img


เทคนิคเลือกเครื่องซักผ้าคอนโดแบบไหน ที่ตอบโจทย์ชาวคอนโด

ในปัจจุบัน คอนโดถือว่าเป็นที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ หรือนักศึกษา เพราะคอนโดส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ในตัวเมือง อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าและใกล้ทางด่วน ด้วยไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ของคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมักทำงานเร่งรีบแข่งขันกับเวลา

และใช้เวลาทั้งวันหมดไปกับการทำงาน การเดินทาง การเรียนหนังสือ ซึ่งการมีเครื่องใช้ไฟฟ้า และเทคโนโลยีสุดล้ำ ถือว่าเป็นตัวช่วยในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดได้มากยิ่งขึ้น “เครื่องซักผ้า” ถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมสำคัญในชีวิตประจำวัน โดยปกติแล้วคอนโดจะมีเครื่องซักผ้าอยู่ที่ส่วนกลาง หรือระหว่างชั้นภายในคอนโด

แต่หากจำนวนเครื่องซักผ้ามีน้อยกว่าจำนวนผู้ใช้งาน บางครั้งก็อาจทำให้ คุณต้องรอคิวซักผ้าจนทำให้เสียเวลา ดังนั้นการซื้อ เครื่องซักผ้าคอนโด จึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้ชาวคอนโดประหยัดเวลา และสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ ขอแนะนำวิธีการเลือกเครื่องซักผ้าให้เหมาะกับชาวคอนโด เลือกซื้อเครื่องซักผ้าทั้งทีต้องเลือกให้ดี และคุ้มค่า ใครที่กำลังคิดจะซื้อเครื่องซักผ้าต้องไม่พลาดบทความนี้!!


4 เช็คลิสต์ที่ต้องรู้ก่อนเลือกซื้อ เครื่องซักผ้าคอนโด

ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าสำหรับใช้งานในคอนโด ควรจะสำรวจองค์ประกอบต่างๆ ภายในห้องโดยคำนึงถึงความสะดวกต่อการใช้งาน และขนาดพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซื้อมาแล้วใช้งานไม่ได้ หรือไม่มีพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า ดังนั้นมาเช็คลิสต์กันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างที่ต้องรู้ ก่อนเลือกซื้อเครื่องซักผ้า!!


