img


วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง ฉบับมือโปรทำเองได้ไม่แพ้ช่าง!!

คุณล้างแอร์ล่าสุดเมื่อไหร่? สังเกตไหมว่า หลังจากที่คุณล้างแอร์รอบล่าสุดแล้วและใช้แอร์มาเป็นระยะเวลานาน แต่แอร์ของคุณก็ปล่อยความเย็นออกมาได้ไม่เต็มที่ นั่นเพราะว่ามีฝุ่นไปเกาะแน่นอยู่ที่ฟิลเตอร์กับคอยล์เย็น พอคุณเปิดแอร์ยิ่งในช่วงหน้าร้อนแล้วนั้น ไม่ใช่ว่าแอร์ของคุณสู้กับความร้อนไม่ไหว แต่แอร์ของคุณปล่อยลมเย็นออกมาได้ไม่เต็มที่เท่านั้น หรือใครที่เพิ่งล้างแอร์ไปได้แค่ 2 เดือน แต่แอร์ยังมีกลิ่นเหม็นอับอยู่

วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ จะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับการล้างแอร์ และวิธีในการ ล้างแอร์ด้วยตัวเองเบื้องต้น ที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถล้างแอร์ที่บ้านได้อย่างง่ายๆ ไม่ต้องเจอกับปัญหาแอร์ไม่เย็น หรือแอร์มีกลิ่นเหม็นอับอีกต่อไป!!!


ความถี่ในการล้างแอร์

ความเหมาะสมในการล้างแอร์ อย่างน้อยควรจะอยู่ที่ทุกๆ 6 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในการใช้งานแอร์ ว่าคุณเปิดใช้งานบ่อยมากแค่ไหน แล้วห้องที่คุณเปิดเป็นห้องประเภทใด มีคนอาศัยอยู่ภายในห้องนั้นหลายคนหรือเปล่า สามารถดูได้จากการใช้งานดังต่อไปนี้

  • เปิดแอร์วันละ 12 ชั่วโมงขึ้นไป เรียกได้ว่าใช้แอร์หนักเกือบทุกวัน เช่น ห้องนั่งเล่นที่มีสมาชิกครอบครัวประมาณ 4 - 6 คน หรือเป็นห้องที่เปิดแอร์บ่อย และมีสัตว์เลี้ยง แนะนำให้ล้างแอร์อย่างน้อย 3 หรือ 4 เดือนต่อครั้ง เพราะจะทำให้แอร์ของคุณ ไม่มีสิ่งสกปรกอย่างฝุ่น หรือขนสัตว์เกาะสะสมอยู่ที่ฟิลเตอร์กับคอยล์เย็น ทำให้แอร์ของคุณสะอาดตลอดเวลา ช่วยประหยัดค่าไฟ แต่ก็อาจจะเสียค่าล้างแอร์ต่อปีสูงขึ้น
  • เปิดแอร์วันละ 7 - 10 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาปกติของทุกบ้านที่เปิดแอร์กัน สำหรับใครที่อาจจะเปิดแอร์ในห้องนอน แนะนำให้ล้างแอร์อย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง เพราะนอกจากแอร์ของคุณจะสะอาดแล้ว ยังทำให้อากาศภายในห้องนั้นดีขึ้น แถมยังถือว่าเป็นการยืดอายุการใช้งานของเครื่อง ลดปัญหาการสะสมฝุ่นละออง การอุดตัน และไม่ทำให้น้ำแอร์หยดอีกด้วย
  • ไม่ค่อยได้เปิดแอร์ สำหรับใครที่มีห้องนอนไว้สำหรับรองรับแขก หรือห้องสำรองห้อง แน่นอนอยู่แล้วว่าแอร์จะได้เปิดใช้ก็ต่อเมื่อมีผู้มาเยือน แนะนำให้คุณล้างแอร์อย่างน้อยปีละครั้ง ควรเช็ดทำความสะอาดหน้ากากแอร์อย่างน้อยเดือนละครั้ง และเปิดแอร์ทิ้งเอาไว้สักประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง เป็นการให้มอเตอร์แอร์ทำงาน แถมเป็นการตรวจสอบไปในตัวว่า แอร์มีลมเย็นออกมาไหม หรือว่าแอร์มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์หรือเปล่า เวลาที่มีผู้มาเยือนจะได้ไม่เป็นปัญหา และการสร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือน


