ลืมรหัส ตู้เซฟต้องทำยังไง? ก่อนพลาดเสียเงินไม่รู้ตัว!!

• ล็อคแบบกุญแจ (Key Lock) การล็อคแบบนี้จะเป็นแบบเก่าที่คุณสามารถเห็นได้ทั่วไป แต่ในปัจจุบันจะมีการใช้กุญแจล็อคร่วมกับวิธีการล็อคแบบอื่นๆ เป็นการล็อค 2 ชั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ข้อดีของการล็อคแบบกุญแจ คือ ใช้งานง่าย สะดวก เพียงแค่ใช้กุญแจไข ก็สามารถเปิดได้เลย ทำให้คุณจำเป็นต้องเก็บซ่อนกุญแจให้ดีไว้ในที่ปลอดภัย หากเก็บกุญแจไว้ไม่ดี อาจทำให้ทรัพย์สินสำคัญถูกขโมยได้
• ล็อคแบบมีรหัสกลไก หรือมือหมุน (Wheel mechanical combination lock) การล็อคแบบมือหมุน เป็นกลไกที่ต้องใช้มือหมุนรหัสให้ถูกหลัก จำนวนหลายครั้ง ซึ่งการเข้ารหัสจะมี 3 เลข หรือ 4 เลข ก็จะขึ้นอยู่กับรุ่น เป็นการล็อคที่มีความปลอดภัยสูงมาก หมดกังวลเรื่องการถูกขโมยทรัพย์สินสำคัญในตู้เซฟได้เลย
• ล็อคแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic code lock) การล็อคตู้เซฟแบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะกลไกการทำงานของตู้เซฟแบบอิเล็กทรอนิกส์จะมีความปลอดภัยที่สูงสุด ตู้แบบนี้จะใช้แบตเตอรี่ขนาด AA จำนวน 4 ก้อน ควรมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกๆ 3 - 6 เดือน หากแบตเตอรี่อ่อน หรือหมดจะไม่สามารถใช้งานได้ การล็อคแบบอิเล็กทรอนิกส์จะพบในตู้เซฟ 2 แบบ คือ แบบดิจิตอลที่สามารถตั้งรหัสผ่านได้ 4 – 10 หลัก สามารถเปลี่ยนรหัสผ่านได้ตามที่ต้องการ และแบบสแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 30 ลายนิ้วมือเหมาะสำหรับใครที่ต้องการความสะดวกในการเปิด - ปิด ตู้เซฟบ่อยๆ และมีความปลอดภัยที่แน่นหนา

มีกรณีไหนบ้างที่อาจเกิดขึ้นกับคุณ และต้องทำอย่างไรเมื่อเกิด

เกิดปัญหากับการทำงานแบบแมนนวล

• ทำกุญแจตู้เซฟหาย ใครที่เก็บกุญแจตู้เซฟไว้นานจนจำไม่ได้แล้วว่าเก็บไว้ที่ไหน ไม่แนะนำให้ลองพยายามเอากุญแจดอกที่คิดว่าใช่มาไขเอง เพราะหากกุญแจหักค้างอยู่ในช่องจะเป็นปัญหาใหญ่แน่ๆ ทางที่ดีควรจะติดต่อบริษัทที่จำหน่าย หรือช่างที่ชำนาญ
• ไขกุญแจแล้วตู้เซฟไม่ปลดล็อค ถ้ามั่นใจแล้วว่าใช่กุญแจดอกนี้แน่ๆ ที่เอาไว้ไขตู้เซฟ แต่พยายามไขเท่าไหร่ตู้ก็ไม่ยอมเปิด เบื้องต้นให้ลองดูที่เขี้ยวของกุญแจว่าหักหรือไม่ เพราะถ้าหากเขี้ยวของกุญแจหักก็จะทำให้ไม่ตรงร่อง กลไกการไขก็จะไม่ทำงาน ทำให้ไม่สามารถเปิดตู้เซฟได้
• ไม่สามารถเปิดตู้เซฟแบบมือหมุนได้ มีใครบ้างที่ลองพยายามหมุนเลขตามรหัสที่มีอยู่ แต่หมุนเท่าไหร่ก็เปิดไม่ได้สักที ต้องเข้าใจก่อนว่าตู้เซฟประเภทนี้ จะต้องหมุนปุ่มที่เป็นเลขให้ตรงกับเลขรหัสที่ตั้งไว้ บางตู้มีเลขรหัส 3 ตัว หรือ 4 ตัว และต้องตรวจสอบด้วยว่ารหัสที่ตั้งไว้นั้นครบหรือไม่ หากครบให้ลองตรวจสอบอีกครั้งว่าหมุนรหัสได้ถูกต้องหรือไม่ เพราะตู้แบบมือหมุนได้ จะต้องหมุนเลขให้ตรง และใช้ความแม่นยำสูง ผิดเพียงแค่ครั้งเดียว ต้องเริ่มต้นใหม่ หรือสำหรับบางตู้ที่เป็นการล็อคแบบ 2 ชั้น ให้ตรวจสอบว่าไขกุญแจเปิดล็อคอีกชั้นแล้วหรือยัง บางทีอาจหมุนถูกต้องแล้ว แต่ไม่ได้ไขกุญแจปลดล็อคทำให้เปิดไม่ได้

บริการสำหรับลูกค้าของโกลบอลเฮ้าส์กรณีที่ลืมรหัส, ลืมกุญแจ และกุญแจหาย

1.เตรียมข้อมูลของสินค้า เพื่อทำการยืนยันว่าคุณได้ทำการสั่งซื้อจริง เช่น ใบเสร็จการสั่งซื้อ, ยี่ห้อ และรุ่นของตู้เซฟ

