาจจะหาบรรจุภัณฑ์ที่เป็น ถุงซิปล็อค มาใส่ เพราะว่าสามารถใส่ผัก และผลไม้ ที่มีลักษณะยาวได้ หรือถ้าใครไม่อยากเสียเวลาตอนปรุงอาหาร ก็อาจจะเด็ดผัก หรือหั่นผักเป็นชิ้นๆ ใส่ถุงเอาไว้ก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการนำมาใช้ และยังช่วยประหยัดพื้นที่ในช่องผัก แถมยังช่วยให้ผักผลไม้อยู่ได้นานขึ้นอีกด้วย


ชั้นวางข้างประตู

ส่วนนี้เป็นส่วนที่คุณเปิดใช้งานตู้เย็นบ่อยๆ ดังนั้นของที่วางตรงข้างประตูควรเป็นของที่สามารถเก็บได้นานๆ และไม่ต้องการความเย็นในการถนอมอาหารมากนัก และควรมีขนาดกว้างและแข็งแรงพอสำหรับวางขวดน้ำ หรือ ภาชนะบรรจุน้ำ รวมถึงช่องสำหรับวางไข่ วัตถุดิบ หรืออาหารที่เหมาะสำหรับวางในส่วนนี้ อย่างของจำพวก เครื่องดื่ม เครื่องปรุงรส ยา น้ำดื่มต่างๆ ที่ใช้งานบ่อยๆ เพราะเป็นส่วนที่หยิบได้ง่ายกว่าส่วนอื่นๆ หากที่ช่องวางไข่ด้านข้างตู้เย็นไม่เพียงพอ อาจจะใช้ กล่องเก็บไข่ เพื่อเพิ่มพื้นที่และเป็นการจัดระเบียบตู้เย็นได้อีกด้วย


เทคนิคการจัดเก็บอาหารในตู้เย็น


  • จัดวางของที่หมดอายุก่อนไว้ด้านหน้า และของที่อยู่ได้นานไว้ด้านหลัง
  • แปะป้ายบอกวันหมดอายุ เพื่อที่จะทำให้สามารถหยิบมาใช้งานได้ง่าย
  • ใช้ภาชนะ หรือบรรจุภัณฑ์ เช่น กล่องเก็บอาหาร อุปกรณ์จัดเก็บในตู้เย็น ที่ช่วยในการช่วยจัดเก็บของให้เป็นระเบียบ และง่ายต่อการใช้งาน
  • ขวดน้ำ ควรจะจัดในแนวนอน จะได้ไม่กินพื้นที่ภายในตู้เย็น หรือจัดวางไว้ที่ข้างตู้เย็น
  • เก็บอาหารประเภทเดียวกันไว้ด้วยกัน เช่น ของที่จะหมดอายุใกล้ๆ กัน หรือพวกผักผลไม้ที่ควรเก็บแยกออกจากหมู หรือเนื้อสัตว์อื่นๆ


แนะนำตู้เย็นนวัตกรรมใหม่ที่เหมาะสำหรับ เก็บอาหารในตู้เย็น

นอกจากการจัดวางของในตู้เย็นให้เป็นระเบียบแล้ว การเลือกตู้เย็นที่ดีก็จะช่วยทำให้อาหารอยู่ได้นาน และเก็บรักษาความสดมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาตู้เย็นสำหรับถนอมอาหารดีๆ โกลบอลเฮ้าส์ ขอแนะนำตู้เย็นที่จะช่วยรักษาคุณภาพอาหารให้ผัก ผลไม้ และของในตู้คงความสดใหม่ไว้ได้นาน!!