วิธี ล้างแอร์ด้วยตัวเอง


วิธีที่ 1 - ปัดด้วยแปรง และเช็ดฝุ่น


การใช้แปรงปัด และเก็บงานด้วยการเช็ดฝุ่น เป็นวิธีที่ง่ายมาก มีอุปกรณ์เพียงแค่ แปรงปัดฝุ่น กับ ผ้าไมโครไฟเบอร์ โดยหัวแปรงจะต้องไม่แข็ง หรือนุ่มจนเกินไป ไม่อย่างนั้นจะมีโอกาสทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายภายในห้องของคุณ เพราะหัวแปรงที่อ่อนจนเกินไปจะบังคับได้ยาก แต่ถ้าหาแปรงปัดไม่ได้ ให้ใช้แปรงสีฟันแทน ก่อนที่คุณจะใช้แปรงปัด ก็จะต้องหา แผ่นคลุมขนาดใหญ่ มาบังเฟอร์นิเจอร์บริเวณที่ล้างแอร์ หลังจากนั้นให้ใช้แปรงปัดตามซอกตามมุมจัดการกับฝุ่นให้หมด แล้วจึงเก็บกวาด ทำความสะอาดฝุ่นที่ร่วงอยู่ตามห้องต่อ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ เหมาะสำหรับใครที่ไม่อยากจะใช้น้ำล้างแอร์ให้เลอะเทอะ และเปียกภายในห้อง แต่ว่าใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ ไม่แนะนำให้ใช้วิธีทำความสะอาดแบบนี้ เพราะฝุ่นจะฟุ้งอาจทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบ


วิธีที่ 2 - ใช้น้ำฉีดไล่ฝุ่น


การใช้น้ำฉีดเพื่อไล่ฝุ่นที่แผงคอยล์เย็น คุณจะต้องลาก สายยาง เข้ามาในบ้าน โดยที่สายยางจะต้องต่อกับ หัวฉีดแบบที่ใช้รดน้ำต้นไม้ เพราะจะมีความใกล้เคียงกับที่ช่างแอร์ใช้เครื่องปั๊มน้ำแรงดัน แต่ถ้าไม่สะดวกกับการลากสายยาง แต่มี กระบอกพ่นยา สำหรับต้นไม้ หรือ ฟ็อกกี้ ก็ใช้แทนกันได้ ก่อนล้างแอร์คุณจะต้องหา พลาสติกมารอง เอาไว้ใต้ตัวเครื่อง โดยที่แผ่นพลาสติกนั้นจะต้องไม่มีรูรั่ว ไม่อย่างนั้นน้ำจะหยดเลอะห้อง โดยตอนที่คุณฉีดน้ำเข้าที่คอยล์เย็น ควรฉีดไปทิศทางเดียวกันจากบนลงล่าง ไล่ไปเรื่อยๆ ระวังอย่าให้โดนแผงวงจร หรือพัดลมกรงกระรอกข้างในหมุน เพราะจะทำให้ไฟฟ้าไหลย้อน ส่งผลให้เมนบอร์ดเสียหาย (สำหรับเครื่องปรับอากาศระบบ Inverter) แต่ถ้าเป็นแรงฉีดที่ไม่แรงก็ไม่ต้องกังวล เสร็จแล้วปล่อยไว้ให้แห้งค่อยใช้งาน เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนที่พอจะมีความรู้พื้นฐาน เพราะจะต้องรู้จักข้อควรระวังว่า ส่วนไหนโดนน้ำได้ และไม่ได้ นอกจากจะต้องล้างคอยล์เย็นแล้ว จะต้องออกไปล้างคอยล์ร้อนที่ด้านนอกอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการล้างแอร์ สามารถไปเลือกช้อปออนไลน์ หรือที่โกลบอลเฮ้าส์ทุกสาขา


วิธีที่ 3 - ฉีดสเปรย์โฟม หรือสเปรย์ทำความสะอาด


เป็นวิธี ล้างแอร์ด้วยตัวเอง ที่ง่ายที่สุด แม้แต่คุณผู้หญิงเองก็สามารถทำได้ ซึ่งช่วยกำจัดฝุ่น และกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากเชื้อรา เพื่อคืนบรรยากาศที่สดชื่นให้กับห้องของคุณ สามารถซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้าง หรือจะ สั่งซื้อออนไลน์ เหมาะสำหรับใครที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก ไม่ต้องเสียเวลากับการเก็บทำความสะอาดเศษฝุ่นที่ตกอยู่ในห้อง และไม่ต้องเช็คทำความสะอาดคราบน้ำบนพื้น เป็นการล้างแอร์ที่รวดเร็ว ถ้าพร้อมก็ทำการสับคัทเอาท์ แล้วมาล้างแอร์กันเลย!!