  1. เช็คตำแหน่งระบบน้ำ และระบบไฟฟ้า ว่าเหมาะสำหรับการติดตั้งเครื่องซักผ้าหรือไม่ สำหรับระบบไฟฟ้า และระบบน้ำถือว่ามีความสำคัญมาก หากระบบน้ำไม่ดี หรือความแรงของน้ำที่ไหลเข้าเครื่องไม่เพียงพอ ก็จะทำให้เครื่องซักผ้าไม่ทำงาน นอกจากนั้นระบบไฟฟ้าก็ต้องเช็คให้ดี เพื่อที่เวลาใช้งานจะได้ไม่เกิดไฟกระชาก หรือเครื่องซักผ้าหยุดทำงานระหว่างการซัก รวมถึงต้องเช็คปลั๊กไฟด้วยว่า มีกำลังไฟเพียงพอในการต่อเข้ากับเครื่องซักผ้าหรือไม่ หากไม่เพียงพออาจจะต้องมีการเดินสายไฟเพิ่มเติม และที่สำคัญไม่ควรใช้งานเครื่องซักผ้าแบบต่อปลั๊กพ่วงเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้
  2. สำรวจพื้นที่ภายในห้อง ว่ามีขนาดพื้นที่ติดตั้งเครื่องซักผ้าเท่าไหร่ เพราะเครื่องซักผ้าแต่ละรุ่น จะมีรูปแบบ ขนาด และความเหมาะสมกับรูปแบบห้องที่แตกต่างกันออกไป เช่น ถ้าภายในห้องมีพื้นที่แนวยาวมากกว่า ควรเลือกซื้อเครื่องซักผ้าแบบฝาบน เพราะถ้าซื้อเครื่องซักผ้าฝาหน้ามาอาจทำให้พื้นที่แคบลง ไม่สะดวกในการเปิดปิดฝาหน้า ดังนั้นหากไม่สำรวจพื้นที่ ไม่เช็คขนาดภายในห้อง และขนาดพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งเครื่องซักผ้าก่อน อาจทำให้เจอปัญหาเมื่อซื้อเครื่องซักผ้ามาแล้วไม่มีพื้นที่วาง และทำให้ไม่สะดวกในการใช้งาน ดังนั้นการเช็คขนาดพื้นที่ภายในห้องจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกัน
  3. เช็คความถี่ในการใช้งานเครื่องซักผ้า การเลือกซื้อเครื่องซักผ้า ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะจะทำให้คุณใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด ดังนั้นควรเช็คก่อนว่าปกติซักผ้าบ่อยแค่ไหน การที่คุณรู้ความถี่ และปริมาณผ้าที่ต้องการจะซัก จะทำให้คุณสามารถประเมินได้ว่าควรจะซื้อเครื่องซักผ้าที่มีความจุและขนาดเท่าไหร่ หากคุณซักผ้าน้อยกว่า 4 ครั้งต่อสัปดาห์ อาจเลือกใช้เครื่องซักผ้าที่สามารถจุผ้าได้ 5 - 7 kg แต่ถ้าซักผ้าประมาณ 4 - 6 ครั้งต่อสัปดาห์ ควรเลือกใช้เครื่องซักผ้าที่สามารถจุผ้าได้ประมาณ 7 - 9 kg และถ้าคุณเป็นคนที่ซักผ้ามากกว่า 6 ครั้งต่อสัปดาห์ ควรเลือกเครื่องซักผ้าที่สามารถจุผ้าได้ตั้งแต่ 10 kg ขึ้นไป เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่เหมาะสมกับการใช้งานได้แล้ว
  4. เช็คว่ามีบริการหลังการขายหรือไม่ สำหรับชาวคอนโด บริการหลังการขายถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ควรจะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่มีบริการหลังการขาย เช่น บริการขนส่ง และติดตั้ง เพราะว่าคอนโดมีหลายชั้น หากอาศัยอยู่ชั้นที่สูงๆ และอาศัยอยู่คนเดียว การจะขนย้ายเครื่องซักผ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาติดตั้งบนห้องด้วยตัวเองก็คงจะไม่สะดวก

ดังนั้นบริการหลังการขายเหล่านี้จึงสำคัญมาก รวมไปถึงบริการซ่อม ตรวจเช็คสภาพ และเซอร์วิสอื่นๆ โดยควรเลือกบริษัท หรือร้านที่ให้บริการแบบครบวงจรก็จะตอบโจทย์ชาวคอนโดมากที่สุด

เมื่อคุณสำรวจสิ่งเหล่านี้แล้วจะทำให้เห็นภาพรวมและสามารถประเมินก่อนการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าว่าควรจะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าแบบไหน และมีขนาดเท่าไหร่ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานภายในคอนโด


ประเภทของเครื่องซักผ้า

เมื่อคุณเช็คลิสต์สิ่งที่ควรรู้เบื้องต้นแล้ว ก่อนที่จะไปดูว่าเครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนเหมาะสำหรับใช้งานในคอนโด มาทำความรู้จักประเภทของเครื่องซักผ้ากันก่อน ซึ่งเครื่องซักผ้าแต่ละประเภทก็จะมีรูปแบบ ข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป เครื่องซักผ้าในปัจจุบันจะมีด้วยกัน 2 ประเภทหลักๆ นั่นก็คือ เครื่องซักผ้าฝาหน้า และเครื่องซักผ้าฝาบน


เครื่องซักผ้าฝาหน้า

เครื่องซักผ้ารูปแบบนี้ จะมีฝาสำหรับเปิด - ปิด อยู่ที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง โดยจะปั่นผ้าเป็นลักษณะหมุนตามแนวนอน เครื่องซักผ้าฝาหน้า จะเน้นเรื่องประสิทธิภาพการซักทำความสะอาดผ้าเป็นหลัก นอกจากนี้ยังสามารถปรับอุณหภูมิของน้ำได้อีกด้วย (มีระบบการซักด้วยน้ำร้อน น้ำอุ่น และน้ำเย็น) แต่เพราะจุดเด่นที่เน้นเรื่องของความสะอาดของผ้าเป็นหลัก จึงทำให้การซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าฝาหน้าจะใช้เวลาในการซักที่นาน (เวลาในการซักผ้าจะใช้เวลาประมาณ 120 นาทีขึ้นไป) ซึ่งทำให้ผ้าที่ซักเสร็จสะอาดเหมือนกับการซักด้วยมือ

