img


รวมสาเหตุ ตู้เย็นไม่เย็น ก่อนพลาดไม่รู้ตัว !!

ตู้เย็นเรียกได้ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับทุกบ้าน เพราะตู้เย็นจะทำหน้าที่ในการสร้างความเย็นเพื่อช่วยยืดอายุผักผลไม้และของสด ลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในอาหารที่ปรุงสุก ใครที่กำลังเจอกับปัญหา ตู้เย็นไม่เย็น หรือมีความเย็นไม่เพียงพอต่อปริมาณของที่แช่ ส่งผลให้อาหารและของกินต่างๆ ภายในตู้เกิดการเน่าเสียเร็วขึ้น เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดสำหรับพ่อบ้าน-แม่บ้านที่ทำอาหารอยู่เป็นประจำ 

วันนี้ โกบอลเฮ้าส์ ขอรวมสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้ตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไรบ้าง และการแก้ไขปัญหาตู้เย็นไม่เย็นเบื้องต้น ที่จะทำให้ตู้เย็นของคุณสามารถปล่อยความเย็นออกมาได้อย่างเต็มที่ เพียงเท่านี้คุณก็จะใช้งานตู้เย็นได้อย่างไร้กังวล!!


รวม 10 สาเหตุตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไรบ้าง

ตู้เย็นไม่เย็น ถือว่าเป็นปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่สำหรับพ่อบ้าน-แม่บ้าน ที่จะต้องคอยดูแลเรื่องอาหารการกินของคนในบ้าน เพราะอาหารบางประเภทจะต้องแช่ในอุณหภูมิที่เย็นมากๆ ถ้าตู้เย็นมีความเย็นไม่เพียงพอ อาจจะทำให้อาหารมีโอกาสเกิดเชื้อแบคทีเรียสูง ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขอนามัยของผู้รับประทาน มาดูกันดีกว่าว่าตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไรมีสาเหตุใดบ้าง


1. แช่ของจนแน่นตู้เย็น


ตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไร สาเหตุแรกที่แนะนำคือ การแช่ผักผลไม้และของสดไว้ในตู้เย็น เป็นการป้องกันไม่ให้อาหารเกิดการเน่าเสีย แต่ถ้าคุณใส่ของกินทุกประเภทเข้าไปอัดแน่นอยู่ภายในตู้เย็น เรียกได้ว่า ไม่มีช่องว่างในตู้เย็น หากคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ต้องรีบหยุดก่อน การที่คุณใส่ของแช่ตู้เย็นเต็มตู้ จะทำให้ไม่มีพื้นที่สำหรับความเย็นกระจายได้อย่างทั่วถึง แถมยังมีโอกาสที่ของกินเหล่านั้น จะไปปิดช่องแอร์ส่งผลให้ตู้เย็นทำงานหนัก แนะนำให้แยกประเภทของอาหารว่า อันไหนสามารถอยู่ในห้องอุณหภูมิปกติได้ก็ไม่ต้องนำไปแช่เย็น เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ภายในตู้เย็น เมื่อต้องการเก็บอาหารที่ทำแล้วเอาไว้กินในมื้อถัดไป ควรหา กล่องเก็บอาหาร หรือใช้ ฟิล์มถนอมอาหาร มาแรปห่ออาหารจานนั้นเอาไว้ เพื่อลดการเกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ สำหรับใครที่ไม่ได้ตั้งใจจะแช่ของจนเต็มตู้ แต่จริงๆ แล้วตู้เย็นมีขนาดที่ไม่เพียงพอสำหรับสมาชิกในบ้านของคุณ การซื้อตู้เย็นใหม่ให้มีในขนาดที่ใหญ่ขึ้น ถือว่าเป็นทางออกที่ดี และไม่ต้องกังวลเรื่องเปลืองค่าไฟ เพราะการที่คุณแช่ของในตู้เย็นในปริมาณมากๆ ยิ่งจะทำให้กินไฟมากขึ้น