ขั้นตอนที่ 1 - ทำความสะอาดฟิลเตอร์


เริ่มจากการเปิดหน้ากากแอร์ออกมา สำหรับใครที่เปิดไม่เป็น ให้คุณใช้มือทั้ง 2 ข้างจับไปที่ด้านข้างแถวล่างของแอร์ โดยลองคลำหาร่องของฝาหน้าที่ปิดเอาไว้ ถ้าคุณเจอร่องแล้วให้งัดขึ้นพร้อมๆ กันทั้ง 2 ข้าง หน้ากากก็จะเปิดออกมา สิ่งแรกที่คุณเห็นภายในตัวเครื่องจะเป็นฟิลเตอร์ หรือว่าแผ่นกรองอากาศ สำหรับใครที่ไม่ได้ล้างแอร์นาน จะเห็นได้เลยว่าฝุ่นหนาจนเป็นแผ่นๆ ให้คุณดันฟิลเตอร์ขึ้นให้หลุดจากที่ล็อค ก่อน ดึงฟิลเตอร์จากบนลงล่างอย่างช้าๆ เท่านี้คุณก็สามารถถอดฟิลเตอร์ออกมาทำความสะอาดได้แล้ว ให้คุณนำไปล้างด้วยน้ำเปล่า สามารถใช้สายยางปกติฉีดไล่ฝุ่นออกไปได้ หรือทำความสะอาดด้วย น้ำยาล้างจาน โดยใช้นิ้วมือของคุณถูพวกก้อนฝุ่นที่ติดสะสมอยู่ตรงแผง ไม่แนะนำให้ใช้แปรงขัด และที่สำคัญไม่ควรขัดแรงๆ เพราะจะทำให้เส้นใยของแผ่นกรองอากาศเสียหายได้ พอคุณล้างเสร็จแล้ว ให้นำไปผึ่งให้แห้ง แต่ไม่ควรตากแดดแรงๆ เพราะจะทำให้โครงพลาสติกของแผ่นกรองกรอบเสียหาย หรือเสื่อมสภาพเร็ว


ขั้นตอนที่ 2 - ฉีดสเปรย์ทำความสะอาด


  • สเปรย์โฟมล้างแอร์ ใครที่ใช้สเปรย์ทำความสะอาดแบบโฟม คุณจะต้องฉีดน้ำจากฟ็อกกี้ให้ทั่วคอยล์เย็น เมื่อคุณมั่นใจว่าฉีดน้ำเปล่าจนทั่วแล้ว ให้หยิบสเปรย์โฟมมาใช้ โดยก่อนที่คุณจะฉีดให้เขย่า 10 - 20 วินาที ฉีดสเปรย์ให้ทั่วคอยล์เย็น ทิ้งเอาไว้ 15 - 20 นาที หลังจากนั้นให้คุณฉีดน้ำเปล่าจากฟ็อกกี้ เพื่อเป็นการไล่โฟมที่ปล่อยทิ้งเอาไว้ในตอนแรก และช่วยไล่คราบสิ่งสกปรกที่ตกค้าง หลังจากนั้นก็ปล่อยทิ้งเอาไว้ให้คอยล์เย็นแห้ง
  • สเปรย์ทำความสะอาดและดับกลิ่น จะเป็นการฉีดน้ำยาทำความสะอาดเข้าที่คอยล์เย็นโดยตรง ซึ่งก่อนที่คุณจะฉีด ให้คุณปิดพัดลมก่อนเป็นการกันไม่ให้น้ำยาฟุ้งกระจาย ต้องฉีดสเปรย์ห่างจากคอยล์เย็นประมาณ 5 เซนติเมตร ฉีดจากบนลงล่างเป็นแนวเดียวกับคอยล์ เพื่อให้เศษสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ตามซอกคอยล์จะได้หลุดออกไป หลังจากที่คุณฉีดเสร็จให้ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 - 20 นาที โดยเปิดประตู หน้าต่าง และพัดลม เพื่อเป็นการระบายอากาศให้กับตัวเครื่อง