2.เตรียมเอกสารเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของอย่าง สำเนาบัตรประชาชน (ต้องเป็นชื่อที่ตรงกับชื่อผู้ซื้อสินค้าในระบบของบริษัทโกลบอลเฮ้าส์)

3.เตรียมรหัสเข้ากุญแจ หรือรหัสที่อยู่ของกุญแจ (ในส่วนนี้จะมีเฉพาะบางรุ่นเท่านั้น โดยรหัสเลขจะแสดงอยู่ที่ข้างนอกด้านหน้าของรูกุญแจ)

4.ตรวจสอบรหัส S/N หรือ Serial Number ที่ติดอยู่กับตู้เซฟ

5.หลังจากที่ได้เตรียมข้อมูล หรือเอกสารแล้ว ให้นำข้อมูลที่เตรียมไว้ทั้งหมด นำไปติดต่อที่โกลบอลเฮ้าส์สาขาใกล้บ้านคุณ

6.เมื่อติดต่อที่สาขาแล้ว เจ้าหน้าที่โกลบอลเฮ้าส์ จะทำการตรวจสอบ และติดต่อกลับ เพื่อทำการแก้ไขปัญหาให้กับคุณลูกค้าโดยเร็วที่สุด

***กรณีที่ไม่ใช่ลูกค้าของโกลบอลเฮ้าส์ ให้ติดต่อไปที่บริษัท หรือตัวแทนจำหน่ายโดยตรง***

เกิดปัญหากับระบบอิเล็กทรอนิกส์

• จำรหัสเลขตู้เซฟดิจิตอลไม่ได้ เนื่องจากการตั้งรหัสผ่านของตู้เซฟดิจิตอล สามารถตั้งได้สูงสุดหลัก 10 หลัก สำหรับบางคนอาจต้องการความปลอดภัยสูง เลยตั้งรหัสผ่านไว้หลายหลัก จนทำให้ลืมรหัสผ่านได้ หรือกรณีที่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านหลายหลัก และกดรหัสผ่านได้ถูกต้องแล้ว ให้ตรวจสอบต่ออีกว่าตู้เซฟเป็นแบบล็อค 2 ชั้น หรือไม่ เพราะบางทีกดรหัสผ่านถูกแล้ว แต่ไม่ได้ไขกุญแจ จึงไม่สามารถเปิดตู้เซฟได้ หากใครลืมรหัสผ่านจริงๆ ควรแจ้งกับทางบริษัทที่จำหน่าย เพราะบางบริษัทจะมี Master key ที่เอาไว้เปิดโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถเปิดตู้เซฟให้กับคุณได้
• เปิดตู้เซฟด้วยการสแกนลายนิ้วมือแล้วตู้ไม่เปิด หากสแกนลายนิ้วมือแล้ว หน้าจอขึ้นว่าถูกต้อง หรือเปิด แต่ประตูของตู้เซฟไม่เปิด ลองพยายามสแกนนิ้วทั้งหมดที่ได้นำไปตั้งรหัสผ่าน หรือลองเช็ดทำความสะอาดที่สแกนนิ้วซึ่งอาจจะสกปรก เป็นเหตุให้ลายนิ้วมือไม่ชัด หากพยายามหลายวิธีแล้ว แต่ตู้เซฟก็ไม่เปิด อาจเป็นไปได้ว่าแผงวงจรเสีย จึงทำให้ระบบรวน ควรแจ้งกับบริษัทที่จำหน่าย เพื่อให้ทางบริษัททำการเปลี่ยนแผงวงจรให้ เพียงเท่านี้ตู้เซฟของคุณ ก็จะกลับมาใช้งานได้อย่างปกติ

บริการสำหรับลูกค้าของโกลบอลเฮ้าส์กรณีที่แผงวงจรเสีย และต้องการเปลี่ยนอะไหล่

1.เตรียมข้อมูลของสินค้าเพื่อทำการยืนยันว่าคุณได้ทำการสั่งซื้อจริง เช่น ใบเสร็จการสั่งซื้อ, ยี่ห้อ และรุ่นของตู้เซฟ

2.เตรียมเอกสารเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของอย่าง สำเนาบัตรประชาชน (ต้องเป็นชื่อที่ตรงกับชื่อผู้ซื้อสินค้าในระบบของบริษัทโกลบอลเฮ้าส์)

3.ทำการอัดวิดีโอ หรือถ่ายภาพ ปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้กับพนักงาน

4.หลังจากเตรียมข้อมูล หรือเอกสารแล้ว ให้นำข้อมูลที่เตรียมไว้ทั้งหมด นำไปติดต่อที่โกลบอลเฮ้าส์สาขาใกล้บ้านคุณ

5.เมื่อติดต่อที่สาขาแล้ว เจ้าหน้าที่โกลบอลเฮ้าส์จะนำรายละเอียดทั้งหมดมาทำการตรวจสอบปัญหา และตรวจสอบอะไหล่สินค้า

6.เมื่อได้อะไหล่แล้ว เจ้าหน้าที่โกลบอลเฮ้าส์จะติดต่อกลับ และให้บริการเปลี่ยนอะไหล่ให้คุณลูกค้าโดยเร็วที่สุด

***กรณีที่ไม่ใช่ลูกค้าของโกลบอลเฮ้าส์ ให้ติดต่อไปที่บริษัท หรือตัวแทนจำหน่ายโดยตรง***