2. ไม่ได้ยินเสียงคอมเพรสเซอร์ทำงาน


ใครที่กำลังเปิดใช้งานตู้เย็น รู้สึกว่าทำไมข้างในตู้ไม่เย็น หรือเย็นน้อยกว่าปกติ คิดว่าสงสัยแช่ของในตู้มากเกินไปเลยปรับระดับอุณหภูมิให้เย็นสุด พอกลับไปเช็กอีกรอบ สรุปว่า ตู้เย็นไม่เย็น แนะนำให้คุณใช้ วิธีฟังว่าตู้เย็นมีเสียงหรือไม่ ถ้าคุณไม่ได้ยินเสียงตู้เย็นเป็นไปได้ว่าคอมเพรสเซอร์เสีย ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ เพราะถ้าคอมเพรสเซอร์เสีย ตู้เย็นจะไม่มีลมแอร์ หรือลมที่มีความเย็นออกมา คุณควรรีบเคลียร์ของในตู้เย็น หรือกำจัดอาหารประเภทที่เน่าเสียง่ายก่อนเลย หลังจากนั้นให้คุณติดต่อช่างให้มาทำการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง การที่คอมเพรสเซอร์มีปัญหา จะต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญมาเปลี่ยน หรือซ่อมให้จะดีที่สุด เพราะถ้าหากคุณลองทำเองโดยที่ไม่มีความชำนาญ อาจเกิดความเสียหายต่อตู้เย็นได้อีกด้วย


3. ขอบยางของตู้เย็นหมดอายุขัย


ตู้เย็นที่บ้านของใครที่ใช้มานานหลาย 10 ปีแล้ว ให้คุณลองเอามืออังบริเวณขอบของตู้เย็น ถ้ามือของคุณสัมผัสกับความเย็น เป็นไปได้ว่าขอบยางตู้เย็นคุณกำลังจะหมดอายุขัย หรือเสื่อมสภาพ ทำให้ประตูตู้เย็นปิดไม่สนิท วิธีแก้ไขเบื้องต้น ให้คุณถอดปลั๊กตู้เย็นก่อน หลังจากนั้นให้นำผ้าชุบกับน้ำร้อนๆ แล้วนำมาแนบกับขอบยางที่มีลมเย็นรั่วไหลออกมา และปล่อยทิ้งเอาไว้สักพักเพื่อให้ยางปรับสภาพ

โดยสามารถทดสอบด้วยการหากระดาษบางๆ ที่มีความแข็งแต่ไม่คม มารูดตามซอกของประตู ถ้าสอดไปแล้วลอดผ่านได้ แปลว่าขอบยางตู้เย็นมีปัญหา คุณสามารถหาซื้อขอบยางมาเปลี่ยนได้ หรือติดต่อช่างผู้ชำนาญมาตรวจสอบจะดีที่สุด


4. ปิดประตูตู้เย็นไม่สนิท


ตู้เย็นปิดไม่สนิท ปัญหานี้ถือว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ใครที่ชอบปิดประตูตู้เย็นไม่สุดแล้วปล่อยให้ประตูปิดไปเอง พอเปิดตู้เย็นอีกครั้งของที่แช่เอาไว้ก็ละลาย สูญเสียความเย็นไปหมด เพราะการที่คุณปล่อยให้ประตูปิดตามแรงโน้มถ่วง จะขึ้นอยู่กับของที่ใส่ภายในตู้ว่ามีน้ำหนักมากเท่าไหร่ หากมีของเยอะจะช่วยสร้างแรงถ่วงให้ประตูปิดเข้าไปหาตัวตู้เย็น แต่ถ้าคุณยังติดพฤติกรรมให้ประตูปิดเองอยู่ เมื่อไหร่ที่คุณเผลอเคลียร์ตู้เย็นไป ทำให้ตัวตู้เบาลง ประตูก็จะไม่มีทางปิดสนิท เพราะประตูตู้เย็นมีน้ำหนักมากกว่าของที่อยู่ในตู้เย็น ทำให้ประตูจะไม่ไหลตามแรงโน้มถ่วง ทางที่ดีต้องเลิกพฤติกรรมปล่อยให้ประตูให้ไหลปิดเอง โดยทุกครั้งที่คุณปิดประตูจะต้องดันให้สุด แต่ถ้าหากคุณกลัวว่าจะเผลอปิดประตูตู้เย็นแบบเดิม ให้แก้โดยการปรับช่วงด้านล่างข้างหน้าของตู้เย็นให้สูงขึ้นไม่เกิน 3 เซนติเมตร พอด้านหน้าเชิดขึ้นจะทำให้ตู้เย็นปิดได้สนิทตามแรงโน้มถ่วงอย่างแน่นอน


