img


เลือกประตู ให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละจุดของบ้าน


ประตูที่เราพบเห็นกันในทุกวันนี้ทำจากวัสดุหลากประเภท หลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นประตูที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ อย่างประตูไม้สัก ไม้สน ไม้เต็ง หรือจะเป็นประตูที่ทำจากวัสดุทดแทนธรรมชาติ อย่างประตูพลาสติก, PVC, UPVC, Fiberglassและประตูอลูมิเนียม ซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป

สำหรับใครที่กำลังจะสร้างบ้านใหม่หรือคิดจะเปลี่ยนประตูบานเก่า แต่ไม่รู้จะเลือกประตูแบบไหนยังไงดีเพื่อให้คงทน สวยงาม และเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละจุดของบ้านมากที่สุด เนื้อหาของเราในชุดนี้จึงจะมาบอกเล่าถึงคุณสมบัติของประตูแต่ละแบบ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อประตูกันค่ะ

1. ประตูไม้จริง

คุณสมบัติ : มีความแข็งแรง คงทน อายุการใช้งานยาวนาน เข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นธรรมชาติ ข้อแนะนำ หากต้องการนำประตูไม้ไปใช้ติดตั้งภายนอก ควรใช้ประตูไม้ที่ทำจากไม้สัก เนื่องจากสามารถทนแดดทนฝนได้ดี ส่วนประตูไม้ที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง ไม้เต็ง ไม่ควรติดตั้งไว้ภายนอกเพราะมักเกิดการพองตัว บิด งอ โก่ง เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยน จึงเหมาะที่จะใช้ติดตั้งภายในเท่านั้นเพราะหากนำไปติดตั้งภายนอกอาจทำ ให้อายุการใช้งานสั้นลง

2. ประตูไม้สังเคราะห์

คุณสมบัติ :เป็นประตูที่ผลิตจากไม้เนื้อแข็งผสมรวมกับพีวีซี ผ่านกระบวนการรีดขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว ทำให้ได้บานประตูที่แข็งแรง ทนทาน กันน้ำได้ และมีผิวสัมผัสเหมือนไม้ เพราะได้นำเอาคุณสมบัติที่ดีของทั้งสองวัสดุมารวมกัน สามารถกันปลวก ไม่ลามไฟ กันแรงกระแทกได้ดี และแช่น้ำได้ จึงสามารถนำบานประตูไม้สังเคราะห์ หรือประตู WPC ไปใช้ได้กับทุกห้อง อายุการใช้งานยาวนาน

3. ประตูไม้อัด

คุณสมบัติ : เป็นประตูที่มีโครงสร้างด้านในเป็นไม้แล้วปิดทับหน้าด้วยไม้อัด มีน้ำหนักเบา สีสันสวยงาม และลายไม้สามารถทำออกมาได้หลากหลายรูปแบบ แต่ประตูไม้อัดนี้จะผุง่าย ไม่แข็งแรงคงทนเท่าที่ควร ไม่ทนต่อความชื้น และแสงแดด จึงไม่เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งภายนอกเพราะจะทำให้อายุการใช้งานสั้น

4. ประตูยูพีวีซี (uPVC) และประตูไวนิล

คุณสมบัติ : เป็นประตูพลาสติก กันน้ำที่ผิวหน้าได้ดี มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาวะแวดล้อมได้ดี ไม่ติดไฟ มีความสวยงาม ทำเป็นรูปทรงต่างๆได้หลากหลาย ดูแลรักษาง่าย ไม่ผุกร่อน ไม่ต้องทาสีตลอดอายุการใช้งาน ป้องกันเสียงรบกวนและป้องกันการรั่วซึมได้ดี แต่ด้วยการที่เป็นประตูพลาสติก ไม่เป็นธรรมชาติเหมือนไม้ ทำให้ผิวสัมผัสไม่น่าใช้และไม่เหมาะต่อการนำมาใช้เป็นประตูห้องนอนหรือประตูบ้าน แนะนำให้ใช้เป็นบานประตูห้องน้ำหรือประตูภายนอกบ้านแทน

5. ประตูพีวีซี (PVC)

คุณสมบัติ : เป็นประตูที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ ไม่มีปัญหาเรื่องความชื้นและปลวก ไม่ผุ ไม่หด หรือบิดงอ น้ำหนักเบาติดตั้งง่าย แต่ไม่แข็งแรง บาง กรอบ และแตกหักง่าย อายยุการใช้งานสั้น จึงไม่เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งภายนอกและบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง เพราะความร้อนจากแสงแดดจะทำให้บานประตูกรอบเสียหายได้ อีกทั้งบานประตูยังง่ายต่อการงัดแงะเพื่อการโจรกรรม ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับการใช้ติดตั้งภายในมากกว่า เช่น ประตูห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ฯลฯ สำหรับการใช้งานชั่วคราว งานที่ไม่ต้องการ ความแข็งแรงทนทานหรือความสวยงาม

6. ประตูไฟเบอร์กลาส

คุณสมบัติ : ประตูไฟเบอร์กลาส คือนวัตกรรมของประตูโพลีเอสเอตร์ เรซิ่น เสริมใยแก้ว ปั๊มขึ้นรูปตามแบบมาตรฐานอุตสาหกรรม แข็งแรง ทนทาน กันปลวก ทนแดด กันน้ำ ในทุกสภาพอากาศ แม้เวลาเปลี่ยนไป สามารถปรับไส ย้อมสีได้เสมือนไม้จริง อีกทั้งยังป้องกันเสียงและอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี รูปแบบมีให้เลือกทั้งบานทึบ บานช่องเกล็ด บานลูกฟัก และใส่คู่กับกระจกได้ เหมาะสำหรับใช้ภายนอกมากที่สุด

7. ประตูอลูมิเนียม

คุณสมบัติ : ประตูอะลูมิเนียมจัดเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติไม่ก่อให้เกิดสนิม ทนฝน ทนแดด หรือความร้อนได้ดี มีมวลโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน จึงคงรูปไม่เกิดการบิดงอ สามารถใช้ทดแทนไม้ เหล็ก และ พลาสติคได้ มีอายุการใช้งานยาวนาน และที่สำคัญคือการบำรุงดูแลรักษาทำได้ง่ายมาก เหมาะสำหรับการติดตั้งทั้งภายในและภายนอก




ดังนั้นการเลือกใช้ประตูจะดูเพียงความสวยงามอย่างเดียวไม่ได้ แต่ควรเลือกตามความเหมาะสมของการใช้งานและสภาพแวดล้อมโดยรอบ รวมถึงข้อจำกัดในบริเวณนั้น ๆ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามความต้องการและได้ประโยชน์สูงสุดกันค่ะ




เนื้อหาที่คล้ายกัน