นอกจากนั้นแล้วเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ายังมาพร้อมกับขนาดที่กำลังพอดีไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในคอนโด รวมทั้งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ามักจะเป็นแบบ 2IN1 คือสามารถซัก และปั่นแห้งได้ในตัว จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของชาวคอนโดที่เน้นความสะดวก และรวดเร็ว


เครื่องซักผ้าฝาบน

เครื่องซักผ้ารูปแบบนี้จะมีฝาเปิด - ปิดอยู่ที่ด้านบน และมีรูปแบบการปั่นผ้าตามแนวตั้งซึ่งจะต่างจากเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่หมุนตามแนวนอน โดยตัวถังของเครื่องซักผ้าจะมีขนาดใหญ่ ทำให้สามารถใส่เสื้อผ้าได้จำนวนมากตามขนาดความจุของถังซักที่คุณเลือก เครื่องซักผ้าฝาบนมีให้เลือกทั้งแบบถังเดี่ยว และแบบถังคู่ ซึ่งเครื่องซักผ้าแบบถังคู่จะแยกระหว่างถังซัก และถังปั่นแห้งออกจากกัน จึงทำให้ผ้ามีความสะอาดมากกว่าแบบถังเดี่ยว

เครื่องซักผ้าฝาบน เป็นเครื่องซักผ้าที่สามารถใช้งานได้ง่าย มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย และใช้เวลาในการปั่นผ้าที่น้อยกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า ส่วนขนาดของเครื่องซักผ้าฝาบนแบบถังเดี่ยวจะมีขนาดที่เล็กกว่าแบบถังคู่ เพราะว่าแบบถังคู่จะมีถังซัก และถังปั่นที่แยกกัน ทำให้มีขนาดของตัวเครื่องที่ใหญ่มากกว่า ส่วนเรื่องการทำงานแบบ 2IN1 จะมีเฉพาะในเครื่องซักผ้าแบบถังเดี่ยว


เครื่องซักผ้าคอนโด ยี่ห้อไหนดีที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

เครื่องซักผ้าสำหรับคนที่อยู่คอนโด ควรเป็นเครื่องซักผ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับห้อง และจุดที่ต้องการติดตั้งเครื่องซักผ้า หากมีพื้นที่กว้างประมาณ 40 - 45 cm ควรจะใช้เป็นเครื่องซักผ้าฝาบน หรือหากมีพื้นที่กว้างประมาณ 48 - 60 cm ก็สามารถเลือกเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้าได้ แต่ถ้ามีพื้นที่กว้างน้อยกว่า 40 cm ก็อาจจะเลือกเป็นเครื่องซักผ้าที่มีขนาดเล็กได้ โดย โกลบอลเฮ้าส์ ขอแนะนำเครื่องซักผ้าที่เหมาะสำหรับใช้งานในคอนโด แต่จะมีรุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนดีบ้างนั้น มาดูกันเลย!!


เครื่องซักผ้าฝาหน้า สำหรับชาวคอนโด

สำหรับใครที่มีพื้นที่กว้างประมาณ 48 - 60 cm หากคุณต้องการเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งการซัก และปั่นในเครื่องเดียว ควรจะเลือกเครื่องซักผ้าที่สามารถจุผ้าได้ประมาณ 7 - 8 kg ก็จะเป็นขนาดที่กำลังพอดีไม่ใหญ่จนเกินไป แต่ก็ยังสามารถซักเสื้อผ้าได้จำนวนเยอะ เครื่องซักผ้าฝาหน้าที่เหมาะสำหรับใช้งานคอนโด เช่น