5. ไม่เคยทำความสะอาดตู้เย็น


ถ้าเป็น ตู้เย็นแบบ 1 ประตู ที่มีช่องฟรีซอยู่ช่วงบน อาจจะมีปัญหาน้ำแข็งเกาะบ่อยมากที่สุด สำหรับใครที่ไม่ชอบทำความสะอาดตู้เย็น เพราะถ้าคุณไม่เคลียร์ช่องฟรีซเลย น้ำแข็งจะเกาะหนาขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นที่จะหยิบจะวางของกินอะไรก็ไม่สะดวก ทำให้ตู้เย็นทำงานหนักมากขึ้น แนะนำให้คุณทำการละลายน้ำแข็งอย่างน้อย 2 - 3 เดือนต่อครั้งจะดีที่สุด เพราะถ้ารอให้น้ำแข็งเกาะเยอะๆ แล้วค่อยมาทำการละลายมีโอกาสที่ถาดรองน้ำจะไม่เพียงพอกับปริมาณน้ำที่ละลายออกมา ทำให้น้ำล้นออกจากถาด คุณก็ต้องคอยซับน้ำที่ขังอยู่ตามพื้น หรือคอยดูน้ำในถาด พอใกล้จะเต็มให้เทน้ำทิ้งก่อน แต่ถ้าใครที่ใช้ตู้เย็นแบบ 2 ประตู แล้วเจอปัญหาช่องฟรีซมีน้ำแข็งเกาะที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งของตู้ อาจเป็นปัญหาทางเทคนิค แนะนำให้คุณโทรติดต่อช่าง เพื่อให้ช่างมาทำการตรวจสอบ


6. เกิดความผิดพลาดระหว่างขนย้าย
ใครที่กำลังตื่นเต้นกับตู้เย็นใหม่ที่กำลังเดินทางมา เมื่อตู้เย็นมาถึงให้ทำการเสียบปลั๊กทิ้งเอาไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อปล่อยให้น้ำยาของคอมเพรสเซอร์ทำงาน โดยที่คุณจะต้องไม่ไปเปิดประตูตู้เย็นเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะทำให้ภายในตู้สูญเสียความเย็น เมื่อครบเวลากำหนดให้คุณลองเปิดตู้เย็นดู หากรู้สึกว่าไม่มีความเย็นในตู้เลย เป็นไปได้ว่าเกิดจากความผิดพลาดระหว่างที่ขนย้ายตู้เย็น ซึ่งระหว่างขนย้ายตู้เย็นจะต้องไม่เอียงเป็นแนวนอน ไม่อย่างนั้นน้ำยาจะไหลย้อนออกมา แนะนำให้ปล่อยทิ้งเอาไว้ก่อนสัก 24 ชั่วโมง ค่อยเสียบปลั๊กใหม่ แต่ถ้ายังไม่มีความเย็นออกมา ให้ติดต่อกลับไปที่ทางบริษัทที่จำหน่ายโดยเร็วที่สุด