  • SAMSUNG รุ่น RT20HAR1DSA/ST เป็นตู้เย็น 2 ประตูที่มาพร้อมกับขนาด 7.4 คิว มีเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้ตู้เย็นทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น มีอินเวอร์เตอร์คอมเพรสเซอร์เป็นแบบดิจิทัล ที่ปรับความเร็วได้ถึง 7 ระดับ ทำให้ตู้เย็นคงความเย็น และความสดของอาหารตลอดเวลา ด้วยระบบอินเวอร์เตอร์จึงทำให้ลดเสียงรบกวน และช่วยให้ค่าไฟลดลงได้อีกด้วย
  • HITACHI รุ่น RH300PD BBK สำหรับใครที่อยากได้ตู้เย็นที่จุของได้เยอะๆ หรือชอบทำอาหาร ตู้เย็นรุ่นนี้มาพร้อมกับขนาด 10.2 คิว และมี 2 ประตู ทำให้สามารถแบ่งสัดส่วนของชั้นบน และชั้นล่างได้อย่างชัดเจน นอกจากนั้นยังมีระบบทำความเย็นแบบพัดลมคู่ และช่องแช่ที่ปรับอุณหภูมิได้ 2 ทิศทาง ทำให้ความเย็นกระจายทั่วถึงกัน แถมยังมีระบบควบคุม และตรวจจับอุณหภูมิที่แม่นยำ ช่วยให้ประหยัดพลังงานได้อีกด้วย
  • HAIER รุ่น HRF-456GG ใครที่เป็นครอบครัวใหญ่ แล้วอยากได้ตู้เย็นที่สามารถจุของได้เยอะๆ ต้องรุ่นนี้เลย เพราะเป็นตู้เย็นแบบ 4 ประตู ที่มาพร้อมกับขนาด 16 คิว ทำให้สามารถจุของได้เยอะ และสามารถเลือกเปิดประตูส่วนที่คุณต้องการใช้งานได้ ตู้เย็นจะแยกช่องแห้ง และช่องชื้นออกจากกัน ทำให้ช่วยรักษาความสดใหม่ของผัก และวัตถุดิบอื่นๆ ได้ดี แถมยังมีช่องปล่อยลมบริเวณด้านบน ทำให้สามารถกระจายความเย็นได้ถึง 360 องศา แถมมีระบบอินเวอร์เตอร์ที่ช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 39 %

ตู้เย็นถ้าเลือกให้ดี และเหมาะสมกับการใช้งาน ก็จะช่วยถนอมอาหาร และคงความสดใหม่ของอาหารได้ดี นอกจากเรื่องความเย็นของตู้เย็นแล้ว ยังต้องคำนึงถึงระบบภายใน และการประหยัดพลังงานด้วย เพราะถ้ามีตู้เย็นที่ช่วยทำให้อาหารอยู่ได้นาน ทำความเย็นได้ดี แต่ถ้าไม่ประหยัดพลังงานก็จะทำให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้น ซึ่งอาจจะไม่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะยิ่งใช้งานตู้เย็นนานเท่าไหร่ ประสิทธิภาพของตู้เย็นก็จะน้อยลงตามไปด้วย อาจทำให้ค่าไฟเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัวได้ ดังนั้นการลงทุนซื้อตู้เย็นดีๆ จะช่วยเรื่องการประหยัดพลังงาน และยังช่วยให้คุณใช้งานตู้เย็นได้นานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ใครที่อยากได้ตู้เย็นดีๆ และตอบโจทย์การใช้งาน ต้องซื้อที่ โกลบอลเฮ้าส์!!


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับตู้เย็น โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

ตู้เย็นที่ช่วยในการถนอมอาหาร และช่วยประหยัดพลังงาน นอกจากรุ่นที่คุณได้แนะนำไปเบื้องต้นแล้ว ก็ยังมีตู้เย็นอีกหลายรุ่นที่ทั้งสวย และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ความเป็นคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ ขนาด ระบบภายใน จะแบบไหนก็สามารถเลือกซื้อได้ที่ โกลบอลเฮ้าส์

คุณสามารถเข้าไปเลือกดูสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ Global House และถ้าใครอยากจะเข้าไปดูสินค้าจริง ไปลองสัมผัส ลองเลือก ก็สามารถไปที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้เลย ซึ่งจะมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม และช่วยแนะนำสินค้า

นอกจากนั้นยังมี บริการติดตั้ง และบริการทำความสะอาด ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ และถ้าใครที่ไม่อยากออกมาช้อปเอง ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้ง่ายๆ แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชันสุดคุ้ม และ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากสินค้านี้แล้ว โกลบอลเฮ้าส์ ก็ยังมีสินค้าเกี่ยวกับบ้านอีกมากมายที่ขนมาให้คุณได้เลือกแบบครบครัน!!

Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว

เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่




เนื้อหาที่คล้ายกัน