ผลจากการล้างด้วยสเปรย์ทำความสะอาด

ขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่คุณจะเปิดใช้แอร์ ให้คุณนำฟิลเตอร์มาประกอบกลับเข้ากับตัวเครื่อง หลังจากนั้นให้ทดลองเปิดแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศ เพียงเท่านี้แอร์ของคุณก็จะไม่มีฝุ่นมาเกาะตามฟิลเตอร์กับคอยล์เย็น ส่งผลให้แอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เป็นวิธีล้างแอร์ด้วยตัวเองที่ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะ สะดวก รวดเร็ว ใช้ระยะเวลาในการล้างไม่เกิน 10 นาที ไม่ก่อให้เกิดความสกปรกภายในห้อง ด้วยฤทธิ์ของน้ำยาจะเข้าไปกำจัดสิ่งสกปรกตามซอกเล็กๆ น้อยๆ ของคอยล์เย็น โดยที่คุณไม่ต้องเสี่ยงโดนคอยล์บาด ถือว่าทำความสะอาดง่าย ปราศจากฝุ่น แถมยังเป็นการฆ่าเชื้อโรค ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมในห้องของคุณให้สดชื่น ต่างกับการล้างแอร์ที่ใช้แปรงปัดฝุ่นหรือใช้น้ำฉีดที่ลดแค่ฝุ่นเท่านั้น คุณจะต้องมาเก็บกวาดห้องหลังจากที่ล้างแอร์เสร็จอีกด้วย

ปัญหาที่แอร์ไม่เย็น เพราะมีฝุ่นเกาะแน่นบนฟิลเตอร์ หรือว่าแอร์มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ สามารถจัดการได้ง่ายๆ กับการ ล้างแอร์ด้วยตัวเอง ถ้าคุณรู้ว่ามีวิธีในการทำความสะอาดแบบไหนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเอาฟิลเตอร์ไปล้าง และสำหรับใครที่ไม่สะดวกจะใช้น้ำฉีดใส่ ให้ใช้แปรงปัดฝุ่นเอา แต่ถ้ากลัวว่าการปัดฝุ่นจะไม่สะอาดพอ ก็ใช้น้ำฉีดที่คอยล์เย็นกับคอยล์ร้อน แต่ต้องระวังอย่าให้โดนเมนบอร์ด และอุปกรณ์ที่สำคัญภายในเครื่อง หรือจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดอย่างการใช้สเปรย์ทำความสะอาด ที่จะช่วยกำจัดฝุ่น และเชื้อราที่อยู่ในคอยล์ แต่วิธีเหล่านี้เป็นแค่วิธีเบื้องต้นที่ช่วยลดไม่ให้มีฝุ่นเกาะที่หน้าแผงเท่านั้น ถ้าคุณอยากจะทำความสะอาดอย่างหมดจด โดยเป็นการล้างแบบใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการตันของท่อแอร์ แนะนำให้ เรียกช่างมาล้างแอร์ ให้จะดีที่สุด เพราะด้วยอุปกรณ์ที่ครบครัน และประสบการณ์ ความชำนาญในการทำความสะอาดแอร์ จะทำให้แอร์ของคุณสะอาดอย่างหมดจด


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศ โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

ถ้าคุณรู้วิธีในการล้างแอร์ด้วยตัวเอง คุณก็จะสามารถจัดการกับฝุ่น แต่ถ้าเกิดว่าคุณลองทำความสะอาดด้วยตัวเองแล้วแอร์ยังไม่ได้เย็นขึ้น หรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ยังอยู่ เป็นไปได้ว่าคุณควรจะเรียกช่างมาล้างให้จะดีที่สุด เท่านี้ เครื่องปรับอากาศ ของคุณ ก็จะสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่ถ้าใครกำลังสนใจอยากจะซื้อเครื่องปรับอากาศตัวใหม่ สามารถไปดูสินค้าจริงได้เลยที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยทางโกลบอลเฮ้าส์ จะมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม และมี บริการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ สุดพิเศษจากช่างดีบริการครบ จบเรื่องบ้าน และการรับประกันการติดตั้ง 

หรือจะช้อปผ่านออนไลน์ก็ง่าย สบายกระเป๋า ผ่อนก็คุ้มกับโกลบอลเฮ้าส์ ที่ให้ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจาก เครื่องปรับอากาศ หรือแอร์แล้ว ทาง Global house เอง ยังให้บริการจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้านที่ดีด้วย A Better Choice for A Better Home

Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว

เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชั่นใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global house ได้หลากหลายช่องทางที่




เนื้อหาที่คล้ายกัน