7. เซนเซอร์ตรวจจับน้ำแข็งเสียหาย

หน้าที่ของเซนเซอร์ตรวจจับน้ำแข็ง หรือตรวจจับอุณหภูมิภายในช่องฟรีซ เมื่ออุณหภูมิต่ำถึงจุดที่กำหนด เซนเซอร์จะส่งสัญญาณไปยังคอมเพรสเซอร์เพื่อหยุดการทำงาน ป้องกันไม่ให้เกิดน้ำแข็งเกาะหนาเกินไป เมื่อเซนเซอร์ส่วนนี้เสียหายจะส่งผลให้ตู้เย็นไม่เย็น หรือเย็นน้อยลง น้ำแข็งเกาะหนาผิดปกติ และทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน ปัญหานี้แนะนำให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอาการชำรุด หรือเปลี่ยนเซนเซอร์ชุดใหม่ จะช่วยแก้ปัญหาตู้เย็นไม่ค่อยเย็นได้ทันที


8. นำของร้อนใส่ตู้เย็นทันที

แม้ว่านำของร้อนใส่ตู้เย็นจะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำความเย็นของตู้เย็น เพราะถูกออกแบบมาเพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เย็นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะใส่อาหารร้อนหรือเย็นก็ตาม แต่การใส่อาหารร้อนลงในตู้เย็นอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของตู้เย็นได้ เพราะเมื่อใส่อาหารร้อนอุณหภูมิภายในตู้เย็นจะสูงขึ้น ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เย็น ท้ายที่สุดคอมเพรสเซอร์ก็จะเสื่อมสภาพเร็วก่อนเวลาอันควร จึงเป็นสาเหตุให้ตู้เย็นไม่ค่อยเย็น ทางที่ดีควรพักอาหารให้เย็นลงก่อนหรืออาจใช้ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดเพื่อกักเก็บความร้อนก่อนนำใส่ตู้เย็น เพื่อไม่ให้ความร้อนกระจายไปยังอาหารอื่นๆ ในตู้เย็น


9. ตั้งตู้เย็นติดผนังบ้านมากเกินไป

หลายคนอาจมองว่าการตั้งตู้เย็นติดผนังช่วยประหยัดพื้นที่ภายในบ้านและสร้างความสวยงามให้กับห้องครัวได้ แต่การตั้งตู้เย็นจนชิดติดผนังเกินไปเป็นสาเหตุให้ตู้เย็นไม่ค่อยเย็น เพราะไม่สามารถระบายความร้อนได้อย่างเต็มที่ จนตู้เย็นสะสมความร้อนเอาไว้เกินมาตรฐาน ขอแนะนำให้เว้นช่องว่างระหว่างตู้เย็นกับผนังอย่างน้อย 5 เซนติเมตร เพื่อการระบายอากาศที่ดี


10. เปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้บ่อยๆ

สุดท้าย หากจะถามตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไร การเปิดปิดประตูตู้เย็นบ่อยๆ มักจะเป็นสาเหตุที่คยส่วนใหญ่มองข้ามปัจจัยนี้ไป บางครั้งก็เผลอเปิดไว้จนลืม ปัจจัยนี้ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาความเย็น มากไปกว่านั้นความชื้นจากอากาศภายนอกจะเข้าไปในตู้เย็น จะทำให้เกิดน้ำแข็งเกาะภายในช่องฟรีซ ซึ่งนอกจากจะทำให้ตู้เย็นไม่เย็นแล้วยังทำให้เกิดการกินไฟมากขึ้นอีกด้วย