  • HAIER รุ่น HW70-BP10829 เป็นเครื่องซักผ้าขนาด 7 kg ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายถึง 14 โปรแกรม และยังเป็นเครื่องซักผ้าระบบอินเวอร์เตอร์ ที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าไฟ และทำงานได้เงียบ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าเสียงเครื่องซักผ้าจะดังรบกวนขณะใช้งาน ซึ่งตอบโจทย์สำหรับชาวคอนโดมากๆ
  • SAMSUNG รุ่น WW70T3020WW/ST เครื่องซักผ้าตัวนี้สามารถจุเสื้อผ้าได้ 7 kg มาพร้อมกับโปรแกรม Quick Wash ที่จะช่วยให้สามารถซักผ้าได้รวดเร็วภายใน 18 นาที ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการซักแบบด่วน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอ LED ที่ช่วยบอกสถานะการใช้งาน และระบบอินเวอร์เตอร์ดิจิทัล ที่จะช่วยให้เครื่องซักผ้าทำงานได้เงียบขึ้นกว่าระบบเดิม
  • BEKO รุ่น WCV8612X0ST เครื่องซักผ้าขนาด 8 kg มีระบบไอน้ำที่ช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกก่อนที่จะซัก และสำหรับใครที่เร่งรีบก็มีโปรแกรมซักผ้าแบบด่วน ที่สามารถซักผ้าขนาด 2 กิโลกรัมได้ภายใน 14 นาที และซักผ้าเต็มถังได้ภายใน 28 นาที ด้วยระบบ Fast+ ที่ทำให้ซักผ้าได้เร็วขึ้นถึง 55% จึงช่วยประหยัดเวลาในการซักผ้าได้ดียิ่งขึ้น


เครื่องซักผ้าฝาบนแบบถังเดี่ยว สำหรับชาวคอนโด

เครื่องซักผ้าฝาบนมีทั้งแบบถังเดี่ยว และถังคู่ สำหรับคนที่อยู่คอนโดเครื่องซักผ้าฝาบนควรเลือกที่สามารถจุผ้าได้เยอะตามความถี่ในการใช้งานเครื่องซักผ้า และปริมาณเสื้อผ้าของคุณ โดยควรเลือกที่สามารถจุเสื้อผ้าได้ประมาณ 10 kg ขึ้นไป แต่ไม่ควรเลือกขนาดที่เกินกว่า 14 kg เพราะจะมีขนาดใหญ่เกินไป สำหรับรุ่นเครื่องซักผ้าถังเดี่ยวที่แนะนำสำหรับชาวคอนโด เช่น

  • SAMSUNG รุ่น WA12T5260BY/ST เป็นเครื่องซักผ้าขนาด 12 kg ที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยในการถนอมผ้า และช่วยในการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องของคราบสิ่งสกปรกที่ตกค้าง นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับระบบกรองที่ช่วยดักจับเศษสิ่งสกปรกต่างๆ และเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 40%
  • HAIER รุ่น HWM100-1826T เป็นเครื่องซักผ้าขนาด 10 kg ที่มีระบบ Power Flow ที่ช่วยให้ทำงานได้อัตโนมัติ และสามารถซักผ้าได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะเกิดปัญหาไฟตก ไฟกระชาก อีกทั้งยังมีโปรแกรมที่ช่วยซักผ้าแบบด่วนภายใน 12 นาทีอีกด้วย
  • TCL รุ่น F312TLG เครื่องซักผ้าขนาด 12 Kg มาพร้อมกับฟังก์ชันที่หลากหลาย และสามารถทำการตั้งเวลาซักล่วงหน้าได้สูงสุด 24 ชั่วโมง ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่ให้ความสะดวกสบายแก่คุณได้มาก ตัวถังซักถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการซักผ้า อีกทั้งยังช่วยในการถนอมผ้าอีกด้วย


เครื่องซักผ้าฝาบนแบบถังคู่ สำหรับชาวคอนโด

  • SAMSUNG รุ่น WT14B5040BA/ST เป็นเครื่องซักผ้าขนาด 14 kg มีตัวใบพัดเป็นแบบ Power Storm ที่ช่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น ไม่ทำให้ผ้าพันกันจนยับ และสำหรับการปั่นแห้งก็มีโปรแกรม Air Turbo Drying ที่ช่วยทำให้ผ้าแห้งไว ไร้กลิ่นอับ เหมาะสำหรับชาวคอนโดที่ต้องตากผ้าในที่ร่ม หรือในบริเวณที่จำกัด
  • LG รุ่น TT12WARG เครื่องซักผ้าขนาด 12 kg ที่มีจานในการซักผ้าแบบ Roller Jet ที่ช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรก และถนอมผ้าได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเลือกโปรแกรมในการซักให้เหมาะกับชนิดของเสื้อผ้าได้ถึง 3 รูปแบบ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าเสื้อผ้าจะเสียหาย