เลือกใช้ตู้เย็นที่มี Inverter Compressor


ปกติคอมเพรสเซอร์ มีหน้าที่ในการทำความเย็นให้กับตู้เย็นของคุณ และถ้ายิ่งมีระบบอัจฉริยะอย่างระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) จะทำให้ตัวมอเตอร์หมุนในรอบที่เร็วกว่า เมื่อไหร่ที่คุณปรับความเย็นในตู้ให้เย็นมากขึ้น ตัวระบบอินเวอร์เตอร์จะช่วยเร่งมอเตอร์ ให้ทำอุณหภูมิไปถึงจุดที่ต้องการได้ ไม่ต้องกังวลว่าในช่องแช่เย็นจะมีปัญหาน้ำแข็งเกาะแน่น หรือช่องธรรมดาที่แช่ของจะเย็นจนเกินไป เพราะระบบอินเวอร์เตอร์จะช่วยลดรอบการทำงานของมอเตอร์เมื่ออุณหภูมิไปถึงที่กำหนด แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณเปิดประตูตู้เย็น ระบบก็จะสั่งให้มอเตอร์เร่งความเย็น เพื่อเป็นการชดเชยความเย็นที่รั่วไหลออกไป ถือว่าเป็นการรักษาความเย็นให้สม่ำเสมอได้ดีกว่าตู้เย็นแบบธรรมดา เรียกได้ว่าเป็นระบบที่ควรมีติดตู้เย็น นอกจากนี้ยังช่วยลดเสียงของมอเตอร์จากการทำงาน และยังสามารถควบคุมแรงดันไฟฟ้าในตัว ส่งผลให้เกิดความเสถียร แถมยังเป็นการยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้น เพียงเท่านี้คุณก็จะไม่ต้องเจอกับปัญหาที่ ตู้เย็นไม่เย็น ให้เป็นกังวลใจ เพราะระบบอินเวอร์เตอร์ช่วยสร้างความเย็นได้อย่างทั่วถึง


ทริคในการใช้ตู้เย็นให้อายุยืนยาว

  • วางตู้เย็นในระยะที่เหมาะสม การเลือกพื้นที่ในการวางตู้เย็นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะภายนอกของตัวเครื่องบริเวณด้านหลังของตู้เย็น จะมีคอยล์ร้อนอยู่ จึงต้องวางห่างจากผนังประมาณ 20 เซนติเมตร ไม่ควรวางของปิดกั้นด้านหลัง ไม่อย่างนั้นจะทำให้ตู้เย็นระบายความร้อนได้ไม่ดี
  • ห้ามแช่ของที่มีความชื้นสัมพัทธ์สูง สำหรับใครที่ชอบกินน้ำเหลือในแก้วแล้วเอาไปแช่ในตู้เย็น หรือมักแช่ของที่มีความชื้นสูง จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก และกินไฟมากขึ้น เพราะจะต้องเปลี่ยนให้ความชื้นนั้นแห้งเสียก่อน
  • ไฟตกต้องถอดปลั๊ก เปิดตู้เย็นแล้วเห็นว่าไฟกะพริบ หรือว่าได้ยินเสียงมอเตอร์ทำงานช้าผิดปกติ อาจเป็นไปได้ว่าไฟกำลังตก ให้คุณรีบถอดปลั๊กออก เพราะถ้าใช้งานตู้เย็นต่อไป อาจทำให้มอเตอร์เสียหายจากไฟที่กระชากไปมาได้
  • ห้ามแช่แข็งน้ำที่มีแรงอัดสูง เครื่องดื่มอัดแก๊ส อย่างน้ำอัดลม หรือเบียร์ เมื่อไหร่ที่โดนกับความเย็นสุดๆ จะทำให้เกิดแรงดันแล้วระเบิดออกมา ส่งผลให้ช่องแช่แข็งเสียหาย และต้องมาทำความสะอาดอีกด้วย
  • ไม่ควรนำของที่ร้อนเข้าตู้เย็นเลย ใครที่กังวลว่าอาหารที่เพิ่งทำใหม่สดๆ ร้อนๆ จะบูด ก็เลยเอาเข้าตู้เย็นไปก่อน เป็นวิธีที่ไม่ควรทำ เพราะความร้อนที่เข้าไปอยู่ในตู้เย็นอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ตัวเครื่องต้องเร่งความเย็นมากกว่าปกติ คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก เกิดการกินไฟมากขึ้น ทางที่ดีควรพักอาหารที่ร้อนเอาไว้ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง จึงเอาเข้าตู้เย็น
  • แยกปลั๊กสำหรับตู้เย็น การเปิดใช้งานตู้เย็น จะต้องมีปลั๊กติดผนังเสียบต่างหาก เป็นการต่อตรงเข้ากับไฟบ้าน เพราะด้วยตัวเครื่องมีลักษณะในการใช้กำลังไฟที่ค่อนข้างเยอะ ไม่ควรใช้ปลั๊กของตู้เย็นร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น เพื่อป้องกันการเกิดไฟตก และไฟกระชาก