เครื่องซักผ้าที่เหมาะสำหรับใช้งานในคอนโด ควรจะเลือกตามขนาดของพื้นที่ภายในห้องที่จะติดตั้งเครื่องซักผ้า และความถี่ในการใช้งาน นอกจากนี้เครื่องซักผ้าที่เหมาะสำหรับชาวคอนโดควรเป็นเครื่องที่ทำงานได้เงียบ เพราะหากมีเสียงดังเกินไปอาจจะรบกวนทั้งคุณ และรบกวนผู้อยู่อาศัยห้องอื่นได้


รวมไอเทมราวตากผ้าคอนโด

โกลบอลเฮ้าส์ ขอรวมไอเทมราวตากผ้าคอนโด ตากได้เยอะ แห้งไว แม้พื้นที่จำกัดมาฝาก!! เพราะนอกจากการมีเครื่องซักผ้าที่เหมาะสมกับพื้นที่ห้อง และการใช้งานแล้ว การมีราวตากผ้าที่เหมาะสมกับพื้นที่ห้องสำหรับชาวคอนโดก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ด้วยลักษณะของระเบียงของคอนโดมิเนียมมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นชาวคอนโดจึงจำเป็นต้องเลือกราวตากผ้าที่มีดีไซน์ และมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งโดยปกติแล้วราวตากผ้าคอนโดจะถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด พร้อมกับฟังก์ชันที่คุณสามารถพับเก็บง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก และติดตั้งในพื้นที่จำกัด โดยสามารถนำไปวางไว้ภายในห้อง หรือจะนำไปวางไว้ในบริเวณนอกระเบียง เพื่อตากผ้าให้แห้งได้เช่นเดียวกัน

หากใครที่มีพื้นที่ห้องมากควรเลือกเครื่องซักผ้าที่สามารถซักได้ปริมาณเยอะๆ และสามารถซักผ้าได้เร็วขึ้นเพื่อประหยัดเวลาในการซัก หรือจะซื้อ เครื่องอบผ้า ซึ่งทางโกลบอลเฮ้าส์ได้มีรุ่นแนะนำ สามารถอ่านเพิ่มได้ที่บทความ เครื่องซักผ้าอบผ้า นี้ได้ และหากใครที่ยังตัดสินใจเลือกซื้อไม่ได้ระหว่าง เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าและฝาบน เพื่อไขข้อสงสัยให้กับคุณ สามารถอ่านเพิ่มได้ที่บทความ เครื่องซักผ้าฝาหน้ากับฝาบน ต่างกันยังไง และที่สำคัญที่สุดการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่คุ้มค่า ควรเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่มีบริการหลังการขายดีๆ เหมือนที่โกลบอลเฮ้าส์!!


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องซักผ้า โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

นอกจากเครื่องซักผ้าที่โกลบอลเฮ้าส์นำมาแนะนำเบื้องต้นแล้ว ก็ยังมีเครื่องซักผ้าอีกหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปเลือกดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Global House และถ้าใครอยากจะเข้าไปดูสินค้าจริง ไปลองสัมผัส ลองเลือกดู ก็สามารถไปที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้เลย ซึ่งจะมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม และช่วยแนะนำสินค้า

นอกจากนั้นยังมี บริการติดตั้ง และบริการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ และถ้าใครที่ไม่อยากออกมาช้อปเอง ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้ง่ายๆ แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดคุ้ม และ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากสินค้าเหล่านี้แล้ว โกลบอลเฮ้าส์ ก็ยังมีสินค้าเกี่ยวกับบ้านอีกมากมายที่ขนมาให้คุณได้เลือกแบบครบครัน!!


Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว

เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่




เนื้อหาที่คล้ายกัน