ปัญหา ตู้เย็นไม่เย็น เป็นอะไรที่กวนใจสุดๆ เพราะคุณจะต้องคอยสังเกตอาหารที่นำไปแช่ในตู้ให้ดี ถ้าความเย็นไม่เพียงพอ คุณก็จะต้องมาเคลียร์ของกินที่เน่าเสียอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าหากคุณรู้ว่า พฤติกรรมแบบไหนที่เป็นตัวกระตุ้นให้ตู้เย็นไม่สามารถปล่อยความเย็นออกมาได้อย่างเต็มที่ อย่างเช่น การแช่ของจนแน่นตู้เย็น หรือว่าไม่ชอบดันประตูตู้เย็นให้ปิดสนิท ก็จะต้องปรับพฤติกรรมเหล่านี้ รวมไปถึงสาเหตุที่เป็นปัญหาจากตัวเครื่อง อย่างคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน หรือตู้เย็นมีอายุการใช้งานมานาน ส่งผลให้ขอบยางเสื่อมสภาพ คุณอาจจะต้องพึ่งพาช่างผู้เชี่ยวชาญให้มาตรวจสอบปัญหาตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไร ดูที่ตัวมอเตอร์ว่าทำงานผิดปกติไหม น้ำยาตู้เย็นกำลังหมดหรือไม่ ถ้าใครที่ไม่มั่นใจ กลัวว่าจะเปลี่ยนขอบยางตู้เย็นได้ไม่เรียบร้อย ก็สามารถให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาติดตั้งให้ เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถใช้งานตู้เย็นได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องพะวงว่าตู้เย็นจะส่งกลิ่นเหม็นของอาหารที่เน่าเสียอีกด้วย


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับตู้เย็น โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

ถ้าคุณรู้แล้วว่าสาเหตุที่ ตู้เย็นไม่เย็นเกิดจากอะไร จะต้องแก้ไขยังไง ทำให้คุณสามารถใช้งานตู้เย็นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น ก็อย่าลืมคำนึงถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกอย่างเลย นั่นก็คือ ตู้เย็น ว่ามีนวัตกรรมใหม่ๆ มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายและตอบโจทย์แก่ผู้ใช้งาน หรือมีขนาดที่พอเหมาะสำหรับสมาชิกในครอบครัวของคุณแล้วหรือยัง หากคุณเกิดข้อสงสัยในส่วนนี้ สามารถไปดูสินค้าจริงได้เลยที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม หรือจะช้อปออนไลน์ก็ง่าย สบายกระเป๋า ผ่อนก็คุ้มกับโกลบอลเฮ้าส์ ที่ให้ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากตู้เย็น ทาง Global house เอง ยังให้บริการจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้านที่ดีด้วย A Better Choice for A Better Home


Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว


เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่

Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์

Line@: @globalhouse

TikTok: globalhouseofficial

App Click&Collect


บริการช่างดี

App ช่างดี

Web ช่างดี บริการติดตั้ง

Facebook: ChangDeeService

Line Official: @Changdee




เนื้อหาที่คล้ายกัน